คุมผู้ต้องหาทำแผนยิง‘สจ.โต้ง’
เมียผวาหนัก
ขอโอนคดีให้กองปราบทำแทน
‘ลูกสาวโกทร’ไม่เชื่อพ่อสั่งตาย
‘บิ๊กอ้อ’มั่นใจพยานหลักฐานมัด
“บิ๊กอ้อ” ผช.ผบ.ตร.ย้ำปมสังหาร สจ.โต้ง ขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น มั่นใจพยานหลักฐานมัดผู้ต้องหา ด้านตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรีคุม 3 ใน 7 ผู้ต้องหาทำแผนในที่เกิดเหตุ ก่อนส่งฝากขังศาล14 ธันวาคมนี้ ด้านเมีย สจ.โต้ง ผวาอิทธิพล ร้องขอโอนคดีให้กองปราบฯและขอคุ้มครองพยาน ขณะที่ ‘ลูกสาวโกทร’ไม่เชื่อพ่อสั่งยิง ย้ำรัก สจ.โต้ง เหมือนลูก ไม่คิดส่งใครท้าชิงตำแหน่ง ส่วน ‘ทักษิณ’รับสนิท สจ.โต้ง จ่อส่งเมีย ลงชิงชัยแทน
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงษ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี อายุ 49 ปี อดีต ส.อบจ.คนดัง และโปรโมเตอร์มวยผู้กว้างขวาง เสียชีวิตที่บ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี และอดีต รมช.สาธารณสุข ตั้งอยู่ที่เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ถนนแจ้งพัฒนา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ทางตำรวจได้ควบคุมตัว นายสุนทร กับพวก รวม 7 คน ไว้สอบสวนดำเนินคดี โดยเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ว่า ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวด้วยตนเอง
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อัคราเดช ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณบ้านของนายสุนทร เพิ่มเติม พร้อมด้วยกำลังตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.ให้มากำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติ และสืบสวนสอบสวนรวมรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ โดยมีตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมด้วย โดยจะประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อสั่งการและกำชับในการรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนจะมีกรณีของการบงการหรือไม่ ทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวน มีการวางแนวทางการตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเข้าไปในที่เกิดเหตุอย่างไร จะมีการทำไทม์ไลน์เพื่อพิสูจน์ทราบ และผู้ต้องหาทั้ง 7 อยู่ในที่เกิดเหตุ มีการพูดคุยวางแผนก่อนหรือไม่อย่างไร
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จะตรวจสอบว่าการก่อเหตุครั้งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งประเด็นเบื้องต้นที่ทราบอยู่แล้ว คือเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น ซึ่งผู้เสียชีวิตและกลุ่มผู้ก่อเหตุก็เป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน พอระยะหลังที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้างและสลายกลุ่มไป กลุ่มก็แตกแยกไป ทำให้ยังมีเรื่องคาใจหลายเรื่องในการช่วยไม่ช่วยสนับสนุน จนถึงการแข่งขันการเมืองท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และสุดท้ายต้องมาดูในประเด็นอื่นอีกหรือไม่และยังมีใครเกี่ยวข้องอีก ก็จะมีการประชุมติดตามกันอีกครั้ง
สำหรับประเด็นเรื่องของกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักที่พบว่าเสียนั้น พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ไม่ว่ากล้องจะเสียหายหรือไม่เสียหาย ตำรวจก็จะส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ แต่ไม่ได้เป็นการตัดรอนในการค้นหา รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานมากพอสมควรแล้ว พร้อมยืนยันว่ากล้องวงจรปิด เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่ง แต่หลายคดีไม่มีกล้องวงจรปิด ก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งฟ้องคดีได้
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวต่อว่า ส่วนคนยิงเป็นคนในบ้านหรือคนนอก ต้องพิสูจน์ทราบ แม้ผู้ต้องหา 2 ราย จะรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิง ก็ต้องมาพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดที่แท้จริง หรือมีคนอื่นร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ โดยขณะนี้ได้เก็บพยานหลักฐานเขม่าดินปืนร่องรอยจากทุกคน ลายนิ้วมือ เสื้อผ้า ได้จัดเก็บไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ตัว สจ.โต้ง จากการตรวจสอบไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปภายในบ้าน โดยเข้าไปคุยคนเดียว และปล่อยให้บริวารอยู่ด้านนอก แต่ทำไมถึงให้บริวารหรือลูกน้องอยู่ด้านนอกนั้น ยังต้องรับฟังพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน
ต่อมาเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้คุมตัว 3 ใน 7 ผู้ต้องหาในคดียิง สจ.โต้ง เสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร หรือ ‘โกทร’ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะมีการคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดปราจีนบุรี ฝากขัง ในวันที่ 14 ธันวาคมนี้
สำหรับผู้ต้องหา 3 ราย ที่ถูกคุมตัวไปทำแผนครั้งนี้ ประกอบด้วย นายสิทธิชัย อายุ 41 ปี นายธนภัทร อายุ 18 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ติดตาม ‘โกทร’ และนายอภิสิทธิ์ อายุ 34 ปี ซึ่งทำหน้าที่ผู้ติดตาม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้แถลงสรุปภาพรวมทางคดี ภายหลังทางชุดสืบสวนได้เข้าคลี่คลายสถานการณ์ภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ ซึ่งการทำแผนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ยังคงพิจารณาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากถือเป็นผู้มีอิทธิพล และภายหลังควบคุมตัวครบ 48 ชั่วโมง ก็จะขออำนาจศาลจังหวัดปราจีนบุรี ฝากขังต่อไป
วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน ภรรยา สจ.โต้ง ปราจีนฯ และครอบครัว พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เพื่อขอให้โอนสำนวนคดียิง สจ.โต้ง ปราจีนฯ มาให้ทาง บก.ป.เป็นผู้รับผิดชอบคดีแทน สภ.เมืองปราจีนบุรี เนื่องจากภรรยา และครอบครัว เกรงว่านายสุนทร เป็นผู้มีอิทธิพลอับดับ 1 ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี จึงหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และร้องขอให้มีการคุ้มครองพยาน เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย
ด้าน น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ลูกสาวของนายสุนทร เปิดใจผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น มีใจความว่า เรื่องคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้กังวลใจอะไร แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือสุขภาพของบิดา ที่ป่วยโรคประจำตัวหลายโรค และเพิ่งผ่าตัดหัวเข่า เดินไม่สะดวก ส่วนการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง ที่เชื่อมโยงการเมืองนั้น ตนไม่คิดว่าจะมีใครลงสมัครเป็นคู่แข่ง โดยเฉพาะกระแสข่าวที่บอกว่าจะส่งลูกชายชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ปราจีนบุรี เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
น.ส.กนกวรรณ เปิดเผยด้วยว่า ส่วนตัวก็สนับสนุน ส.จ.โต้ง ในการลงชิงนายก อบจ.ตัวคุณพ่อก็สนับสนุน พ่อรัก ส.จ.โต้ง เหมือนลูก เราอยู่ด้วยกันมานาน ตนก็รักเหมือนน้องชาย รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตามกระแสข่าวที่เชื่อมโยงประเด็นการเมือง น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่โดยส่วนตัว ไม่ทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะระหว่างเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน วันนั้นตั้งใจจะไปหาหมอเพราะเลยกำหนดนัด ยืนยันว่าคุณพ่อสนับสนุน ส.จ.โต้ง อยู่แล้ว เพราะอยู่กันมานาน ก็จะเห็นได้ บางทีเขาก็เหมือนคนเมา มีการพูดคุยกันเสียงดัง แต่เขารักกัน
ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ค่อนข้างรุนแรงอีกครั้ง ว่าไม่มีอะไรที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตอิทธิพลของนายสุนทร นานแล้ว การเมืองมีทั้งฮั้ว ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก
ส่วนที่มีการเปิดแชท สจ.โต้ง กับคนสนิทของนายทักษิณ นั้น นายทักษิณ ระบุว่า “ใช่ครับ อยากให้ภรรยา ลงในนามพรรคเพื่อไทย และยืนยันว่าได้มีการคุยกับคุณสุนทร แล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ ก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่รู้ รอผลการสอบสวนก่อน”
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะส่งลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปราจีนบุรี หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนั้นได้คุยกันว่า สส.เพื่อไทย ในเขตปราจีนบุรี จะมีการสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะเขาคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ ต้องมีการกวาดล้างอิทธิพลที่ปราจีนบุรี ให้เกลี้ยง ส่วนพรรคเพื่อไทย จะส่งผู้สมัครปราจีนบุรี หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้
ขณะเดียวกัน นายทักษิณ พูดถึงปัญหาผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด ว่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาเหมือนในอดีต โดยจะให้นายกฯ เป็นหัวหน้าชุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี