สรรพสามิตภาคที่ 6 ร่วมกับสรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลกเข้มตรวจจับบุหรี่เถื่อนจำนวนมากเดินหน้าปราบปรามสินค้าเถื่อนอย่างจริงจัง นำเครื่อง X-RAY สำหรับตรวจสอบสินค้าในบริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่อำเภอเมือง พบในระหว่างวันที่ 4-10 ธ.ค.67 พบการกระทำความผิดจำนวน 22 รายพบของกลางเป็นบุหรี่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 27,257 ซอง มูลความเสียหายด้านภาษี 1.6 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับตามกฎหมายสูงถึง 24,751,336.39 บาท 

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ที่สรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายพงษ์สิทธิ์ สุโมตยกุล ผู้อำนวยการสรรพสามิตภาคที่ 6 นางจันทิมา เถื่อนเจริญ สรรพสามิตพื้นที่พิษณุโลก พร้อมด้วยสายตรวจสรรพสามิต เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม ได้ร่วมออกตรวจสอบสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิด ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยนำเครื่อง X-RAY สำหรับตรวจสอบสินค้าที่อยู่ในความควบคุมของกรมสรรพสามิตเข้าทำการตรวจสอบบริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ในระหว่างวันที่  4-10 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบการกระทำความผิดจำนวน 22 ราย พบของกลางเป็นบุหรี่ซิกาแรตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งสิ้น 27,257 ซอง (ประมาณ 545,140 มวน) มูลความเสียหายด้านภาษี 1.6 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับตามกฎหมายสูงถึง 24,751,336.39 บาท

โดยจากการตรวจสอบเส้นทางพบว่ามีการลักลอบส่งทางพัสดุมาจากพื้นที่ชายแดน ทั้งจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่งปลายทางลูกค้าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง สรรพสามิตใช้เครื่องเอกซเรย์กล่องพัสดุ จากศูนย์กระจายพัสดุในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก จึงดำเนินการนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก และสถานีตำรวจภูธรวัดโบสถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ 2560 โดยกล่าวหาว่า มีไว้ครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี และมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี

นายพงษ์สิทธิ์ สุโมตยกุล ผู้อำนวยการสรรพสามิตภาคที่ 6 กล่าวว่า การดำเนินการปราบปรามสินค้าเถื่อนและบุหรี่เถื่อนหรือบุหรี่หนีภาษีเป็นไปตามนโยบายของกรมสรรพสามิต เพื่อมุ่งปราบปรามสินค้าเถื่อนบุหรี่เถื่อนหรือบุหรี่มีภาษีให้หมดไปเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต ตลอดทั้งการยาสูบแห่งประเทศไทยผู้ผลิตบุหรี่ซิกาแรตและชาวไร่ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบ และเพื่อคุ้มครองประชาชนและสังคมไม่ให้บริโภคสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยในการปฏิบัติงานปราบปรามการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ได้มีการยกระดับการดำเนินการอย่างเข้มข้นด้วยการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารและหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งภาคเอกชน มีการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือทันสมัยมาใช้ในการตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแม่นยำและผลิตภาพในการปราบปรามผู้กระทำผิดเมื่อพบความผิดที่จะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมทั้งเก็บข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้อมูลผู้กระทำผิดหรือผู้เกี่ยวข้องไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป