พระราม2อีกแล้ว
คานเหล็กพังถล่ม
ตาย6/บาดเจ็บอื้อ
สั่งเร่งสอบสาเหตุ
คานเหล็กโครงการทางยกระดับ พระราม 2 อีกแล้ว พังถล่มทับคนงานดับ 6 ศพ บาดเจ็บนับสิบคนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบสาเหตุ ด้าน ผบ.ตร.ย้ำสอบเอาผิดเด็ดขาด ส่วน “สุริยะ” บินด่วนตรวจสอบ เร่งเยียวยา-สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใน 15 วัน งัดมาตรการ ใช้สมุดพก คาดโทษผู้รับเหมา
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุตัวยกแผ่นปูน (ทรัส) หรือคานเหล็กที่ใช้สำหรับก่อสร้างโครงการทางยกระดับพระราม 2 ตอนที่ 1 ช่วง กม.21+100 ใกล้กับตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พังถล่มลงมาในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งภายหลังตำรวจได้รับแจ้งเหตุ จึงมีการตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบว่ามีคนงานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วกว่า 10 ราย ติดอยู่ใต้ซากอย่างน้อย 3 ราย เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเคลียร์พื้นที่ได้ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะโครงสร้างจะถล่มซ้ำลงมาหรือไม่ โดยคนงานทั้งหมดที่เข้าทำงานในบริเวณดังกล่าว มีทั้งหมด 39 ราย เป็นคนไทยและคนต่างด้าว ยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 37 ราย
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนงานได้ติดตั้งก้อนคอนกรีต สำหรับทำพื้นทางยกระดับจนเกือบเสร็จแล้ว เหลือแค่จัดแนวก้อนคอนกรีตให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เพื่อรอที่จะเชื่อมปูนในวันรุ่งขึ้น เพราะเป็นเวลาใกล้เลิกงานแล้ว แต่จู่ๆ ตัวทรัส หรือคานเหล็กประคองก้อนคอนกรีต ฝั่งขาออกทางยกระดับพระราม 2 ช่วงปลาย เกิดมีเสียงดังลั่น และหล่นลงมาจากคานตอม่อ ทำให้ดึงคานเหล็กช่วงที่มีก้อนคอนกรีตแขวนอยู่ร่วงตามลงมาด้วย เป็นเหตุให้มีคนงานเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายรายดังกล่าว
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ ร่วมกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สมุทรสาคร พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าตรวจสอบสาเหตุ นำศพผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ ค้นหาผู้สูญหาย และเร่งแก้ไขปัญหา รวมทั้งเคลียร์เส้นทางจราจรถนนพระราม 2 เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ต้องปิดช่องทางด่วนถนนพระราม 2 ทั้งขาเข้าและขาออก ส่งผลให้การจราจรเกิดการติดขัด จึงประสานตำรวจทางหลวง เข้าจัดการจราจรและหลีกเลี่ยงการใช้ถนนพระราม 2 อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลียร์จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นได้รับการประสานข้อมูลว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต รวม 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2.นายเอยา อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตที่ รพ.สมุทรสาคร 3.นายชิต โกโก สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตที่เกิดเหตุ ยังนำร่างออกมาไม่ได้ 4.นายเพียว โกโก สัญชาติเมียนมา 5.นายอ่อง เทียน เท สัญชาติเมียนมา และร่างผู้เสียชีวิตอีกรายยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร ส่วนผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.รวม 9 คน
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้กำชับให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) ให้มีความเด็ดขาดในการสอบสวน ว่าเกิดจากสาเหตุใด เป็นอุบัติเหตุหรือความประมาท ซึ่งจะต้องสอบสวนผู้รับเหมา ผู้ปฏิบัติงานและบริษัทผู้รับจ้างโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง เพื่อหาทางเยียวยาความเสียหาย และวางมาตรการป้องกันปัญหาในอนาคต ซึ่งยอมรับว่าตำรวจเพียงหน่วยงานเดียว ไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด
วันเดียวกัน นายสุริยะ จึงร่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ และให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้มีข้อสรุปภายใน 15 วัน พร้อมทั้งมีมาตรการในการกำกับควบคุมการรื้อย้ายโครงสร้างและเครื่องจักรที่เสียหายโดยมีวิศวกร ควบคุมดูแล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้เพิ่มมาตรการการตรวจสอบการทำงานของผู้รับจ้าง ที่ต้องมีผู้จัดการด้านความปลอดภัย (Safety Manager) ของทั้งผู้รับจ้างและหน่วยงานรัฐ ให้กรมบัญชีกลาง นำมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา ใช้ตรวจสอบผู้รับเหมาและจะพิจารณานำระบบมาตรฐานสากล เช่น ISO ด้านความปลอดภัย มาใช้ควบคุม และหากจำเป็นอาจจะต้องยกระดับชั้นผู้รับเหมาชั้นที่เหนือชั้นพิเศษ มาใช้ เพื่อทำงานที่ยากมีพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อสาธารณชน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในระดับสูงสุด
“กรมทางหลวง ก็มีสมุดพก ที่จะประเมินตัดคะแนนผู้รับเหมา และประสานกับกรมบัญชีกลาง เพื่อลดชั้นผู้รับเหมา ปัจจุบันผู้รับเหมาชั้นพิเศษ มีแต่ปรับขึ้น แต่ผลงานไม่ดีไม่มีการปรับลง อย่างกรณีที่เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิต บริษัทผู้รับเหมาที่ทำให้เกิดเหตุ จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้ามารับงาน อาจจะถึง 2 ปี จากนั้นหากปรับปรุงจนดีขึ้นจึงคืนสิทธิ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยสาธารณะ” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวถึงกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าถนนพระราม 2 อยากให้การก่อสร้างต่างๆ แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2568 แต่ก็มีปัญหาอุปสรรค ทางผู้รับเหมาขอขยายสัญญาจนถึงสิ้นปี 2568 ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ได้ขอความร่วมมือให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนที่ประชาชนมีความรู้สึกหวาดกลัวว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกนั้น ปัญหาคือเมื่อมีมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา ก็น่าจะมีการดำเนินการเข้มงวดมากขึ้น เพราะกระทบต่อธุรกิจของบริษัทผู้รับเหมาเอง
ต่อมานายสุริยะ กล่าวภายหลังบินด่วนจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่านายกฯ มีความเป็นห่วงมาก และสั่งให้ตนเข้ามาดูแล ตรวจสอบหาสาเหตุ ที่สำคัญกระทรวงคมนาคม มีมาตรการอยู่แล้ว เราต้องมีความเด็ดขาดกับผู้รับเหมา
อีกด้านหนึ่ง นายสัณฐิติ ธรรมใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว ว่าในช่วงบ่าย ทางเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง สภาวิศวกรรมสถานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือถึงปฏิบัติการรื้อถอนโครงถักเหล็กเลื่อน หรือ Steel launching truss ออกจากจุดเกิดเหตุ มีการประเมินจากหน้างาน ส่วนร่างคนงานที่ติดอยู่ภายในซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้วนั้น จะค่อยๆ กู้ร่างออกมาตามลำดับ สำหรับโครงถักเหล็กเลื่อน มีน้ำหนักกว่า 100 ตัน ส่วนแท่ง segment มีน้ำหนักกว่า 30 ตันต่อแท่ง จึงต้องใช้รถเครนขนาด 400 ตัน หรืออย่างน้อยขนาด 200 ตัน เพื่อยกซากที่หักออกจากพื้นที่
ขณะที่ นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รอง ผวจ.สมุทรสาคร ได้ประชุมร่วมกับฝ่ายต่างๆ โดยระบุว่า มีการประเมินสถานการณ์และรายงานข้อเท็จจริง ซึ่งมีวิศวกรรมสถาน บริษัทผู้รับจ้าง และกรมทางหลวง ที่รับผิดชอบโครงการฯ ร่วมประเมินสถานการณ์ตั้งแต่ขนาดเครน วัน เวลา ที่จะยก อุปกรณ์ที่ต้องใช้ จากนั้นได้ตัดสินใจสั่งเครนที่จะเข้าดำเนินการ สำหรับการเยียวยา ทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทางผู้ตรวจราชการประกันสังคม ได้เงินจ่ายให้ผู้เสียชีวิตประมาณ 800,000 บาทเศษ ส่วนผู้บาดเจ็บใช้เงินกองทุนดูแล จนกระทั่งหายเป็นปกติ รวมทั้งบริษัทผู้รับจ้าง จะดูแลเยียวยาให้ดีที่สุด
ส่วนนายวุฒินันท์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่เบื้องต้นพบของที่คาอยู่ข้างบนชิ้นใหญ่ คิดว่าน้ำหนักประมาณ 100 ตัน และมีบล็อกที่แขวนคาอยู่คาดว่าเกิน 50 ตัน เวลารื้อค่อนข้างยาก เพราะมันเกี่ยวโยงกัน คือคานตัวนี้เป็นปั้นจั่นชนิดหนึ่งเอาไว้ยกกล่องคอนกรีต เข้าใจว่ามันร่วงตอนจัดเรียง ไม่แน่ใจว่าตัวไฮดรอลิกปั๊ม หรือสลิงไรเดอร์ หล่นไป ซึ่งข้างบนจะรื้อยาก น่าจะต้องใช้เครนตัวใหญ่หลายตัว เพราะชิ้นหนึ่งน่าจะเกิน 200 ตัน ซึ่งเรามีทีมดูแลเรื่องเครนอยู่ ซึ่งแนวทางเบื้องต้นน่าจะทยอยรื้อจากข้างบน เมื่อรื้อออกจะนำผู้เสียชีวิตออกมาได้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี