'พ่อไอ้ยุทธ์'มือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน นครพนม ยอมรับการตัดสินใจตำรวจ รอนำศพบำเพ็ญกุศล ด้านประธานสภา อบต.พร้อมอโหสิกรรมให้ผู้เสียชีวิต
วันที่ 3 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ์ อายุ 49 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัยและยังมีตำแหน่งประธานสภา อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ถูกยิงเข้าชายโครงขวา จำนวน 1 นัด กระสุนทะลุหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพนม ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งนายยุทธพล หลังก่อเหตุ ได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนี ไปโผล่พื้นที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เมื่อวานที่ผ่านมา (2 ธค.) ทั้งนี้ ตำรวจได้ปิดล้อมป่าอ้อย เพื่อจับกุมไอ้ยุทธหลังหลบหนีจาก จ.นครพนม และถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต เนื่องจากขัดขืนใช้ปืนอาก้ายิงต่อสู้ตำรวจในระหว่างเจรจาให้มอบตัว ทั้งนี้ยังรอขั้นตอนการชันสูตรศพ และเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ก่อนส่งศพให้ญาตินำมาบำเพ็ญกุศล
โดยบ้านเลขที่ดังกล่าวมีพ่อแม่คือนายท่อน หมอกต้ายซ้าย อายุ 85 ปีและนางแจ่ม หมอกต้ายซ้าย อายุ 79 ปี และญาติพี่น้องต่างมารวมตัวกัน จัดหาอาหารข้าวปลากินกันตามประสาชาวบ้าน เพื่อเป็นกำลังใจที่ดีต่อกัน พร้อมเตรียมจัดงานศพตามประเพณี โดยลูกสาวของคนตาย ได้เดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น คาดว่าจะนำศพกลับมาถึงบ้านในวันพรุ่งนี้ พร้อมประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี โดยทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ
สอบถามนายท่อน หมอกต้ายซ้าย อายุ 85 ปี พ่อผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญ เปิดเผยว่าไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิตของลูกชาย ยอมรับในการตัดสินใจ และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายจะมีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง และไม่เคยคิดเลยว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ เนื่องจากคนถูกยิงคือนายวินัย ที่มีความผูกพันรักใครกับครอบครัว เสมือนญาติพี่น้องบ้านใกล้กัน และลูกชายที่ตายยังรู้จักมักคุ้นสนิทสนมกับคนเจ็บ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน เชื่อว่าสาเหตุสำคัญคือเสพยาบ้าจนหลอน เพราะรู้มาตลอดว่าลูกชายเสพยา พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด เคยมีครอบครัวและหย่าร้างกัน มีลูกสาวเป็นสายสัมพันธ์ 1 คนอายุ 20 ปี แต่งงานแยกครอบครัวไปแล้ว
ต่อมานายยุทธพลไปมีภรรยาเป็นชาวลาว และมีลูกสาวอีก 1 คน อายุประมาณ 3 – 4 ขวบ แต่ไม่เคยพามาหาปู่กับย่า ยอมรับลูกชายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติด แต่ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายใคร ยังสงสัยว่าทำไมต้องก่อเหตุ สาเหตุอื่นไม่มีเลย นอกจากเสพยาบ้าแล้วหลอนเท่านั้น สวดมนต์ภาวนาทำใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ใครก่อกรรมอะไรไว้ต้องรับเอา หากเจ้าหน้าที่เมตตาไม่ขอเรียกร้องอะไร นอกจากช่วยค่าทำศพเท่านั้น
ด้านนางดา ปูนจังตัง อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่า ในส่วนของชาวบ้านยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับคนอื่น ยังตกใจเมื่อรู้ว่าลูกบ้านมีปืนสงครามใช้ก่อเหตุ ยอมรับรู้ว่าไอ้ยุทธมีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติด แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด สำหรับพื้นที่บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ มีปัญหายาเสพติดระบาด มีกลุ่มเสี่ยงหลายรายที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากพื้นที่เชื่อมกับชายแดน ทำให้มีการแพร่ระบาด โดยจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแล ประสานฝ่ายปกครอง ตำรวจเข้มงวดดูแลปราบปรามป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนอาการของคนเจ็บ นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ประธานสภา อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ทราบความคืบหน้าจากนางใส มณีรัตน์ อายุ 60 ปี ภรรยาระบุว่าอาการของสามีดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งวันนี้แพทย์ส่งเข้าห้องผ่าตัดทำการรักษาเป็นรอบที่สอง โดยหลังออกจากห้องผ่าตัดสามียังไม่ฟื้นจากยาสลบ มีอาการปลอดภัยดี แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด ห่วงปัญหาแผลติดเชื้อจากถูกกระสุนยิงทะลุชายโครงขวา ทั้งนี้ขออโหสิกรรมให้กับคนก่อเหตุที่เสียชีวิต เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สูญเสีย และไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะเป็นเสมือนญาติพี่น้อง ดูแลกันมาตลอด เชื่อว่าทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี