6จังหวัดน้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤต

ภาคใต้จมบาดาล

‘ปัตตานี’ประกาศภัยพิบัติ

‘สงขลา’หนักสุดรอบ36ปี

นราธิวาสถนนถูกตัดขาด

ยะลาน้ำท่วมขยายวงกว้าง

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังอ่วมหนักจ.สงขลา น้ำท่วมหลายพื้นที่ จมบาดาลสะบ้าย้อย-นาทวี หนักสุดในรอบ 36 ปีส่วนปัตตานี ประกาศภัยพิบัติทั้ง 12 อำเภอพบจมน้ำดับแล้ว 1 ศพ ขณะที่นราธิวาส วิกฤตบ้านเรือน-พื้นที่การเกษตร-ถนนหลายสายถูกตัดขาด ด้านยะลา ยังท่วมขยายวงกว้าง ไฟฟ้าดับหลายจุด

เมื่อวันที่ 28พฤศจิกายนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซีย โดยมีแนวโน้มเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30พฤศจิกายน นี้ และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง

ที่ จ.สงขลา สถานการณ์น้ำท่วมในหลายอำเภอ ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่อง และน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วม โดยเฉพาะ อ.จะนะ น้ำจากพื้นที่ อ.นาทวี ไหลทะลักท่วมตัวเมือง กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ส่งผลให้ตัวเมืองจะนะ ถูกน้ำท่วม เช่นเดียวกับ อ.เทพา น้ำไหลท่วมตัวเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ชาวบ้านเก็บข้าวของกันแทบไม่ทันเพราะน้ำมาเร็ว บางรายได้แต่นั่งมองน้ำไหลผ่าน ทั้งที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และพื้นที่ตลาดเทพา โดยระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่อ.สะเดา น้ำท่วมในหลายชุมชนในตัวเมืองเช่น หมู่บ้านสะพานม้า ชุมชนบ้านไพร ชุมชนท่าพรุ โดยกำลัง ตชด.ที่ 437 ได้นำเรือท้องแบนเข้าไปอพยพชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบ้านพัก ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ตลอดทั้งวันทั้งคืน สำหรับ อ.สะเดาทุกพื้นที่ มีการติดธงแดง ระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤต เพราะสถานการณ์รุนแรง สรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในจ.สงขลาขณะนี้พื้นที่ตอนล่างถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ทั้ง อ.จะนะ อ.เทพ อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย และ อ.สะเดา และมีแนวโน้มขยายวงกว้าง

ด้านนายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.เขต 7 จ.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอ จ.สงขลา ได้แก่ อ.จะนะ อ.เทพาอ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย เพื่อสำรวจความเสียหาย พร้อมเชิญนายอำเภอที่ได้รับผลกระทบ ร่วมหารือและประเมินสถานการณ์ ก่อนวางแผนแก้ปัญหา รวมทั้งซักซ้อมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับประสานเครือข่ายแจ้งเตือนประชาชนอย่างเป็นระบบและทันสถานการณ์

จากนั้นนายณัฎฐ์ชนน ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในศูนย์พักพิง ซึ่งมีทั้งประชาชนกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียง ก่อนเปิดเผยว่า ฝนตกอย่างหนักตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณฝนสะสมทำให้หลายอำเภอ จ.สงขลา น้ำท่วมหนัก บางพื้นที่หนักสุดในรอบ 36 ปี บ้านเรือนได้รับความเสียหาย พื้นที่การเกษตร และถนนไม่สามารถสัญจรได้

ส่วน จ.ปัตตานี สถานการณ์น้ำท่วมใน 12 อำเภอ ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากฝนยังตกต่อเนื่องทั้งวัน จนมีฝนสะสม น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงมวลน้ำจาก จ.ยะลา ที่ไหลมาสมทบในแม่น้ำปัตตานี ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงจนล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม โดยเฉพาะ อ.เมือง ทั้ง ต.จะบังติกอ ต.สะบางรัง ต.อาเนาะรู ต.บาราเฮาะ ต.ตะลุโบะ ต.ปะกาฮารัง และ ต.ปูยุด นอกจากนี้น้ำยังท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำสายสำคัญๆ ใน อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.ยะรัง อ.สายบุรี และ อ.ทุ่งยางแดง

ขณะเดียวกัน บรรยากาศในเทศบาลเมืองปัตตานี น้ำได้ล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 70-80 เซนติเมตร เช่นที่ถนนพิพิธ ย่านเศรษฐกิจ น้ำท่วมถนน 2 ช่องทาง ระดับน้ำ 30-40 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กสัญจรไปมาอย่างยากลำบาก รถของชาวบ้านหลายคันเครื่องดับกลางถนน ได้รับความเสียหาย ส่วนร้านค้าได้กั้นแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม และยกสิ่งของขึ้นที่สูง

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศให้ทั้ง 12 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว โดยมี 6 อำเภอ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อ.แม่ลาน อ.ทุ่งยางแดง อ.หนองจิก อ.มายอ อ.ไม้แก่น และ อ.โคกโพธิ์ รวม 39 ตำบล 194 หมู่บ้าน 8,452 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 28,969 คน

มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ใน อ.ยะรัง สาเหตุจากจมน้ำและถูกไฟฟ้าชอตโดยภายหลัง พ.อ.อุเทน จีนทองหลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 ได้รับการประสานว่ามีประชาชนจมน้ำบริเวณทุ่งรับน้ำ หมู่ 5 บ้านเกาะบาตอ ต.เมาะมาวี จึงนำกำลังออกค้นหา กระทั่งผ่านไป 3 ชั่วโมงจึงพบร่างผู้เสียชีวิตลอยไปติดกิ่งไม้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อนำร่างขึ้นมา จึงส่งไปชันสูตร พบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.รอฮานี วิชา อายุ 42 ปี เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้พิการทางสมอง ก่อนเกิดเหตุได้เดินเล่นน้ำอยู่ริมถนน แล้วถูกกระแสน้ำพัดร่างตกไปในคลองต่อหน้าประชาชน แม้พยายามว่ายน้ำแต่ด้วยกระแสน้ำเชี่ยวจึงจมหายไปขณะนี้ญาติได้เตรียมนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว

ขณะที่ จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าหลายพื้นที่ยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และปริมาณฝนที่ตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณซอยประชาสันติเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสน้ำเอ่อล้นคลองชลประทานเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายทุกหลัง ระดับน้ำบางจุดเกือบ 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบบเข้าไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งบางส่วนยังติดค้าง หรืออาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้อพยพออกมาเพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน

ส่วนแม่น้ำยะรังได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนแม่น้ำบางนราเข้าท่วมชุมชนจือปอ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งชาวชุมชนทยอยเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุและผู้ป่วย ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งชุมชนแห่งนี้ได้รับผลกระทบกว่า 600 คน ส่วนภาพรวมพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังวิกฤตทุกพื้นที่ ถนนหลายสายถูกตัดขาด

ที่ จ.ยะลา สถานการณ์น้ำท่วมยังขยายวงกว้างมากขึ้น โดยมีรายงานว่าน้ำในแม่น้ำปัตตานี เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณชุมชนบ้านร่ม ต.สะเตง และวิทยาลัยอาชีวะศึกษายะลา ซึ่งน้ำมีแนวโน้มล้นผนังกำแพงกั้นน้ำของเทศบาลนครยะลา ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนในพื้นที่บ้านร่มสะเตง หัวสะพานสะเตง รอบสวนขวัญเมือง ชุมชนเวฬุวัน และย่านตลาดเก่ายะลา ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 2

นอกจากนี้ในหลายพื้นที่พบว่าไฟฟ้าดับ เช่น อ.รามัน ต.โกตาบารู ต.อาซ่อง หมู่ 2 ต.กายูบอเกาะ ในเขตสะเตงนอก อ.เมือง ซอยมัสยิดมลายูบางกอก ด้านหลังตลาด อบจ.และพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 7 บ้านบุดี ขณะที่หมู่ 3 บ้านกาแป๊ะซาลัง ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง เกิดดินสไลด์ถนนทรุดตัวจนไหล่ทางเป็นเหวลึกกว่า 4 เมตร ทำให้พื้นถนนเกือบขาดเป็นแนวยาว15เมตรและใต้ถนนยังเกิดโพรงพร้อมจะถล่มลงมาทุกเมื่อ