ตำรวจ สภ.เขวาใหญ่ มหาสารคาม สนธิกำลังตำรวจ สภ.โนนสูง กาฬสินธุ์ บุกทลายเครือข่ายแก๊งโจรกรรมรถ จยย.ส่งเอเย่นต์รายใหญ่ในท้องที่ ต.โนนสูง และ ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด กาฬสินธู์ ยึดของกลาง 10 คัน ผู้ต้องหา 4 รายสารภาพมีใบสั่งส่งขายร้าน จยย.มือ 2 หาเงินเที่ยวเตร่
วันที่ 11 ธ.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม และ พ.ต.อ.พงษ์ศิริ พลเยี่ยม ผกก.สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย มอบหมายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง จ.กาฬสินธุ์ บุกทลายแหล่งรับซื้อรถ จยย.พื้นที่บ้านสร้างหิน ต.โนนสูง และต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทำการตรวจยึด จยย.ของกลางได้จำนวน 10 คัน พร้อมขยายผลรวบผู้ต้องหารวม 4 ราย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดสอบปากคำเบื้องต้น และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขวาใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.พงษ์ศิริ พลเยี่ยม ผกก.สภ.เขวาใหญ่ กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากนักศึกษา และพี่น้องประชาชนในหลายท้องที่ โดยเฉพาะในตัวอำเภอกันทรวิชัย และตัวเมืองมหาสารคามว่ารถ จยย.ที่จอดไว้ตามตลาด หอพัก ที่จอดรถทั่วไป ถูกโจรกรรมหายไปจำนวนหลายคัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามประสานตำรวจท้องที่ข้างเคียง และลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว แกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคล ก่อนที่จะทราบเบาะแสว่าทำกันเป็นขบวนการ และมีความเชื่อมโยงพ่อค้าข้ามประเทศ ซึ่งจะนำรถ จยย.ที่โจรกรรมได้ ไปส่งให้กับเอเย่นต์ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน และรอรถตู้ทึบมารับ ส่งลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
พ.ต.อ.พงษ์ศิริ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการทลายแก๊งโจรกรรม จยย.ครั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าวและประจักษ์พยานหลักฐานชัดเจน จึงได้ทำการแกะรอย กระทั่งพบตัวนายนฤพนธ์ หรือกฎ ถุวัดศรี อายุ 37 ปี ราษฎรบ้านสร้างหิน ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กำลังจะออกไปตระเวนหาลักรถ จยย.ของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและทำการควบคุมตัวไว้ จากนั้นได้ซ้อนแผนให้นายนฤพนธ์ โทร.นัดเอเย่นต์ เพื่อนำรถ จยย.ที่ขโมยได้ไปส่งจึงนำสู่การทลายแหล่งรับซื้อรายนี้ในพื้นที่ ต.โนนสูง และ ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาดดังกล่าว จากนั้นมีการขยายผลและสามารถติดตามตัวผู้ต้องหารวมขบวนการมาได้ทั้งหมด 4 รายและติดตามรถ จยย.ของกลางได้เพิ่มอีก 1 คัน ในท้องที่ อ.ห้วยเม็ก
โดยจากการตรวจยึดพบ จยย.ของกลางจำนวน 10 คัน ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย 1.นายนฤพนธ์ หรือกรต อายุ 37 ปี อยู่หมู่ 14 ต.หัวนาคำ อ.หัวนาคำ จ.กาฬสินธุ์, 2. นายไพรวัลย์ หรือเต้า อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 11 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์, 3.นายน้องรัก หรือรัก อายุ 44 ปี อยู่หมู่ 3 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และ 4.นายนพดล หรือดล อายุ 37 ปี อยู่หมู่ 3 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
ด้านนายนฤพนธ์ หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่าตนไม่มีงานทำ จึงคิดขโมยรถ จยย.ชาวบ้านที่เสียบกุญแจไว้นำไปตระเวนหาขายในพื้นที่เขตติดต่อ จ.มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์ ในราคาคันละ 3-4 พันบาท ตามรุ่นและสภาพรถ ซึ่งเห็นว่าทำได้ง่ายและมีรายได้ดี จึงทำมาเรื่อยๆ กระทั่งได้รู้จักกับแหล่งรับซื้อที่ ต.โนนสูง และ ต.หัวนาคำ จึงได้ตระเวนหาลักรถ จยย.ส่งให้โดยหาเหยื่อตามตลาด ร้านอาหาร และบริเวณรอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ผ่านมาทำมาแล้วประมาณ 30 คัน ซึ่งจะนำเงินที่ขาย จยย.ได้ไปเที่ยวเตร่
อย่างไรก็ตาม จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่แก๊งโจรกรรมกลุ่มนี้มีพฤติกรรมตระเวณลักรถ จยย.ทั่วไป มีแหล่งรับซื้อในพื้นที่ ต.โนนสูง และ ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนำส่งเอเย่นต์ตามใบสั่ง จำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง บางครั้งรวบรวมขึ้นรถตู้ทึบส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้มีการติดตามสืบสวนต่อไป เพราะเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ก่อนนำตัวไปส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับนักศึกษา ประชาชน ที่ได้มาแจ้งความ จยย.ถูกโจรกรรม สามารถมาติดต่อ ดูของกลางได้ที่ สภ.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี