อดข้าว4วัน/อ่อนเพลีย-ความดันตก
หาม‘สามารถ’ส่งรพ.
หลายโรครุมเร้า/วูบได้ตลอดเวลา
‘ทนายบอสพอล’วอนDSI
ขอร่วมเช็คชื่อเหยื่อ9พันคน
ราชทัณฑ์หาม“สามารถ”เข้ารักษาตัวที่ รพ.ราชทัณฑ์ หลังอดข้าวเกือบ 4 วัน เผยอาการอ่อนเพลีย ความดันตก ส่วนจะต้องนอนรักษาตัวนานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ตรวจร่างกายและวินิจฉัย ทนายเผยต้องนั่งวีลแชร์มีอาการอิดโรย พร้อมวูบตลอดเวลา เจ้าตัวขอไม่กู้ชีพหากช็อกหมดสติ ชี้หลายโรครุมเร้า ด้าน“ทนายบอสพอล” จวก“อธิบดีดีเอสไอ” สัมภาษณ์เหมือนไม่ให้ค่าพยานฝั่ง “ดิไอคอน”วอนขอให้ดีเอสไอส่ง 9,000 รายชื่อผู้เสียหาย มาให้ช่วยกันตรวจคัดกรอง ก่อนส่งอัยการ 3 ธ.ค. เผยเตรียมไปร้อง ป.ป.ช.29 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทนายความของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน และสบคบกันฟอกเงิน ออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวนายสามารถ ไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย หลังอดอาหารมาเป็นเวลาเกือบ 4 วัน ว่า เนื่องด้วยนายสามารถ ไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวันตั้งแต่ก่อนเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จึงมีอาการความดันตกเล็กน้อย และอาจรวมถึงมีอาการเครียด แต่ไม่ได้มีอาการปวดท้องร่วมด้วย ทำให้ช่วงเย็นวานนี้ (27 พ.ย.) จึงต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.ราชทัณฑ์ แต่ยืนยันว่านายสามารถ ได้ดื่มน้ำ แต่เพียงไม่ได้รับประทานอาหารหลายมื้อ
พักนานแค่ไหนอยู่ที่แพทย์รพ.ราชทัณฑ์
นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนจะเป็นแพทย์ประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่เป็นผู้ประเมินอาการนายสามารถ และวินิจฉัยนำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่นั้น ตนต้องขอไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน ว่าเป็นในเวลาหรือนอกเวลา เนื่องด้วยหากเป็นในเวลาปกติหากแพทย์เข้าเวร แพทย์จะเป็นผู้ประเมิน แต่ถ้าเป็นนอกเวลาและฉุกเฉินก็จะเป็นพยาบาล อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน ทั้งนี้ ตนกำลังจะเข้าไปภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อให้ข้อมูลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ส่วนนายสามารถจะต้องนอนพักรักษาตัวภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นานเท่าไรนั้น จะเป็นการตรวจและวินิจฉัยโดยแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นหลัก หากมีความคืบหน้าอย่างไร เรื่องการตรวจร่างกาย ตนจะได้เรียนแจ้งอีกครั้ง
ทนายชี้สมควรได้รับการประกันตัว
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ ถึงอาการของนายสามารถ ภายหลังอดอาหารและน้ำประท้วงสิทธิการประกันตัว ได้รับคำตอบว่า นายสามารถไม่ได้รับประทานอาหารตั้งแต่วันที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ควบคุมตัวเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตนเอง แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกัน
ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า การประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะมูลค่าความเสียหายของคดีดีไอคอนที่ดีเอสไอประเมินมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ในทางการสืบสวนเงินที่ผ่านบัญชีของมารดานายสามารถนั้นมีเพียงแค่ 2.5 ล้านบาท หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 0.08% ของความเสียหายทั้งหมด และในขณะนี้ทุกบัญชีก็ถูกอายัดไปหมดแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมถึงความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน และนายสามารถเองนั้นก็ไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงเป็นเหตุผลว่านายสามารถควรได้รับการประกันตัว เพื่อออกมาต่อสู้คดี และจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ระบุลูกความไม่ได้รับความเป็นธรรม
อีกทั้งตั้งแต่ที่นายสามารถรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับก็ได้มีการประสานขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย และตนก็มีหลักฐานการขอเข้ามอบตัวของนายสามารถอีกด้วย รวมทั้งในหมายจับระบุว่า ออกหมายในวันที่ 24 พ.ย. แต่ดีเอสไอได้บุกค้นในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งนายสามารถมีกำหนดการเดิมที่จะไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย อยู่แล้ว ทั้งในการไปทำบุญครั้งนั้นยังมีผู้ร่วมไปทำบุญด้วยอีกหลายคนที่เดินทางไปด้วยกัน โดยได้มีการจองตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับในวันดังกล่าว และหลังจากที่นายสามารถทราบว่าโดนหมายจับก็ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพื่อขอเข้ามอบตัว
ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวถึง ประเด็นที่มีการออกหมายจับนายสามารถในข้อหาฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน กรณีนี้ดีเอสไอยังดำเนินการในข้อหาแชร์ลูกโซ่กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ยังไม่เสร็จสิ้น และยังไม่มีความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่ แต่กลับมีการแจ้งข้อกล่าวหานี้กับนายสามารถ ตนจึงมองว่า ไม่เป็นธรรม
หลายโรครุมเร้า/จ่อวูบได้ตลอดเวลา
ร.อ.ธีรศานต์ ยังบอกอีกว่า นายสามารถมีโรคประจำตัว คือโรคเบาหวาน โรคที่เกี่ยวกับไขมัน ไตรกลีเซอไรด์สูง และโรคเกี่ยวกับตับอ่อน โดยเบื้องต้น แพทย์ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว ซึ่งจากที่ตนเข้าไปพบว่า นายสามารถมีอาการอ่อนเพลียจากการอดอาหาร โดยตอนที่เข้าไปหานั้น นายสามารถนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ ลักษณะอิดโรย เหมือนคนจะวูบตลอดเวลา ทั้งนี้นายสามารถได้เซ็นรับทราบไปแล้วในหนังสือแจ้งความประสงค์ว่า หากเกิดอาการวูบ หมดสติ ช็อก แพทย์ไม่ต้องทำการกู้ชีพ และแพทย์ได้แนะนำให้นายสามารถกลับมารับประทานอาหารตามเดิม
ต้องการประกันตัวออกมาสู้คดี
เมื่อถามว่า จะส่งตัวนายสามารถกลับเข้าเรือนจำฯ เลยหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าแพทย์ประเมินอาการไว้ว่าอย่างไร แต่ในประสงค์ของตน และทีมทนายความคือ ต้องการประกันตัวนายสามารถออกมามากกว่า และจะมีการยื่นประกันตัวอีกครั้ง โดยใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการยื่นคำร้อง และจะต้องมีการหารือกับทีมทนายความ รวมถึงยังต้องรอเอกสารประกอบให้ครบถ้วนก่อน คาดว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นช่วงบ่าย หรือช่วงเย็นวันนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไรก็จะแจ้งสื่อมวลชวนต่อไป
ทั้งนี้ ร.อ.ธีรศานต์ ยังได้ฝากจดหมายผ่านตัวทนายความ ซึ่งมีเนื้อหาใจความว่า ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในการได้รับประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดี ตามข้อบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และในตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินว่า นายสามารถ เป็นคนผิด จึงอยากออกมาสู้คดี
พยานฝั่งดิไอคอนรอDSIเรียกสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.58น.วันที่ 28พ.ย. นายวิฑรูย์ เก่งงาน ทนายความของ “บอสพอล” นายวรัตน์พล ผู้ก่อตั้งและซีอีโออาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป ส่ง tiktok มีความยาวกว่า 8 นาทีให้กลุ่มนักข่าว นายวิฑูรย์ ระบุว่า จากกรณีเมื่อวันจันทร์ที่ 25พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้นำพยานฝั่งดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน200 คนเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีทั้งที่มาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ตั้งใจจะให้ถ้อยคำเพื่อให้ข้อมูลว่าตนเองเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้านั้น ทำธุรกิจดิไอคอนอย่างไร เขายังขายสินค้าและสั่งซื้อสินค้าได้อยู่ ต้องการให้ถ้อยคำเหล่านี้ปรากฏอยู่ในสำนวนสอบสวน เพื่อให้หาความยุติธรรมกับอาชีพของเขาด้วย แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่รู้ว่าดีเอสไอจะเรียกมาสอบปากคำหรือไม่
ทั้งนี้ ดีเอสไอ มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ 10 ภาค สามารถให้ตัวแทนที่อยู่ใกล้พื้นที่ใดมาให้ปากคำก็ได้ แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น ให้มาเขียนเอกสารที่ดีเอสไอแทน ตนพูดตรงๆก็คือเข้าใจว่าดีเอสไอไม่ได้มีความพร้อมในการทำคดีนี้ ซึ่งไม่ได้สอบความจริงอีกด้านก็เป็นเรื่องหนึ่ง ขณะที่วันที่ 3 ธ.ค.นี้ ดีเอสไอจะปิดสำนวนและสรุปส่งให้อัยการ
ติงDSIเหมือนด้อยค่าพยานฝั่งดิไอคอน
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ 26 พ.ย. ว่า พยานที่ตนนำมาให้ปากคำนั้น พูดยืนยันแค่ว่า บอสพอล เป็นคนดี นั่นไม่เป็นความจริงเลย เพราะไม่มีคณะพนักงานสอบสวนท่านใดได้สอบปากคำพยานเลยสักคน แล้ว พ.ต.ต.ยุทธนา เอาข้อมูลมาจากไหนว่าพยานให้การกับพนักงานสอบสวนอย่างนั้น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ควรจะมีความเป็นผู้ใหญ่ที่มากกว่านี้ ซึ่งคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีดีเอสไอ เหมือนไม่ได้ให้ค่ากับคำให้การพยานฝั่งดิไอคอน ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจึงรู้สึกผิดหวัง
เศร้าใจกระบวนการยุติธรรมช่วงนี้
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเศร้าใจกับกระบวนการยุติธรรมในช่วงนี้มาก ตั้งข้อสังเกตว่าหลายๆอย่าง เหมือนทำคดีตามกระแส เกิดเหตุการณ์หลายอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนผมคิดว่าถึงจุดที่ต้องพูดแล้ว ข้อเท็จจริงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องฉ้อโกงประชาชนที่ตั้งเรื่องมาจากทางกองปราบฯ ซึ่งตั้งมาก็แก้กันไป แต่สิ่งที่ผมไม่ได้มาอย่างแรก ก็คือชื่อผู้กล่าวหา 10,021ชื่อ ซึ่งตอนนี้ตามที่ดีเอสไอ แถลงข่าวเหลือ 9,000 คน ไม่รู้ว่าผู้เสียหายจริงและผู้เสียหายที่ไม่จริงจำนวนเท่าไหร่ คนที่ได้รับของไปแล้วขายของไม่ได้ ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายอาญา
เตรียมไปร้องป.ป.ช.ศุกร์นี้
“ไม่รู้ว่าดีเอสไอ สรุปสำนวนลวกๆแล้วส่งให้อัยการ แล้วอัยการส่งให้ศาล แล้วต้องมานั่งแก้ปัญหา 9,000 คนที่ไม่ใช่ผู้เสียหายแท้จริง พวกเราจะทำงานกันอย่างไร การต่อสู้คดีเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก ขอให้ดีเอสไอส่งรายชื่อ 9,000 คนมาให้เถอะ จะได้ช่วยกันตรวจก่อนจะไปถึงอัยการและกรองอีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะไปถึงอัยการ หรือถ้าดีเอสไอไม่ส่งรายชื่อให้ก็ต้องมีคำอธิบายได้ว่าเพราะอะไร พฤติ การณ์คดีของผู้กล่าวหาแต่ละคนไม่ส่งให้ตนเพราะอะไร ไม่เช่นนั้นการสอบสวนจะไม่มีมิติ เป็นการฟังพยานฝ่ายเดียวและไม่รู้ว่าพยานฝั่งเรา ดีเอสไอจะสอบปากคำด้วยหรือไม่ หรือจะไม่สอบแล้วก็บันทึกไปใช้ ความไม่เป็นธรรมในการต่อสู้คดีครั้งนี้ ผมมองว่าค่อนข้างที่จะหนักมาก จึงอยากจะเรียนกับทุกท่านว่าในวันศุกร์นี้(29 พ.ย.) ผมจะไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)” นายวิฑูรย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี