เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วเสร็จ ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ จึงได้มีการจัดงานประเพณีฮีตสิบสองและงานประจำปีจังหวัดอำนาจเจริญขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าท้องถิ่น และหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ในการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่างๆ อีกด้วย
สำหรับปีนี้ กำหนดจัดงานประเพณีฮีตสิบสองและงานประจำปี จังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 1 -10 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ(บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ) อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
สำหรับกิจกรรมในงานทั้ง 10 วัน ประกอบด้วย วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาจังหวัดอำนาจเจริญ ครบรอบ 31 ปี และจังหวัดอำนาจเจริญเป็นจังหวัดที่ 75 ของประเทศไทย ชมการแสดงเทิดพระเกียรติ/การแสดงประเพณี ฮีตสิบสอง/การแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น/การแสดงวงโปงลางช่อฟ้าเมืองมงคล/การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องถิ่น/การประกวดเต้น/การเดินแบบผ้าไทย “ภูษาอาภรณ์ศิลป์ สู่ถิ่นผ้ามหาอำนาจ”/การแสดงดนตรีของวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ/การประกวด ทู บี นัมเบอร์วัน/การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง/หมอลำภาคประชาชน การออกสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2567 โดยมีรางวัลจำนวนมาก เพื่อหารายได้เป็นทุนในกิจกรรมการกุศลต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีจากนักร้องดังยอดนิยมเพื่อชีวิต นักร้องลูกทุ่ง หมอลำ ขับกล่อมบรรเลงบทเพลงที่ไพเราะเพลิดเพลินสนุกสนานและประทับใจ ผู้มาเที่ยวงานตลอดทั้ง 10 วันอีกด้วย
ส่วนตามบูธจัดแสดงนิทรรศการทั้ง 7 อำเภอ จัดให้มีการแสดงติดตั้งสัญลักษณ์ประจำอำเภออยู่ด้านหน้าแต่ละอำเภอ ซึ่งมีการตกแต่งสถานที่อย่างสวยงามตระการตา เพื่อให้นักท่องเที่ยว ผู้มาเที่ยวงานได้ถ่ายภาพ ถ่ายเซลฟี่ เก็บภาพประทับใจ ไว้เป็นที่ระลึกให้จดจำมิรู้ลืม
สำหรับฮีตสิบสอง คือ จารีตประเพณีสิบสองเดือน ที่ชาวอีสานได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างเคร่งครัด ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาเป็นหลัก โดยมีการเริ่มนับตั้งแต่เดือนอ้าย(เดือนธันวาคม) ซึ่งเป็นเดือนแรกเริ่มงานบุญ ในแต่ละเดือนจะมีงานบุญ ดังนี้
1.เดือนอ้าย-บุญเข้ากรรม คือ พิธีทำบุญถวายพระภิกษุผู้ต้องอาบัติ ซึ่งเข้าไปอยู่ในเขตจำกัด เพื่อทรมานร่างกายให้พ้นจากกรรมหรือพ้นจากอาบัติที่ได้กระทำและเป็นการชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เชื่อกันว่า เป็นการรำลึกและทดแทนพระคุณมารดา ที่เคยอยู่ไฟหรืออยู่กรรมหลังการคลอดบุตร 2.เดือนยี่–บุญคูณลาน(บุญคูณข้าว) เป็นการทำบุญขวัญข้าวที่นวดเสร็จและที่กองไว้บนลานบ้าน และนิมนต์พระมาสวดมนต์เย็น กลางคืนมีมหรสพพื้นบ้าน รุ่งเช้ามีการถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระสงฆ์ จากนั้นนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมตามกองข้าวและท้องนา โดยเชื่อว่า จะทำให้ข้าวกล้าในปีต่อๆ ไปงอกงามดีปราศจากศัตรูมารบกวน เสร็จพิธีจึงขนข้าวใส่ยุ้ง 3.เดือนสาม – บุญข้าวจี่ นิยมทำกันในกลางเดือนสามหรือปลายเดือนสาม ภายหลังการทำบุญวันมาฆบูชา คำว่า จี่ คือ การปิ้ง วิธีทำข้าวจี่ คือ การนำข้าวเหนี่ยวที่นึ่งสุกแล้ว มาปั้นเป็นก้อน โตเท่าไข่ไก่ ทาเกลือเคล้าให้ทั่วนวดให้เหนียว ทาด้วยไข่ซึ่งตีไข่ขาวและไข่แดงเข้ากันดีแล้ว นำไปย่างไฟให้สุกอีกครั้ง และเอาน้ำอ้อยบีบใส่เข้าไปด้วย เมื่อถึงวันงานชาวบ้านจะจัดอาหารคาวหวานและข้าวจี่มารวมกันที่ศาลาวัด นิมนต์พระสงฆ์ให้ศีลแล้วตักบาตรถวายข้าวจี่อาหารคาว เมื่อพระฉันเสร็จจะมีการแสดงพระธรรมเทศนา จากนั้นชาวบ้านจะนำข้าวจี่ที่เหลือจากพระฉันมารับประทาน เพราะเชื่อว่าจะได้รับโชค
4.เดือนสี่ – บุญพระเวส (บุญมหาชาติ) จัดเป็นงานใหญ่ของชุมชน ก่อนเริ่มงานชาวบ้านจะช่วยกันทำที่พักของผู้มาร่วมงาน ประดับประดาศาลาโรงธรรมที่วัดให้สวยงาม วันแรกเรียกว่า วันโฮม หรือวันรวม ในตอนเช้ามืดจะมีพิธีนิมนต์พระอุปคุตอรหันต์ที่หออุปคุต สร้างไว้บริเวณที่วัดจัดงาน การทำพิธีต้องไปทำที่แม่น้ำหรือลำคลองของท้องถิ่น เพราะเชื่อว่า พระอุปคุตอรหันต์สถิตอยู่ใจกลางแม่น้ำ มหาสมุทร วันที่สองตอนบ่ายมีการแห่ผะเหวด หรือแห่พระเวสสันดรและนางมัทรีเข้าเมือง วันที่สามจัดให้มีการเทศน์มหาชาติ อนึ่ง ในงานบุญนี้ มักจะมีผู้นำสิ่งของมาถวายพระ เรียก กัณฑ์หลอน โดยชาวบ้านจะแห่แหนเรี่ยไรเงินบูชากัณฑ์เทศน์ในละแวกหมู่บ้านและไม่เจาะจงจะถวายพระภิกษุใด แต่จะเจาะจงพระภิกษุนักเทศน์ที่ตนนิมนต์มา เรียกว่า กันฑ์จอบ เพราะต้องแอบซุ่มดูให้แน่ใจก่อน
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี