เดือดร้อนทั้งเกาะ! ฝูงหมาจรรุมขย้ำเมียนักท่องเที่ยวที่หาดเกาะมุก จ.ตรัง บาดเจ็บโชกเลือด เป็นแผลเกือบทั่วร่างนับ 10 แผล อยู่ในอาการเจ็บปวดร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้นต้องนั่งเรือข้ามทะเล มานอนรักษาตัวที่ รพ.กันตัง ทางด้าน ส.อบจ.ในพื้นที่ เผยเป็นปัญหาเรื้อรังนานนับ 5 ปี โดยบนเกาะมีหมาจรจัดนับร้อยตัว ออกรุมทำร้ายนักท่องเที่ยวรายวัน รวมทั้งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และภาพลักษณ์การท่องเที่ยว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เสนอแผนระยะสั้นให้ย้ายสุนัขไปอยู่ยังเกาะปิดไว้ก่อน
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ ทองวารี ส.อบจ.ตรัง เขต 4 อ.กันตัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบนเกาะมุก หมู่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ว่าได้มีนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.อังคนา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นภรรยาของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะมุก ได้ถูกฝูงสุนัขประมาณ 5-6 ตัวรุมกัดหลายจุดทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บเป็นแผลเขี้ยวสุนัขและบาดแผลฉีกขาด ก่อนจะมีการช่วยเหลือนำตัวรักษาเบื้องต้นที่ รพ.สต.บ้านเกาะมุก และนำตัวนั่งเรือข้ามจากเกาะมาเพื่อขึ้นฝั่ง ส่งรักษาต่อที่ รพ.กันตัง ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้มีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ร้องไห้ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงโรงพยาบาล เบื้องต้นทางแพทย์ได้ให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กันตัง
น.ส.อังคนา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองเดินทางมาเที่ยวที่เกาะมุกกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นชาวรัสเซีย จำนวน 2 คน ตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 30 พ.ย. ซึ่งในวันนี้ (3 ธ.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ แฟนนั่งทำงานอยู่ที่ห้องพัก ส่วนตนได้ออกมาเดินเล่นแถวชายหาดใกล้ๆกับรีสอร์ทได้ประมาณ 1 ชั่วโมง และกำลังจะเดินกลับใกล้ๆถึงรีสอร์ท ได้มีสุนัข 1 ตัววิ่งเข้ามาเห่าใส่ ตนก็พยายามที่จะไล่ แต่เหมือนว่าเมื่อเห่าเป็นการเรียกสุนัขตัวอื่นๆมา จนมีสุนัขประมาณ 5-6 ตัววิ่งเข้ามาหาตนและรุมกัด ตนก็พยายามส่งเสียงร้องเพื่อให้คนมาช่วย ซึ่งตนก็พยายามใช้กระเป๋าที่สะพายอยู่เหวี่ยงใส่ฝูงสุนัขแต่ก็ไม่ทัน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือ และให้ตนขี่หลังออกไปจากชายหาด ซึ่งก็โชคดีที่ตนไม่ล้มลง ซึ่งตนพยายามที่จะวิ่งหนีแต่เมื่อหันไปรอบๆก็มีสุนัขล้อมกัดอยู่ทั้งตัว ซึ่งเวลาตอนที่เกิดเหตุตอนนั้นประมาณ 5 นาที
ตอนนี้ก็มีแผลถูกสุนัขกัดทั่วร่างกายประมาณ 10 กว่าแผลทั่วทั้งซีกซ้าย ทั้งแขน ขา นิ้ว สะโพก ซึ่งเจ็บปวดแผลเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งแต่ตอนที่ตนเริ่มถึงเกาะก็พบเห็นว่ามีสุนัขเยอะ โดยไม่รู้ว่าเป็นสุนัขที่เลี้ยงหรือสุนัขจร แต่ตอนที่เดินเที่ยวในชุมชนหรือหมู่บ้านก็เห็นว่าสุนัขเฟรนลี่หมดเลย เพราะตนก็เป็นคนที่รักสุนัขอยู่แล้ว แต่เพิ่งจะมาเจอสุนัขที่แถบชายหาดตรงนี้ว่าดุมาก ซึ่งตนก็ไม่รู้เลย ในฐานะนักท่องเที่ยวก็มองว่าควบคุมไม่ได้ แต่หากมีการเข้ามาจัดการกับเหล่าสุนัขพวกนี้ก็น่าจะดีขึ้น เพราะตนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวขณะที่เดินเล่นชายหาด ก็ไม่ได้เห็นว่ามีสุนัขอยู่ก่อน แต่เมื่อเดินกลับจู่ๆก็มีสุนัขเข้ามารุมกัด
นายสมบูรณ์ ทองวารี ส.อบจ.ตรัง เขต 4 อ.กันตัง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านเกาะมุกได้โทรมาแจ้งว่ามีสุนัขฝูงหนึ่งได้ไล่กัดรุมขย้ำนักท่องเที่ยวจำนวน 1 รายที่ไปเดินเล่นบริเวณชายหาดตามปกติ ก่อนที่จะมีชาวบ้านเข้าไปช่วยเหลือและเบื้องต้นได้นำส่ง รพ.สต.บ้านเกาะมุก ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเกิดเหตุสุนัขไล่และรุมกัดนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยมาก บางครั้งทางผู้ประกอบการและชาวบ้านก็ไปช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งสุนัขจรจัดบนเกาะมุกแห่งนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมาไม่ต่ำกว่า 4-5 ปีแล้ว โดยบนเกาะมุกสุนัขได้สร้างความเดือดร้อนและทำร้ายนักท่องเที่ยว รวมทั้งจะกัดรองเท้า ซึ่งไม่สามารถตั้งไว้หน้าห้องพักรีสอร์ทได้ ส่วนบนเกาะลิบงก็มีปัญหาเรื่องสุนัขเยอะเช่นเดียวกัน แต่บนเกาะลิบงนั้นส่วนใหญ่จะได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของทรัพย์สินที่เป็นสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เช่น สุนัขจะชอบไปไล่กัดฝูงแพะของชาวบ้านจนเสียชีวิตหมดคอก
ส่วนสุนัขที่มีจำนวนมากบนเกาะมุกนั้น อาจจะเริ่มต้นมาจากมีการนำสุนัขมาเลี้ยง จนมีการขายที่ ขายบ้านบนเกาะ ย้ายมาอาศัยบนฝั่ง แต่กลับปล่อยสุนัขเอาไว้ ไม่ได้นำกลับไปด้วย ทำให้สุนัขบ้านกลายเป็นสุนัขจรจัด จนมีการขยายพันธุ์ขึ้นเป็นจำนวนมาก และบางตัวมีนิสัยดุร้าย และส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นฝูง หากมี 1 ตัววิ่งเข้ามาใส่ อีกหลายตัวก็จะวิ่งเข้ามาใส่เช่นกัน ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์นี้และเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จ.ตรัง เป็นอย่างมาก เรื่องนี้ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำปัญหานี้ไปพูดคุยในสภา อบจ.ตรังมาแล้ว พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ ให้ลงไปดูแล ซึ่งปศุสัตว์ก็ได้ลงไปแล้ว แต่ติดตรงปัญหางบประมาณในการจัดซื้อยาคุมกำเนิน ซึ่งมีการแจ้งมาว่าทางจังหวัดให้มาในจำนวน 200 ตัวต่อ 1 ปี ซึ่งไม่มีงบประมาณเพียงพอในจุดนั้น
ส่วนการแก้ปัญหาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่รู้จะนำหรือจับสุนัขเหล่านี้ไปไว้ที่ไหน แต่ส่วนตัวตนและคนอื่นๆที่ได้มีการพูดคุยกัน มองว่าหากจะแก้ไขแผนระยะสั้นคือนำสุนัขไปไว้ที่เกาะหยงหลำ ซึ่งเป็นเกาะปิดมีน้ำล้อมรอบ ไม่มีบ้านเรือน เป็นพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งเป็นแผนระยะสั้นที่ดีที่สุด
ทางด้าน นางพัชรินทร์ ทองวารี อายุ 55 ปี ผู้ประกอบการรีสอร์ทที่นักท่องเที่ยวไปเข้าพักใช้บริการ กล่าวว่า หากน้ำทะเลลดลูกค้า นักท่องเที่ยว และชาวบ้านมักจะออกไปหาหอย หาปลา และเดินเล่นบริเวณชายหาดในทุกๆวัน ซึ่งก็ต่างถูกฝูงสุนัขมาไล่ และบางครั้งก็รุมกัดแทบจะทุกวัน วันก่อนได้มีเด็กผู้หญิงวัย 8-9 ขวบเข้ามารุมกัด ชาวบ้านก็ไปช่วยเหลือกัน เมื่อวานก็มีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งก็ถูกสุนัขรุมกัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว และเป็นเหมือนกันแทบจะทั่วเกาะ ไม่ใช่แค่หาดที่เกิดเหตุวันนี้ ส่วนสภาพพื้นที่บนเกาะมุก ชาวบ้านส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นเป็นชาวมุสลิม สุนัขที่มีอยู่บริเวณชายหาดที่เกิดเหตุมีอยู่ประมาณ 20 กว่าตัว แต่รวมทั่วทั้งเกาะแล้วมีมากหลายร้อยตัว
ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว มีการร้องเรียนไปหน่วยงานต่างๆก็หลายครั้ง เช่นศูนย์ดำรงธรรม ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ย้ายสุนัขจรจัดทั้งหมดออกจากเกาะทั้งหมดและเร็วที่สุด เพราะช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก การแก้ปัญหาที่ผ่านมาเช่นการคุมกำเนินหรือทำหมันก็แทบไม่ได้ผล เพราะมีการขยายพันธุ์ที่เร็วมาก และชาวเกาะส่วนใหญ่ไม่มีใครทำร้ายสุนัข เพราะผิดกฎหมายและศีลธรรม บางคนที่ไปร้องเรียนมามองว่าเป็นเรื่องตลก แต่หารู้ไม่ว่ามันเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชาวบ้าน ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ อยู่กันอย่างไม่ปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างมาคอมเม้นต์กับทางรีสอร์ทเรื่องสุนัขจรจัดเหล่านี้จำนวนมากและเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง ทั้งโดนกัดทำร้ายและทำลายทรัพย์สิน
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี