เจ้าท่าตราดแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของโรงแรมแกรนด์วิวเกาะช้าง พร้อมสั่งรื้อถอนตามกำหนด ขณะผู้ร้องเรียนบอกเป็นคำสั่งเอื้อผู้ประกอบการ
ความคืบหน้าเรื่องแท่นปูนปลูกสร้างล้ำชายหาดเกาะช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด หลังจากนายนายกิตติ ยิ้มเรวัตผู้ประกอบการในต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้ทำการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ตราด กรณีโรงแรมแห่งหนึ่งทำการก่อสร้างแท่นปูน ยื่นออกไปบริเวณชายทะเล หาดทรายขาว ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น
นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่ผู้ร้องเรียนชาวเกาะช้างได้ทำการร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผู้ประกอบการโรงแรมเกาะช้างแกรนด์วิวที่ได้ทำการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนญาต โดยอ้างทำเป็นเขื่อนกันคลื่น และทางสำนักงานเจ้าท่าตราดได้สั่งการให้ทำการรื้อถอนไปภายใน 180 วัน ซึ่งพ้นกำหนดไปแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่เจ้าของโรงแรมได้ทำเรื่องขอผ่อนผันเป็นครั้งที่ 2 โดยอ้างว่า ไม่สามารถดำเนินการรื้อถอนได้ทันเนื่องจากอุปกรณ์และเครื่องจักรไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ จึงได้ดำเนินการขอต่อระยะเวลาการรื้อถอนออกไปอีก 180 วัน แต่ทางเจ้าท่าจังหวัดตราดได้อนุญาตให้เพียง 150 วัน ซึ่งจะหมดในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
อย่างไรก็ตาม ทางนายกิตติ ยิ้มเรวัต ไม่พอใจกับคำสั่งดังกล่าว จึงเดินทางเข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อขอเหตุผลในการดำเนินการ หลังทำการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจ.ตราด เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางจังหวัด และไม่เห็นด้วยกับการที่ทางสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดตราดที่ได้มีการผ่อนผันให้กับผู้ประกอบการเป็นครั้งที่ 2 และทางจังหวัดจึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดตราดว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง และไม่ควรที่จะให้มีการอนุญาตต่อหรือยื้อเวลารื้อถอนออกไปอีก ซึ่งทางสำนักงานเจ้าท่าได้ทำหนังสือมายังทางจังหวัดเพื่อแจ้งให้ทราบว่า ทางสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดตราดได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าของโรงแรมดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 โดยบังคับให้มีการรื้อถอนออกไปภายในระยะเวลาที่ได้ทำการขอให้มีการผ่อนผัน หากไม่ดำเนินการใดๆก็จะดำเนินคดีทางอาญาและจะทำการรื้อถอนออกไปด้วยตนเอง
นายพีระ กล่าวอีกว่า เรื่องแท่นปูนหรือแท่นเบอลิเออร์ที่ปรากฏขึ้นที่หาดทรายขาวนั้น เรื่องนี้ประชาชนหรือ ผู้ประกอบการในพื้นที่ควรจะสอดส่องดูแลถึงปัญหาในพื้นที่ที่เกิดขึ้น หากมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องและปล่อยประละเลยไม่มีการแจ้งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบก่อนทีจะมีการดำเนินการก่อสร้าง และมาร้องเรียนตอนที่เขาสามารถก่อสร้างจนแล้วเสร็จแล้ว เป็นการการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง
“เรื่องนี้ปรากฏเป็นความเดือดร้อน กับประชาชนในพื้นที่แล้ว วันนี้ทางจังหวัดและทางสำนักงานเจ้าท่าตราดต่างได้รับคำร้องเรียนเพื่อให้แก้ไขและรื้อถอนออกไปอีก ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว สุดท้ายเราไปบังคับให้เขาดำเนินการเพื่อรื้อถอนก็จะลำบาก และเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันขึ้น การป้องกันที่ดีก็คือกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและต้องช่วยกันตรวจสอบว่ามีสิ่งปลูกสร้างโผล่ออกไปในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ต้องช่วยกันแก้ไขหรือแจ้งให้กับผู้เกี่ยวข้องรับทราบ หากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยก็เขียนหนังสือมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ไม่ต้องลงชื่อตัวเอง ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตราดหรือศูนย์ดำรงธรรมจ.ตราด ทางจังหวัดหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก็จะได้มาแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์พรุ่งนี้เกิดขึ้นเพราะเกิดขึ้นแล้วก็จะลำบากในการแก้ไข“รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดกล่าว"รองผู้ว่าฯตราด กล่าว
ด้านนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้รับทราบจากข่าว และจากสื่อมวลชนแล้ว แต่ตนเองไม่ได้ดูแลในเรื่องนี้ มีรองอธิบดีคนหนึ่งดูในเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามจะติดตามเรื่องนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และทางเจ้าท่าตราดใช้อำนาจหรือใช้คำสั่งที่ถูกต้องและมีระเบียบรองรับหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี