‘ผบ.ตร.’สั่ง‘บิ๊กอ้อ’จัดทัพ‘กองปราบปราม’ลงพื้นที่ร่วมสางคดียิงดับ‘สจ.โต้ง ปราจีน’ ใครเอี่ยวฟันหมด ไม่มีเอนเอียง ยึดหลักฐานเป็นหลัก เชื่อขัดแย้ง‘การเมืองท้องถิ่น’ชนวนเหตุสั่งตาย พร้อมประกาศสงครามล้างบางอิทธิพลเถื่อนทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 ธ.ค.67 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ “สจ.โต้ง ปราจีนบุรี” ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำทีมตำรวจกองปราบปราม (บก.ป.) และหน่วยงานอื่นๆในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ลงพื้นที่ร่วมสนับสนุนการสืบสวนทางคดี เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง
“ผู้เสียชีวิตเป็นอดีต สจ. ซึ่งเหตุเกิดภายในบ้านของ นายก อบจ. ที่พักการปฏิบัติหน้าที่ คดีนี้เป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงจำเป็นต้องสั่งการให้ตำรวจกองปราบ ลงพื้นที่สนับพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง และให้เจ้าหน้าที่ พฐ. เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้ครบถ้วน แม้ตำรวจปราจีนบุรี ตำรวจภาค 2 จะดำเนินการเกือบครบถ้วนแล้ว แต่เราจะต้องตรวจสอบให้ครบทุกมิติ ทุกฐานความผิด รวมถึงกำชับให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่มีประวัติและเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเมื่อคืน ในส่วนภาพรวมทางคดีทราบว่าคืบหน้าไปมากพอสมควร ยืนยันไม่ว่าจะเป็นใครที่เกี่ยวข้อง ตำรวจภาค 2 จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้มีกลุ่มคนพวกนี้อยู่หลงเหลืออยู่ในสังคมไทยอีกต่อไป ไม่ว่าจะพื้นที่ไหนก็ตาม จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับผู้ก่อเหตุ ตอนนี้สื่อน่าจะทราบอยู่แล้วว่ามีการจับกุมตัวได้แล้วทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย นายก อบจ. และลูกน้อง ส่วนสาเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง แต่ทั้งนี้เพื่อความรอบครอบต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขณะที่ข้อหาหลักๆตอนนี้จะเป็นเรื่อง อาวุธปืน และ ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนใครเป็นผู้ลงมือยิงคนตายนั้น รอผลตรวจคราบเขม่าดินปืน และ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้แน่ขัดก่อน จึงจะสามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือ
เมื่อถามว่ามีผู้บงการสั่งตายหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะเร่งพิสูจน์ทราบให้ได้โดยเร็ว ขอให้พนักงานสอบสวนได้ทำงานก่อน แต่เบื้องต้นจะยื่นคัดค้านประกันตัว เมื่อดูจากข้อมูลที่ได้รับ เชื่อว่าเป็นการยิงจากฝ่ายเดียว และยังไม่พบอาวุธปืนสงคราม พบเพียงปืนลูกซองกับปืนพก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงการโต้เถียงกันของผู้ตายกับตัวนายก อบจ.ก่อนเกิดเหตุ ว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนที่อ้างว่าเจ้าตัวขึ้นไปนอนก่อนแล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นลูกน้องเป็นคนลงมือยิงเองนั้น ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัว จะอ้างหรือพูดอะไรก็ได้ แต่ข้อเท็จจริงทางคดีขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนจะมีการเตี๊ยมคำให้การกับกลุ่มลูกน้องหรือไม่นั้น ไม่ได้กังวล เพราะพยานหลักฐานจะทำให้ข้อเท็จจริงปรากฏ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ สจ.โต้ง เข้าไปในบ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพียงลำพัง หรือมีลูกน้องติดตามเข้าไปด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในส่วนนี้ขอไม่เปิดเผย แต่ยืนยันว่าจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีประวิงเวลา หรือช่วยเหลือใคร ถึงแม้จะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นก็ตาม ที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นใคร ไม่มีเอนเอียงหรือช่วยเหลือผู้มีบารมีหรือคนที่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจะเชื่อว่า มูลเหตุสังหาร น่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงว่ามูลเหตุแท้จริงคืออะไร
“จะมีการเรียกสอบปากคำนักการเมืองท้องถิ่นคนอื่นๆ หรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่จากพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับตัวผู้ตาย และกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น จากข้อมูลเดิมทราบว่า เป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นด้วยกัน แต่ปัจจุบันจะแยกออกมาเป็นคนละกลุ่มหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่มีการพูดถึงเรื่องจ่ายเงินหัวคะแนนเลือกตั้ง และ เรื่องที่มีการพูดว่าตำรวจในพื้นที่เป็นลูกน้องนั้น ก็ต้องตรวจสอบละเอียดทั้งหมด ถ้าพบผิดเกี่ยวกับเรื่องเลือกตั้งก็ต้องดำเนินคดีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่นเดียวกันตำรวจหากพบรายใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานใด ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยทั้งหมด แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่ดี ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ต้องหวาดกลัวหรือหวาดระแวงความปลอดภัย แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ตำรวจจะเดินหน้าเก็บรวบรวมข้อมูลระดมกำลังกวาดล้างปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ให้หมดไป ไม่ว่าจะพื้นที่ไหน เพื่อทำให้สังคมสงบสุข ฝากเตือนผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ มีบารมี จะทำอย่างไรก็ได้นั้น อยากบอกว่าท่านคิดผิด และขอให้หยุดพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย เพราะหลังจากนี้เราจะเร่งกวาดล้างให้หมดไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี