รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคมชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...วันนี้ปัญหาของประเทศไทย ก็ยังเป็นเรื่อง สถานการณ์ความรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ความรุนแรง ยังไม่เคย หยุดนิ่ง หรือลดลง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน แกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น สั่งการให้มีการป่วนใต้ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และสงขลา ทั้งการวางเพลิง การวางระเบิด การเผายางรถยนต์ การพ่นสีเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ด้วยคำว่า ปาตานีเมอร์เดก้า หรือเอกราชปัตตานี และที่รุนแรงที่สุดคือการใช้เครื่องยิงระเบิด M 79 ยิ่งใส่แคมป์คนงานในสถานที่ก่อสร้าง ที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการก่อสร้างของเอกชนในที่ดินส่วนตัว ที่หมู่ที่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งหากสร้างเสร็จ ที่ตรงนี้จะเป็นแลนด์มาร์คของการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สงขลา ที่มีความสวยงาม และจะมีนักท่องเที่ยวทั้งที่เป็นชาวไทย และต่างประเทศเดินทางมาสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิม และท่องเที่ยวชายทะเล อ.เทพา เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน ซึ่งผลประโยชน์ก็จะตกกับท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่..... ซึ่งนอกจากการยิงด้วยเครื่องยิงระเบิด M 79 จำนวน 2 นัด ทำให้มีคนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 รายแล้ว แนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็น ยังมีการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก เพื่อสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ ที่หลังรับแจ้งเหตุต้องเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่บีอาร์เอ็นเป็นผู้ปฏิบัติการ โดยสาเหตุการสั่งการจากแกนนำบีอาร์เอ็นให้ป่วนใต้ในคืนเดียว ทั่วทั้ง 4 จังหวัดของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มาจากความไม่พอใจ ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่นำโดย ฉัตรชัยบางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งไปยังประเทศสวีเดนและเยอรมนี เพื่อร่วมประชุมกับคณะของ หิพนี มะเระ ซึ่งเป็นหัวหน้าพูดคุยสันติสุข ภายในปีกทางการเมืองของบีอาร์เอ็น โดยมีเจนีวาคอลล์ องค์กรเอ็นจีโอชาติตะวันตก เป็นเจ้าภาพ ที่บีอาร์เอ็นในปีกทหารไม่เห็นด้วย เป็นการส่งสัญญาณ ถึงรัฐบาลทั้งในเรื่องให้ยกเลิก การพูดคุยที่บีอาร์เอ็น กล่าวว่า รัฐไทยไม่จริงใจ ในการเจรจา จึงทำให้การเจรจา หรือที่รัฐไทย เรียกว่าเป็นการพูดคุย ไม่มีความก้าวหน้า ทั้งที่เจรจากันมาแล้วถึง 13 ปี รวมทั้งการที่รัฐไทย โดยหน่วยงานความมั่นคง กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะประกาศให้บีอาร์เอ็น เป็นองค์กรก่อการร้าย หรือไม่ก็เป็นองค์กร ที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งบีอาร์เอ็นไม่พอใจ และปีกทางทหาร ของบีอาร์เอ็น ที่มี นิเซ๊ะ นิฮะ เป็นผู้บัญชาการ จึงสั่งการให้มีการใช้ความรุนแรง เพื่อบีบบังคับในทางอ้อม ให้เกิดการไอ้เสือถอย เหมือนทุกครั้งที่ฝ่ายความมั่นคงมีการปรับเปลี่ยนแนวทาง เพื่อจัดการกับบีอาร์เอ็น ครั้งนี้จึงต้องดูว่า เสี่ยอ้วน หรือ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเสนาบดีกระทรวงกลาโหมจะมีวิธีการใดในการจัดการกับปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เสี่ยอ้วน ก็ต้องฟังสัญญาณจากนายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง เพราะ ณ วันนี้ นโยบายการแก้ไขความรุนแรงหรือปัญหาไฟใต้ ถูกกำหนดจากนายใหญ่ ไม่ใช่จาก นายกฯอิ๊งค์ ดังนั้นแม้แต่กำหนดในการเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายกรัฐมนตรีก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด.....การล็อกเป้า ก่อเหตุต่อเจ้าแม่กวนอิม ที่ ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ในครั้งนี้มีนัยสำคัญแอบแฝง อยู่ 1.บีอาร์เอ็น เลือกเป้าหมาย ที่เป็นเจ้าแม่กวนอิม เพราะต้องการชี้เป้าให้องค์กรต่างชาติ เห็นและเชื่อว่า ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นความขัดแย้งในเรื่องของศาสนาของคนในพื้นที่ 2.บีอาร์เอ็น ต้องการทำลายนโยบายพหุวัฒนธรรมของการอยู่รวมกันของคนที่ต่างศาสนาในพื้นที่ ซึ่งเป็นนโยบายการแก้ปัญหาไฟใต้ของรัฐบาล และหน่วยงานความมั่นคง 3.บีอาร์เอ็นไม่ต้องการเห็นการพัฒนาเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4.บีอาร์เอ็น ต้องการเอาใจ และได้ใจมวลชนในพื้นที่ซึ่งมีการต่อต้านการสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่มีเอ็นจีโอเป็นผู้นำ และ 5.บีอาร์เอ็นสนับสนุนมวลชนในพื้นที่ ซึ่งต่อต้านการเกิดขึ้นของเมืองอุตสาหกรรมจะนะ หรือเมืองต้นแบบแห่งอนาคต ซึ่งเป็นของเอกชน ที่เป็นผู้ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม ในพื้นที่เกิดเหตุ เพราะคนในพื้นที่เชื่อว่าการสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการหันหน้าออกไปทางทะเลซึ่งเป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี