"อี้ แทนคุณ"พากลุ่มลูกหนี้ร้องทุกข์"ประธานสภาฯ" ขอหามาตรการช่วยชะลอหนี้รายย่อย ด้าน"ป้าวัยเกษียณ"น้ำตาท่วม จากหนี้อันน้อยนิด สุดท้ายไร้บ้านอยู่ ลั่นเราไม่ได้ขี้เกียจ ยังมีความสามารถ ขอโอกาสจากรัฐ
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำกลุ่มลูกหนี้หลากหลายอาชีพ เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้หามาตรการช่วยเหลือและแก้ปัญหาหนี้รายย่อยภาคประชาชนอย่างระบบ โดยเฉพาะการชะลอการขายทอดตลาดและเร่งรัดออกกฎหมายฟื้นฟูหนี้สินบุคคลธรรมดาและพนักงานที่อาจต้องตกงานจํานวนมาก โดยมี นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ
โดย นายแทนคุณ กล่าวว่า ด้วยชมรมฯได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีหนี้สินรายย่อยภาคประชาชนซึ่งเป็นหนี้สินในระบบโดยมีประชาชนที่อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี จำนวนกว่า 4 ล้านคดี ทุนทรัพย์จำนวนกว่า 25 ล้านบาท โดยที่ประชาชนที่ถูกบังคับคดีจะถูกยึดที่อยู่อาศัยที่ทํากินของตนและครอบครัว โดยได้รับความเดือดร้อนมาก หลายคนสิ้นเนื้อประดาตัวในส่วนนี้เป็นหนี้ในระบบ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้ นอกระบบอีกจํานวนมากซึ่งปัญหาหนี้สินในลักษณะนี้มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมากและยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐใดที่มีหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบแบบองค์รวมและครบวงจร จึงขอให้ประธานสภาฯ หามาตรการแก้ปัญหาหนี้รายย่อยภาคประชาชนโดยเฉพาะการชะลอการขายทอดตลาดให้ลูกหนี้มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ และชําระหนี้ได้ตามความสามารถ รวมทั้งเร่งรัดการออกกฎหมายฟื้นฟูหนี้สินบุคคลธรรมดาและกิจการ รวมทั้งหามาตรการช่วยเหลือประชาชนเพื่อรองรับกรณี ตกงานอย่างเป็นระบบเพื่อเป็นการบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน
ด้าน นายเจษ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า ประธานสภาฯ ให้ความห่วงใยในเรื่องหนี้สินภาคประชาชน และขอขอบคุณชมรมที่นำเรื่องดังกล่าวมายื่นต่อประธานสภาฯ ในวันนี้ขอรับเรื่องดังกล่าว ดำเนินการตามกระบวนงานของฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมนำกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป
ขณะที่ นางจิราพร อายุ 60 ปี ข้าราชการเกษียณอายุ ที่ต้องมาทำอาชีพรับจ้าง กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนเป็นหนี้ผู้ค้ำประกัน ถูกยึดบ้านขายทอดตลาด ซึ่งหากช่วยในการให้ระยะเวลา หรือช่วยผ่อนปรน ลดจำนวนการส่ง ก็คงจะรักษาบ้านได้ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนช่วย ตนจะไปหาหน่วยงานไหนเป็นที่พึ่ง ขอให้รัฐช่วยลูกหนี้หน่อย เพราะลูกหนี้ส่วนมากสูญเสียบ้าน ไม่มีที่อยู่ จะไปอยู่ตรงไหน แค่กำลังใจก็ไม่มีอยู่แล้ว อยู่ต่อแทบไม่ได้แล้ว ต้องไปพึ่งหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ย 5 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก ต้องขายของบ้าง ขับรถบ้าง ทำที่เราทำได้ ทำทุกอย่าง พึ่งใครไม่ได้เลย
"ดิฉันขอพูดแทนลูกหนี้ทุกคน ช่วยเขาหน่อยนะคะ มีโอกาสแก้ตัวอยู่ เขากลายเป็นสูญเสียความสามารถ ซึ่งเขายังมีความสามารถอยู่ ให้โอกาสเขาด้วย อย่าเพิ่งขายทอดตลาด ด้วยหนี้เพียงเล็กน้อย ถ้ามีเวลาเราทำได้ พวกเรามีความสามารถทำได้ ไม่ใช่คนขี้เกียจ แต่พวกเราไม่มีโอกาส เพราะหนี้รุมเร้า" นางจิราพร กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี