เตือนผู้มีอำนาจ! ‘บิ๊กเอก’ย้ำตั้ง 116 ‘รองผบช.-ผบก.’ ต้องยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา
2 ธันวาคม 2567 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊ก Aek Angsananont ระบุว่า...
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้เป็นประธานฯ ประชุมก.ตร. มีมติให้ความเห็นชอบการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ,รอง ผบ.ตร. ,ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผบช. ตามลำดับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย กฎเกณฑ์การแต่งตั้งและแนวคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
เมื่อปรากฏผลการประชุม ก.ตร. ได้รับคำชื่นชมจากพี่น้องข้าราชการตำรวจและสื่อมวลชลที่เฝ้าจับตาดูการแต่งตั้งอย่างใกล้ชิดว่า จะมีการแทรกแซงจากการเมือง มีตั๋วต่างๆ มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งสื่อมวลชนได้ลงข่าวว่า ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแต่อย่างใด
การแต่งตั้ง ที่จะดำเนินการต่อไป เป็นการแต่งตั้งระดับ รอง ผบช. จำนวน 41 ตำแหน่ง ระดับ ผบก. จำนวน 75 ตำแหน่ง
ตร. มีหนังสือลงวันที่ 28 พ.ย.2567 แจ้งให้หน่วยต่างๆ เรื่องการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยให้จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ฯลฯ ส่งตร. ภายในวันที่ 6 ธ.ค.2567
หลักเกณฑ์การพิจารณา ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถ เรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนตำแหน่งว่าง
จำนวนตำแหน่งว่างที่เหลือ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน
การพิจารณาความสามารถรู้ความสามรถ ให้คำนึงถึงประวัติรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจ
ประวัติรับราชการ ให้พิจารณาจากประสบการณ์และความชำนาญงานโดยเฉพาะ ประสบการณ์และความชำนาญในสายงานที่จะได้รับการแต่งตั้ง โดยพิจารณาตั้งแต่เริ่มรับราชการในระดับชั้นสัญญาบัตร
ผลการปฏิบัติงาน ให้พิจารณาผลงานในหน้าที่รับผิดชอบที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน การติดตามงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืองานอื่นที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติราชการโดยให้นำผลงานดีเด่นตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
ในการพิจารณาความประพฤติ ให้คำนึงถึงการรักษาวินัย การประพฤติตนตามประมวลกฎหมายจริยธรรมข้าราชการตำรวจ จรรยาบรรณของข้าราชการตำรวจ รวมถึงภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการปกครองบังคับบัญชา การทำงานร่วมกับผู้อื่นในหมู่คณะ มนุษยสัมพันธ์ในการทำงานที่สามารถร่วมกับผู้อื่นได้มาประกอบการพิจารณาด้วย
การพิจารณาคัดเลือกให้ผู้มีอำนาจพิจารณาคัดเลือกหรือแต่งตั้งเรียงลำดับอาวุโส โดยคำนึงถึงผู้ที่ได้รับการพิจารณา จะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่จะแต่งตั้งเป็นสำคัญ
ขั้นตอนดำเนินการดังนี้
1. ผบก. จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและบัญชีผู้ที่ยังไม่เหมาะสมฯ(ถ้ามี) ของข้าราชการตำรวจระดับ รอง. ผบก. เรียงลำดับผู้เหมาะสมมากที่สุดลงไปจนถึงน้อยที่สุดส่งไปยัง บช.
2. ผบช. จัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสม เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและบัญชีผู้ที่ยังไม่เหมาะสมฯ(ถ้ามี) ระดับ รอง ผบก. เลื่อนเป็น ผบก. และระดับผบก. เลื่อนเป็น รอง ผบช. โดยพิจารณาเป็นรูปคณะกรรมการฯ เรียงลำดับผู้เหมาะสมมากที่สุดลงไปจนถึงน้อยที่สุดส่งไปยัง ตร.
3. ผบ.ตร. จัดทำบัญชีผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เรียงตามลำดับอาวุโส และข้อมูลของ ผบก.และผบช. ประกอบการพิจารณา เสนอไปยังคณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร. เป็นประธาน จตร. รอง ผบ.ตร. และผู้แทน กพ. เป็นกรรมการ) พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสม
โดยกฎหมายกำหนดให้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจคัดเลือกหรือแต่งตั้งจะต้องพิจารณาจากรายชื่อข้าราชการตำรวจ ที่คณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจมีมติเสนอแนะก่อนเสนอ ก.ตร.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
4. ก.ตร. มีหน้าที่และอำนาจ พิจารณาให้ความเห็นชอบ หากตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ พ.ร.บ.นี้กำหนด ให้แจ้ง ผบ.ตร. เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
5. ก.ตร. มีมติเห็นชอบแล้ว นายกรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ จะต้องจัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น บัญชีผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและการพิจารณาต้องเป็นไปตามที่กฎหมาย และกฎ ก.ตร. กำหนดทุกประการ
มิฉะนั้นแล้วหาก ก.พ.ค.ตร. หรือศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยหรือพิจารณาว่า การเรียงลำดับอาวุโสหรือในการแต่งตั้ง ผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้น กระทำผิดวินัย และให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจพิจารณา ลงโทษผู้นั้นตามควรแก่กรณี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก ก.พ.ค.ตร. หรือศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา หรือคำสั่ง แล้วแต่กรณี โดยไม่ต้องทำการสอบสวนอีก แล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ
ในกรณีที่ ก.ตร. มีมติเห็นว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจหรือช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้น กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ ดำเนินการลงโทษผู้นั้น โดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวน
ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือแอบอ้างอำนาจของบุคคลใดหรือเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือกระทำการใดอันมิชอบ เพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งใด ไม่ว่าการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งนั้นจะชอบด้วยหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 หรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ผมมั่นใจว่าก.ตร. จะพิจารณาให้ความเห็บชอบการแต่งตั้ง ระดับ รอง ผบช. และผบก. ตามกฎหมาย กฎก.ตร. และคำวินิจฉัยของก.พ.ค.ตร. เช่นเดียวกับการพิจารณาการแต่งตั้งระดับ ผบ.ตร. ,รอง ผบ.ตร. ,ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผบช. ตามที่ได้พิจารณามาแล้วโดยเคร่งครัดต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี