ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก "คนร้าย" ฆ่าโหด 3 ศพ ก่อนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู 

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 จากกรณี นายสามารถ  อายุ 58 ปี ใช้อาวุธปืนยิง นายปรีชา อายุ 54 ปี และ น.ส.วชินี อายุ 28 ปี สองพ่อลูกจนเสียชีวิต ที่บริเวณบ้านตะเคียนทอง หมู่ 2 ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู สืบเนื่องจากมีความแค้นหลังถูก นายปรีชา แจ้งจับเนื่องจากนำบัตรเอทีเอ็มของ นายปรีชา ซึ่งรัฐบาลโอนเงินผู้พิการจำนวน 10,000 ไปใช้ 

หลังก่อเหตุยิงสองพ่อลูก นายสามารถ ยังขี่รถจักรยานยนต์ ไปก่อเหตุยิง นายถาวร อายุ 66 ปี เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จนเสียชีวิตบริเวณถนนสาธารณะกลางหมู่บ้านฝายหิน ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 3 กิโลเมตร หลังก่อเหตุ นายสามารถ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง อ.เอราวัณ และ อ.ผาขาว จ.เลย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังติดตามไล่ล่า ก่อนที่จะพบเบาะแสว่า นายสามารถ ไปกินน้ำในโอ่งบริเวณที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โนนเมือง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งทำการตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์ของ นายสามารถ พบว่าอยู่ที่บริเวณภูกระโจม ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู กับ อ.เอราวัณ จ.เลย โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 2 จังหวัดกว่า 300 นาย ตีโอบเป็นรูปวงกลมล้อมรอบบริเวณภูกระโจม โดย นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง ได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าชุดจับกุมที่มาสมทบ เพื่อให้เข้าใจตรงกันเรื่องมาร์คจุดโอบล้อม เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีลงจากภูกระโจม หลังมีข้อมูลว่าคนร้ายชำนาญพื้นที่เป็นอย่างมากเพราะเคยขึ้นมาหาของป่า ที่สำคัญ คือ คนร้ายยิงอาวุธได้อย่างแม่นยำมาก จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังอย่างเต็มที่ 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 ได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเผชิญเหตุ (ชุดปฏิบัติการพิเศษ) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เพื่อสนับสนุนการจับกุมคนร้ายที่คาดว่ายังหลบหนีอยู่บนภูกระโจม กระทั่งสามารถจับกุม นายสามารถ ซึ่งอยู่ใสภาพอิดโรย หลังหลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ตีนภูกระโจม โดยก่อนจับกุม นายสามารถ ได้โทรศัพท์ไปหาภรรยาโดยบอกว่าจะขอเข้ามอบตัวเนื่องจากกลัวว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสามารถ ไปสอบปากคำที่ สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

ต่อมา พล.ต.ต.เนติพงษ์ ธาตุทำเล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ในฐานะรักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองบัวลำภู เข้าสอบปากคำ นายสามารถ ที่ สภ.ศรีบุญเรือง ด้วยตัวเอง เบื้องต้น นายสามารถ รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนแรงจูงใจเกิดจากมีปัญหาเรื่องเงินกับ นายปรีชา ผู้เสียชีวิต และโกรธแค้นที่ น.ส.วชินี ลูกสาวของผู้เสียชีวิตที่มาด่าทอ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ส่วน นายถาวร ซึ่งถูก นายสามารถ ยิงเสียชีวิตอีก 1 รายนั้น สืบเนื่องจาก นายถาวร พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมายภายร้านซ่อมรถของนายสามารถ จึงเกิดความแค้นบุกไปยิง นายถาวร จนเสียชีวิตเหตุดังกล่าว 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา นายสามารถ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหายิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือชุมชน ก่อนคุมตัว นายสามารถ ไปฝากขางที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู

ขอบคุณภาพจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองบัวลำภู