เปิดสลิปเงินเดือนครูที่รัฐอุดหนุนให้กับโรงเรียนเอกชน แต่กลับถูกโรงเรียนโอนให้ไม่เต็มจำนวน ขณะที่บางแห่งให้ครูโอนกลับคืนให้ หากไม่โอนคืนให้จะถูกกลั่นแกล้งเพิ่มชั่วโมงการสอน

จากกรณีที่ทางสื่อมวลชนนำเสนอข่าว ป.ป.ช.ตรังพบหลักฐานและข้อมูลของโรงเรียนหักเงินเดือนครู ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐในทุกๆ เดือน ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยสอบถามกับแหล่งข่าวรายหนึ่ง ที่น่าเชื่อถือได้และทราบข้อมูลพฤติกรรมการกระทำของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งให้ข้อมูลกับเราว่า โรงเรียนดังกล่าวเปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบ่งจำนวนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 31 คน ระดับชั้นประถม 101 คนและระดับชั้นมัธยม 422 คน มีคณะครูทั้งหมด 40 คนแบ่งเป็นครูที่ได้รับเงินเดือนอุดหนุนจากรัฐ 24 คนและโรงเรียนจัดจ้างเองอีก 16 คน

ในส่วน "เงินเดือนครู" พฤติการณ์ของโรงเรียนเมื่อมีครูเข้ามาสมัครสอนในตำแหน่งครูอัตราจ้างทั่วไปทางโรงเรียนจะแจ้งว่ารับได้หรือไม่หากทางโรงเรียนจ้างเองโดยจ่ายเงินเดือนให้ในจำนวน 10,000 บาท ซึ่งทางครูบางรายก็รับได้ จนต่อมาเมื่อครูได้ทำการสอนมาได้ระยะหนึ่ง โรงเรียนจะพิจารณานำชื่อครูบางรายส่งไปขอรับเงินเดือนอุดหนุนจากรัฐ ซึ่งภาษาที่โรงเรียนใช้กันคือ "ครูที่ได้รับการแต่งตั้งบรรจุ" โดยที่ทางโรงเรียนจะไม่ต้องเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้กับครู โดยที่ทางรัฐจะเป็นผู้จ่ายให้ ซึ่งทางโรงเรียนจะมีการแจ้งกับทางครูว่าจะบรรจุหรือไม่

หากบรรจุจะได้รับสวัสดิการเพิ่ม สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ สามารถรับเงินสมทบได้โดยที่ทางหัวหน้าฝ่ายบุคคลของโรงเรียน ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ได้รับใบอนุญาตและเจ้าของโรงเรียนนั้นแจ้งว่าในส่วนของเงินเดือนก็จะได้รับในจำนวน 10,000 บาทเท่าเดิม ซึ่งครูบางรายก็พยายามที่จะสอบถามซ้ำๆ ว่าได้จำนวนเท่าเดิมจริงหรือไม่ โดยที่ทางหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็ยังคงยืนยันคำพูดเดิมมาตลอด ทำให้ครูบางรายต้องรับขอเสนอในการที่ได้รับการแต่งตั้งบรรจุ 

หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้เรียกไปทำสัญญาจ้าง แต่ปรากฏในสัญญาจ้างในส่วนเงินเดือนครูที่รัฐอุดหนุนเป็นจำนวน 15xxx บาท โดยแต่ละรายจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับใบประกอบวิชาชีพ วุฒิการศึกษาบางรายจบหลักสูตรครู 4 ปี ครูบางรายจบหลักสูตร 5 ปี ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยและได้มีการสอบถามกลับทางโรงเรียนถึงได้รับเงินในส่วนนี้ได้ไม่เต็มจำนวน โดยที่ทางหัวหน้าฝ่ายบุคคลของโรงเรียนให้คำตอบว่าทางโรงเรียนจะต้องนำเงินส่วนที่หักนี้ เอาไปไว้ในการจ่ายให้กับครูที่ไม่ได้บรรจุ ซึ่งในความเป็นจริงเป็นครูที่โรงเรียนต้องจ้างเอง ซึ่งก็สร้างความสงสัยและความมึนงงให้กับครูหลายๆ คน โดยที่ทางหัวหน้าฝ่ายบุคคลของโรงเรียนยังได้บอกอีกว่าโรงเรียนทำแบบนี้ใช้ระเบียบแบบนี้มานานแล้วและโรงเรียนเอกชนทุกโรงเรียนก็ทำแบบนี้ และหากทางครูคนใดที่ไม่พอใจหรือไม่ยอมรับการที่จะได้เงินเดือนแค่ส่วนนี้ ทางโรงเรียนก็จะแจ้งว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะถอดถอนรายชื่อจากการบรรจุให้" ทำให้ครูบางรายต้องยอมรับสารภาพที่ได้รับเงินเดือนเท่าเดิมแลกกับมีงานทำต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าจากการที่แหล่งข่าวได้พูดคุยกับครูเก่าๆ และครูที่มีปัญหา ที่ลาออกและโดนไล่ออกไปแล้วนั้น ได้ข้อมูลมาอีกว่า โรงเรียนทำเช่นนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ครูหลายรุ่นที่พยายามต่อสู้กับเรื่องนี้ แต่ได้แค่พูดคุยเจรจา ไม่มีใครกล้าแจ้งความ ซึ่งลูกชายของผู้ได้รับใบอนุญาตเจ้าของโรงเรียนซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็มีการพูดว่า มีครูหลายรุ่นแล้วพยายามที่จะต่อสู้แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ ทำให้ครูบางคนต้องโดนไล่ออก โดยที่ทางโรงเรียนไม่จ่ายค่าชดเชย ไม่จ่ายเงินค่าประกัน ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เสียเปรียบอย่างไม่มีความเป็นธรรมกับครูเหล่านั้น

สำหรับเงินเดือนครูที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐก็ยังคงได้รับจำนวน 10,000 บาท ส่วนที่เป็นเงินเดือนจริงนอกเหนือจาก 10,000 บาทดังกล่าวแล้ว เช่น บางราย 15,xxx บาท 16,xxx บาท 17,xxx บาท 18,xxx บาท โรงเรียนได้มีการหักไปทั้งหมดโดยที่ครูที่บรรจุไม่เคยได้รับในส่วนนั้นเลย อีกทั้งโรงเรียนยังมีการหักหากครูมาสายเกินเวลา 07.20 น. โดยหักนาทีละ 50 บาท โดยทางโรงเรียนจะใช้บัญชีธนาคารของบุตรชายเจ้าของโรงเรียนในการโอนเงินเดือนให้กับครู โดยที่บุตรชายจะเป็นคนหักและจัดการเองทั้งหมด โดยที่ทางครูไม่สามารถเรียกร้องหรือขอเงินคืนได้เลย คงเหลือบางเดือนหากโดนหักก็อยู่ที่ 9,xxx บาท ส่วนเงินเดือนจริงนอกเหนือจาก 10,000 บาทหายเข้าโรงเรียนไปเลย

เหตุการณ์ล่าสุดที่ ป.ป.ช.ตรัง พร้อมด้วยนักข่าวลงสุ่มตรวจสอบวันแรกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า โรงเรียนเตรียมตัวตั้งรับไม่ทัน ในระหว่างที่มีการประชุมกัน ทางโรงเรียนได้บังคับให้ครูรายหนึ่งรีบไปเดินบอกครูทุกๆ คนที่กำลังสอนว่าหากมีใครถามอะไรเกี่ยวกับโรงเรียนให้พูดแบบนี้ แบบนั้น โดยที่ให้พูดโกหก ไม่ต้องพูดความจริง ทำให้หลังจากที่ ป.ป.ช.ตรัง ลงตรวจสอบทางโรงเรียนได้มีการโอนเงินเดือนเต็มจำนวนจริงให้กับทางครู โดยที่ไม่ได้ผ่านบัญชีของบุตรชายเจ้าของโรงเรียนแล้ว

แต่แหล่งข่าวไม่ทราบได้ว่าเป็นบัญชีของใคร แต่คิดว่าเป็นบัญชีที่จ่ายผ่านจากธนาคารเอง โดยทางโรงเรียนได้มาแจ้งยอดเงินเดือนครูที่เข้าบัญชีและบังคับให้ครูที่มีการโอนเงินเดือนจำนวนเต็มเข้าบัญชีแล้วนั้น กดเงินสดออกมาคืนให้กับทางโรงเรียน ในส่วนต่างที่นอกเหนือไปจากจำนวน 10,000 บาทที่โรงเรียนกำหนดให้

หากครูบางรายไม่ยอมคืนเงินกลับให้ในส่วนต่าง ทางโรงเรียนจะใช้วิธีข่มขู่ กดดัน กลั่นแกล้งสารพัดเพื่อที่จะให้ครูเกิดความเครียดและยอมคืนเงินในส่วนนั้นกลับให้ทางโรงเรียน ทั้งการเรียกไปพบพูดคุยกดดันให้คืนเงิน การบังคับเพิ่มจำนวนชั่วโมนสอนให้มากกว่าเดิม และเพิ่มรายวิชาที่ครูไม่ถนัดไปอีก 2-3 วิชาและไม่ใช่สายที่จบมาเพิ่มไปอีก เช่นปกติครูแต่ละคนสอนกันอยู่ 27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถือว่าเยอะแล้ว ทั้งที่โรงเรียนอื่นๆสอนกันแค่ 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ล่าสุดก็มาเพิ่มเป็น 30 กว่าชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมากระทำกับครูที่ไม่คืนเงิน ทำให้ครูต้องสอนเต็มแทบไม่ได้พักเพื่อเป็นการกดดัน กลั่นแกล้งเพื่อให้ทำงานไม่ได้และอาจจะให้ลาออกไปเองในที่สุด แต่ก็ยังมีการทวงอยู่ตลอด

"ที่ผ่านมาครูที่บรรจุได้รับเงินเดือนอุดหนุนจากรัฐจำนวน 24 คนในปัจจุบัน โรงเรียนหักส่วนต่างนอกเหนือจากจำนวน 10,000 บาทไปแทบทุกคน เหลือแค่เพียงครูทีเป็นญาติพี่น้องกับทางโรงเรียนจะไม่หักไปทั้งหมดในส่วนต่างนั้น ครูบางรายสภาพความเป็นอยู่น่าสงสารมาก ครูบางรายที่บรรจุทำงานมาหลายปี แทบไม่รู้เลยว่าตัวเองได้เงินเดือนมากกว่าที่โรงเรียนจ่ายให้อยู่เพียงแค่ 10,000 บาท และต่ำกว่า 10,000 บาทก็มี เมื่อมารู้เงินเดือนจริงๆ ที่ตัวเองสมควรได้รับถึงกับต้องร้องไห้ บางรายก็ดีใจ แต่ก็ยังถูกโรงเรียนบีบบังคับให้กดเป็นเงินสดมาคืนอีก" แหล่งข่าวให้ข้อมูล

ทั้งนี้ ป.ป.ช.ตรัง ยังพบข้อมูลและหลักฐานว่า การกระทำในลักษณะหักเงินเดือนครูดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่โรงเรียนที่ทาง ป.ป.ช.ตรัง พร้อมด้วยสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบเท่านั้น แต่ยังคงมีโรงเรียนเอกชนอื่นๆอีกด้วยที่ปรากฏหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินจากครูคืนไปให้กับโรงเรียนหลังจากที่ทางโรงเรียนโอนเงินเดือนให้กับครูแล้วเต็มจำนวน - 003