เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พลเรือเอก พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณี เรือรบเมียนมาใช้อาวุธต่อเรือประมงไทย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทัพเรือภาคที่ 3/ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้รับแจ้งจากเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 00.45 น.ว่าขณะที่เรือกำลังทำการประมง ร่วมกับกลุ่มเรือประมงบริเวณพื้นที่ ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จังหวัดระนอง กลุ่มเรือประมงได้ถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน โดยเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำ คือ เรือ ส เจริญชัย 8 โดยมีลูกเรือจำนวน 31 คน ถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา
ในการนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 โดย พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 ให้การช่วยเหลือเรือประมงที่ได้รับความเสียหายรวมถึง เข้าค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือประมง ดวงทวีผล 333 ที่ได้รับบาดเจ็บ และพลัดตกน้ำ ซึ่งผลการค้นหาพบว่ามีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี และผู้รับบาดเจ็บสองราย คือ นายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ไต๋เรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจากการ ถูกกระแสไฟฟ้าช๊อตตามร่างกาย โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้งสองราย มาส่งท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ระนอง เพื่อเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดระนองต่อไป โดยมอบให้ศูนย์ประสานงานชายแดนทางทะเลไทยเมียนมา ส่งกำลังพลเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์และช่วยเหลือในการนำส่ง
โดยสรุป ได้ช่วยเหลือเรือประมงทั้งหมดจำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือ 29 คน (เสียชีวิต 1 คน) และเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีลูกเรือ 33 คน (บาดเจ็บ 2 คน)
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนของ การดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือการประสานงานตามกลไกของคณะกรรมการ ในการเจรจานำเรือและลูกเรือประมงกลับสู่ประเทศไทย โดยในส่วนของ ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย - เมียนมา ติดต่อประสานงานกับ ผู้บังคับการสถานีเรือ 58 เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์เรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุม ซึ่งทราบว่าเรือรบเมียนมาได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำจริง โดยทางการเมียนมากล่าวอ้างว่ามีกลุ่มเรือประมง จำนวนประมาณ 15 ลำ เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำเมียนมา และจากการตรวจสอบพบว่า เรือประมงทั้ง 15 ลำ เป็นเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่เข้ามาหากินทำการประมงในเขตน่านน้ำของ จ.ระนอง ซึ่งอาจไม่ชำนาญพื้นที่บริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25/ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดระนอง (ประธาน TBC ฝ่ายไทย) จะมีการประชุมร่วมกับกับคณะกรรมการชายแดนไทยส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา จังหวัดเกาะสอง (ประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา) เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่ถูกจับกุม พร้อมทั้งขอให้ปล่อยตัวลูกเรือสัญชาติไทยทั้ง 4 คนพร้อมเรือประมงกลับประเทศไทย นอกจากนี้ เลขานุการ TBC ฝ่ายไทย ได้มีการประสานงานทางข้างไปยังเลขานุการ TBC ฝ่ายเมียนมาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ จังหวัดเกาะสอง
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ยังคงจัดกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ และยืนยันการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชาวประมงที่ทำกินโดยสุจริต โดยศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้เพิ่มเติมกำลังโดย จัดเรือ ต.993 ออกเรือลาดตระเวนในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยในเขตน่านน้ำไทย กับให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ 451 ทำการตรวจการณ์ พลอตเป้าติดตามเรือในพื้นที่ และทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้าให้กับเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อแจ้งเตือนให้กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ได้รับทราบและหลีกเลี่ยงการทำการประมงในพื้นที่ที่อาจไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ โดยประสานให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระนอง ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง สมาคมประมงจังหวัดระนอง รวมถึงเครือข่ายประมงในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทย ทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยไม่เข้าไปทำการประมงในพื้นที่ที่มีความความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี