สาวฉันทนาถึงกับเข่าทรุด ครอบครัวออกไปทำงานกันหมด เกิดไฟไหม้บ้านวอดเกือบหมดทั้งหลัง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 พ.ย.67 พ.ต.ท.สุนทร พิมพันธ์ พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนคลองมอญ ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยวัดแคบางปลากด หมู่ที่ 2 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ. จึงประสานของรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ในคลองบางปลากด เทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัย กทม.รวม 5 คัน รีบเดินทางไประงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ต้องเดินเข้าบนทางเท้าของชุมชนไปประมาณ 300 เมตร และรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงปลูกอยู่ในเวิ้งน้ำภายในชุมชน เลขที่ 56/3 ม.2 ต.ในคลองบางปลากด ซึ้งบ้านมีขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 8 เมตร ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันดับไฟ โดยใช้ถังเคมีดับเพลิงและใช้ถังน้ำตักน้ำในเวิ้งน้ำใต้ถุนบ้านสาดดับไฟ โดยใช้เวลากว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบพบว่าไฟได้ไหม้เสียหายครึ่งหลัง

จาการสอบถาม นางสาว สุกัญญา แก้วนันทะ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านทราบว่า ตนเป็นสาวโรงงานทอผ้าอยู่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 โดยบ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน โดยมี ตน สามี ลูกชายและลูกสาว ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนลูกสาวออกไปเรียน เหลือเพียงสามีและลูกชายที่มีอาชีพขับรถส่งสินค้าและเด็กติดรถพักอยู่บ้านแต่ตนไม่ทราบว่าสามีและลูกออกไปจากบ้านตั้งแต่ตอนไหน มีทราบข่าวว่าบ้านไฟไหม้เมื่อช่วงเย็นในขณะที่ตนกำลังทำ OT ได้มีน้องสาวที่มีบ้านอยู่ใกล้กันโทรศัพท์มาแจ้งว่าบ้านตนเองไฟไหม้ จึงรีบนั่งรถมาดูต้องตกใจว่าไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในบ้านถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด

สอบถาม นางโสภา กล่ำแสง อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุตนได้นั่งเลี้ยงหลานอยู่ในบ้านได้ยินเพื่อนบ้านตะโกนโวยวายว่ามีไฟไหม้บ้าน จึงรีบออกมาดูพร้อมอุ้ม หลานหนีเพราะกลัวไฟลามมาที่บ้านตน ก่อนเพื่อนบ้านจะช่วยกันดับไฟและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้รีบมาช่วยเหลือ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิฐานการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร พร้อมเชิญตัวเจ้าของบ้านไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ