ขออดข้าวอดน้ำจนกว่าได้ประกัน
‘สามารถ’ประท้วง!
นอนคุกคืนแรกเครียดจัด-ยันสู้คดี
โวยไม่ได้รับความเป็นธรรม
เล็งยื่นอุทธรณ์ขอปล่อยตัว
DSI จ่อฟัน 1 ในทนายไอคอน
“สามารถ”เครียดนอนคุกคืนแรก ไม่รับประทานมื้อเช้า ดื่มแต่น้ำ รองโฆษกราชทัณฑ์ ระบุผู้ต้องขัง“อดอาหาร”เป็นสิทธิ์ทำได้ แต่ต้องเซ็นเอกสารใบรับรองยืนยัน พร้อมอนุญาตให้แพทย์เข้ามาตรวจอาการทุกวันอธิบดีดีเอสไอระบุ แม่สามารถยื่นจม.น้อยให้สื่อ 8 ข้อไม่ผิดไม่มีข้อห้าม แต่สงสัยไม่ให้ปากคำในขณะสอบสวน ชี้ฝากขังได้ 84 วัน จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม“บอสพอล”ร่วมกันฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน ในเรือนจำด้านทนายเผย “สามารถ”อดอาหาร อ้างอุทิศเพื่อความยุติธรรมประเทศ พ้อDSI จับข้อกล่าวหาฟอกเงินไม่สมเหตุสมผล เพราะความผิดมูลฐานยังไม่ชัด ยันเส้นเงิน 2.5 ล้านจาก ‘บอสพอ-ปีเตอร์’ส่วน 100 ล้านไม่เกี่ยวข้องความคืบหน้ากรณีศาลอาญาอนุมัติให้ฝากขังนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เครียดนอนคุกคืนแรก-ไม่กินมื้อเช้า
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษรับตัวนายสามารถมาเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน จากการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่านายสามารถมีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง จึงให้แพทย์จ่ายยาให้เบื้องต้น และตรวจอาการอีกครั้งเช้าวันนี้ (27 พฤศจิกายน)
ส่วนสภาพจิตใจของนายสามารถพบว่า มีความเครียดตามปกติของผู้ต้องขังแรกรับ โดยนายสามารถไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดเตรียมไว้ให้ ดื่มแต่น้ำอย่างเดียว ซึ่งมื้อเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดเตรียมอาหารเป็นต้มยำไก่ ไข่ต้ม พร้อมข้าวสวย
ชี้อดอาหาร เป็นสิทธิ์ผู้ต้องขัง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแม่นายสามารถระบุว่า นายสามารถประสงค์จะอดอาหารระหว่างต่อสู้คดี นางกนกวรรณกล่าวว่า หากผู้ต้องขังประสงค์จะอดอาหารถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขัง แต่ขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ต้องให้ผู้ต้องขังที่ประสงค์อดอาหารเซ็นเอกสารใบรับรองยืนยันว่าจะอดอาหารจริง และอนุญาตให้แพทย์เข้ามาตรวจอาการทุกวัน เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งพูดคุยถึงเหตุผลของการอดอาหาร ส่วนจะเกลี้ยกล่อมให้ผู้ต้องขังกลับมารับประทานอาหารหรือไม่ อาจพยายามพูดคุยเรื่องดังกล่าว แต่ก็ต้องเคารพสิทธิ์การตัดสินใจของผู้ต้องขัง สำหรับขั้นตอนหลังกรมราชทัณฑ์รับตัวนายสามารถมาคุมขังแล้ว จะซักประวัติผู้ต้องขังใหม่ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนเข้ากระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วัน ขั้นตอนนี้ประมาณ 10-14 วัน ก่อนพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อในแดนปกติ
แม่ส่งจม.น้อยไม่ผิด-สงสัยไม่ให้ปากคำ
ด้านพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)กล่าวถึงกรณีนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดานายสามารถยื่นกระดาษ “บันทึกแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว” โดยด้านหลังเขียนขอความเป็นธรรมให้ผู้สื่อข่าวระหว่างถูกคุมตัวส่งฝากขังศาลอาญาว่า สำหรับใบบันทึกแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ให้แม่นายสามารถ เซ็นชื่อท้ายเอกสารก่อนนำตัวส่งศาลฝากขังศาล ส่วนจะมีเวลาเขียน 8 ข้อด้านหลังได้อย่างไรอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งปากกาและใบบันทึกคำสั่งฯ ที่แม่นายสามารถเขียนส่งให้นักข่าวนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้มีระเบียบเคร่งครัดในการยึดอุปกรณ์ เพียงแค่ผิดปกติ ทำไมไม่ให้การขณะสอบสวน ต้องการจะจุดประเด็นอะไรหรือไม่ และดีเอสไอให้สิทธิ์ขอพบปรึกษาทนายความได้หรือเจ็บป่วยก็รักษาพยาบาลได้เช่นกัน ส่วนประเด็น 8 ข้อดังกล่าวที่แม่นายสามารถเขียนลงในกระดาษนั้น เจ้าตัวไม่ได้ให้รายละเอียด และบอกว่าตนเองไม่ได้ทำผิด
DSIเล็งขยายผลฟัน1ในทีมทนายดิไอคอน
“ช่วงสอบสวนก็เปิดโอกาสให้แก้ข้อกล่าวหา และแสดงข้อเท็จจริง หรืออยากถามประเด็นใดก็เปิดโอกาสให้เต็มที่แล้ว แต่การไปยื่นกระดาษให้นักข่าวขณะคุมตัวส่งศาล ดีเอสไอก็ไม่ได้ห้ามติดต่อพูดคุยกับใคร เพราะตามรัฐธรรมนูญก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ เพียงควบคุมดูแลให้ได้รับความปลอดภัยตามขั้นตอนกฎหมาย และจากพิจารณาก็ไม่มีความผิดหรือข้อห้ามใดๆ”อธิบดีดีเอสไอระบุ และว่า ส่วนนายสามารถ จะชี้แจงเป็นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ให้ยื่นผ่านทนายความส่งมายังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน มีอำนาจฝากขังทั้งหมด 7 ผัด รวม 84 วัน
แหล่งข่าวเผยว่า การเข้าค้นบ้านพักนายสามารถ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่หมู่บ้านหรูย่านตลิ่งชัน ตามหมายค้น เจ้าหน้าที่พบหลักฐานมีการเตรียมทำเอกสารปลอมเกี่ยวกับการทำบุญและกู้ยืม ระหว่างผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกับนายสามารถและแม่เป็นเงินประมาณ 2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินใกล้เคียงกับที่ตรวจพบว่าผู้ต้องหาดิไอคอนฯ โอนเข้าบัญชีแม่นายสามารถ โดยมีหนึ่งในทีมทนายความของผู้ต้องหา เป็นผู้จัดทำให้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อเอาผิดทนายความรายดังกล่าว
ยันอดน้ำอดข้าวจนกว่าจะได้ประกัน
เวลา 12.20 น.วันเดียวกัน ว่าที่ ร.ต.นฤพล เรืองสังข์ ทนายความของนายสามารถเดินทางไปเยี่ยมนายสามารถที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยว่าที่ ร.ต. นฤพลให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมว่า นายสามารถยืนยันจะอดน้ำอดอาหารประท้วงจริง จนกว่าตนและหลายคนในเรือนจำจะได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งจนกว่าตนจะได้รับการประกันตัว โดยนายสามารถได้อดอาหารมา3 วันแล้วคือ ตั้งแต่ทราบว่าถูกออกหมายจับ และถูกตำรวจรวบตัวได้ที่ จ.เชียงราย ซึ่งจากการเข้าเยี่ยมพบว่า นายสามารถมีอาการปากซีด และอาการเครียด แต่ยังพูดได้และตั้งใจสู้คดีต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลใกล้ชิด แม้ตัวนายสามารถจะมีโรคประจำตัวคือ โรคตับอ่อนและความดัน ซึ่งตนพยายามบอกนายสามารถว่า ขอให้กินน้ำ กินอาหาร อย่าทำแบบนี้ แต่นายสามารถบอกว่าตนรักความยุติธรรม หากจะเสียในชีวิตในเรือนจำก็เป็นการเสียชีวิตเพื่ออุทิศให้แก่ความยุติธรรมของประเทศไทย
ว่าที่ ร.ต.นฤพลกล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้นายสามารถอดอาหารประท้วง เพราะยังไม่ได้ประกันตัวระหว่างฝากขัง และทางคดีฝั่งดีเอสไอยังเหลือสอบพยานอย่างน้อย 30 ปาก รวมทั้งข้อหาความผิดมูลฐานฟอกเงินยังไม่ชัดเจน แต่ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินเลย ทำให้นายสามารถมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และยืนยันว่า การที่นายสามารถอดอาหาร ไม่ได้เป็นเหตุผลหรือข้ออ้างที่จะออกมาอยู่ที่รพ.ราชทัณฑ์
โวยแจ้งข้อหาฟอกเงินไม่สมเหตุผล
นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมคือ เรื่องกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่ไม่มีการออกหมายเรียกทั้งนายสามารถและแม่ไปให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน แต่กลับออกหมายจับ ทั้งที่บอสพอลออกคำชี้แจงแล้วว่า ไม่มีคลิปเสียงที่เรียกรับผลประโยชน์และเส้นทางการเงิน บอสพอลก็มีเอกสารรับรองยืนยันทั้งหมด อีกทั้ง นายสามารถยังมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องตบทรัพย์ แต่สุดท้ายก็มากล่าวหาเป็นการฟอกเงิน ถือว่าย้อนแย้ง จึงยืนยันว่าการแจ้งข้อกล่าวหาว่าฟอกเงินไม่สมเหตุสมผล เพราะความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ประเด็นที่ตนได้คุยกับนายสามารถวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นแนวทางการยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่ให้ประกันตัว ซึ่งดำเนินการในส่วนคำร้องเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ในส่วนนายสามารถที่จะเขียนเหตุผลแนบท้ายคำร้อง คาดว่าจะนำไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลได้วันที่ 28 พฤศจิกายน
ชี้สามรถมอบตัวปัดถูกจับ-เล็งยื่นอุทธรณ์
ว่าที่ ร.ต.นฤพลกยังกล่าวถึงเหตุผลในการยื่นอุทธรณ์คือ จะแสดงให้เห็นว่านายสามารถเข้ามามอบตัวกับตำรวจ จ.เชียงราย หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ ไม่ได้เป็นไปตามคำร้องขอฝากขังที่กล่าวว่านายสามารถถูกตำรวจจับกุม เห็นได้ว่านายสามารถไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และการที่ระบุในคำร้องขอฝากขังว่านายสามารถถูกจับกุมนั้นไม่เป็นความจริง ถ้าศาลไม่รับคำอุทธรณ์ จะยื่นประกันตัวครั้งถัดไป ส่วนกรณีนายสามารถระบุกับสื่อว่า “อยากจะพูด แต่พูดไม่ได้”นั้น ทนายความเผยเป็นเรื่องทางคดีที่นายสามารถยังยืนยันว่า ทำไมถึงตั้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งที่ความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน
เชื่อจม.น้อยของแม่ไม่มีผลต่อคดี
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่แม่นายสามารถยื่นจดหมายน้อยให้ผู้สื่อข่าว ว่าที่ ร.ต.นฤพลกล่าวว่า นายสามารถไม่รู้เรื่องดังกล่าว ตนถามนางวิลาวัลย์ มารดานายสามารถแล้ว แม่ระบุว่าที่ทำลงไปเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและยังยืนยันว่า เส้นเงินจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 ทำไมถึงไม่ออกหมายเรียกไปให้ปากคำก่อนถูกออกหมายจับ ซึ่งตนมองว่าจดหมายดังกล่าวไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะคุณแม่นายสามารถได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน DSI ไปหมดแล้ว นอกจากนี้ ตนยังเตรียมนำนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอลมาเบิกความเป็นพยาน ถ้าศาลเปิดการไต่สวนการประกันตัว
แจงเส้นเงิน2.5ล.-ยืม1.7ล.-ทำบุญ1.3ล.
ว่าที่ร.ต.นฤพลกล่าวอีกว่า เส้นทางการเงินที่ดีเอสไอดำเนินคดีคือ เงิน 2.5 ล้านบาท ต้องอธิบายว่า แม่นายสามารถได้เงิน 2.5 ล้านบาท มาจากบอสพอล 2 ล้านบาทและบอสปีเตอร์อีก 500,000 บาท เป้าหมายของเงินแบ่งเป็น 2 ส่วนส่วนแรกคือเงินยืมจากบอสพอล 1.7 ล้านบาท ภายหลังแม่นายสามารถโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีนายสามารถเพื่อชำระหนี้แก่บอสพอล ส่วนนายสามารถจะนำเงิน 1.7 ล้านบาทไปให้บอสพอลด้วยวิธีใด ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นเส้นทางการเงินที่โอนผ่านบัญชี และก้อนที่เหลืออีก 800,000 บาท รวมเงินจากบอสปีเตอรฺด้วย 500,000 บาทเป็นเงินทำบุญทั้งหมด
ยันเงินร้อยล้านไม่เกี่ยวข้องคดีนี้
ส่วนที่ดีเอสไอตั้งประเด็น จะสอบสวนเส้นทางเงิน 100 ล้านบาทที่เชื่อมโยงบัญชีแม่นายสามารถและนายสามารถนั้น ทนายความเผยว่า จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนเส้นเงินดังกล่าว และยืนยันว่า เงิน 100 ล้านบาทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ และไม่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีในเงินก้อนนี้ แต่ที่มาของเงิน 100 ล้านบาทมาจากไหน ตนยังไม่ได้คุยกับลูกความ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี