‘โกทร’หลับสนิท
คุกคืนแรกคดีร่วมฆ่าสจ.โต้ง
ป.สอบ‘หมวดใจ-คนใกล้ชิด’
รองโฆษกกรมคุก เผย “โกทร-สุนทร วิลาวัลย์” และพวกนอนคุกหลับสนิท หลังศาลไม่ให้ประกันตัวในคดีฆ่า สจ.โต้ง ลิ้มรสเมนูพิเศษ แกงจืดวุ้นเส้นลูกชิ้นปลากับหน่อไม้ผัดไข่ แยกกักโรคโควิด 5 วัน ด้านกองปราบฯจัดทีมรอรับโอนคดี รุกสอบ!“หมวดใจ” 1 ใน 5 ตำรวจ ชุดดูแลความปลอดภัย “สจ.โต้ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้คุมตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อายุ 85 ปี กับพวกรวม 7 ราย ถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเหตุการณ์การเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ภายในบ้านพักของนายสุนทร และผู้ต้องหาทั้งหมดถูกฝากขังที่เรือนจำนครนายก แล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เมื่อวันที่13 ธ.ค. ศาลได้มีการส่งตัวทั้ง 7 ราย เข้าเรือนจำจังหวัดนครนายก กระบวนการการรับตัวเป็นไปตามขั้นตอนปกติ แต่การบริหารการควบคุมภายหลังจากรับตัวแล้ว จะนำตัวไว้เรือนจำใด เป็นเรื่องที่กรมราชทัณฑ์จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขังเป็นสำคัญ และถ้าเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี เป็นเรื่องที่เรือนจำจะต้องนำเรียนศาล นอกจากนี้ เรือนจำจังหวัดนครนายก ถือเป็นเรือนจำสร้างใหม่ โดยก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2566 มีความมั่นคงสูงกว่าเรือนจำที่มีสภาพเก่า
นางกนกวรรณ เผยอีกว่า การรับตัวคืนแรกนั้น เรือนจำจังหวัดนครนายก ได้นำตัวทั้ง 7 ราย เข้าสู่ขั้นตอนแยกกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ที่ชั้น 3 อาคารกักโรคของเรือนจำเช่นเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป โดยที่ไม่ได้แยกกักตัวที่สถานพยาบาลแต่อย่างใด และระหว่างกักตัว การพบทนายความเป็นไปตามสิทธิ และญาติสามารถซื้อของฝากได้ และจะมาเยี่ยมที่เรือนจำได้เมื่อพ้นระยะกักโรคแล้ว ส่วนกรณีของนายสุนทร ขั้นตอนการแรกรับ เจ้าตัวให้ความร่วมมือดี เรือนจำฯ ได้มีการตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพตามขั้นตอน ซึ่งด้วยความที่นายสุนทร อายุ 85 ปี พบโรคประจำตัวทั่วไปของผู้สูงอายุ แต่ขณะนี้ยังไม่มีอาการแสดงที่จะต้องออกไปรักษาตัวโรงพยาบาลภายนอกแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการเข้าไปสอบถามนายสุนทร ทราบว่าสามารถพักผ่อนนอนหลับได้ ไม่มีปัญหาเรื่องความเครียดมากนัก และไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของเมนูอาหารเมื่อวานตอนเย็น เป็นแกงจืดวุ้นเส้นลูกชิ้นปลากับหน่อไม้ผัดไข่ ส่วนมื้อเช้า เป็นผัดฟักทองไก่ มื้อกลางวันไข่ต้ม และมื้อเย็นต้มกะทิปลาทูฟักเขียว กุนเชียงทอด ทั้งนี้ เรือนจำฯ มีมาตรการในการดูแลเรื่องความมั่นคงปลอดภัย หลีกเลี่ยงการพบเจอกับคู่กรณีหรือผู้เสียผลประโยชน์
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วันนี้ นายสุนทร ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ และเพิ่งได้รับการผ่าตัดหัวเข่า รวมถึงพรรคพวกอีก 6 รายที่เหลือ จะกักโรคอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคารกักโรค เพราะช่วงกักโรค นายสุนทรยังไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได แต่หลังจากกักโรคเสร็จสิ้น ทางเรือนจำฯ จะพิจารณาอีกครั้งให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
ด้านความคืบหน้าของคดีดังกบล่าวที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เรียกประชุมทีมสืบสวนและสอบสวนชุดคลี่คลายคดี ที่ได้มีการลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐาน
ขณะที่ตลอดคืนที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสอบสวนของกองปราบปราม ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้เรียก “หมวดใจ” 1 ใน 5 ตำรวจ ชุดดูแลความปลอดภัย สจ.โต้ง และคนที่อยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเครียด และมีรายงานว่าช่วงบ่ายวันนี้พนักงานสอบสวนจะประสานให้ตำรวจอีก 3 นายเข้าพบเพื่อมาให้ข้อมูลในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนบุคคลอื่น อาทิ “สจ.ตุ๋ย” “รองอุ๊” ยังมีความจำเป็นต้องเรียกมาสอบ ซึ่งคาดว่าบุคคลเหล่านี้จะถูกเรียกตัวไปสอบหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งโอนสำนวนให้ทางกองปราบฯ ก่อน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า หลังจาก น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ยื่นเอกสารขอให้โอนสำนวนคดีการตายของ สจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปราม เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
ภายหลังรับเรื่อง ตำรวจสอบสวนกลางได้รายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทราบมาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะมีความชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์หน้า
โดยตำรวจสอบสวนกลางจัดชุดทำคดีนี้ไว้แล้ว โดยมอบหมายให้กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเอกสารที่ สจ.จอย ยื่นมานั้น เข้าหลักเกณฑ์ที่ตำรวจสอบสวนกลางกำหนดไว้ เพราะเป็นคดีที่มีความซับซ้อน ผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ในบางประเด็นได้มีความชัดเจน และอยู่ในระหว่างเรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่เหลือมาสอบปากคำให้ครบประเด็น ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่ามีการละเว้นบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้เรียกสอบปากคำ แต่ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ
ส่วนกระแสข่าวว่ามีตำรวจอยู่ภายในบ้านยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งการทำคดีนี้ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวลจากประสบการณ์เมื่อเห็นหลักฐานต่าง และข้อมูลจากพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันไม่ใช่การบันดาลโทสะ แต่เป็นการวางแผนมาแล้ว จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทีมกองพิสูจน์หลักฐาน กู้ข้อมูล และจะให้ทางกองบังคับการปราบปราม ทำเรื่องขอเสนอผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบคดีดังกล่าวเนื่องจากเป็นคดีร้ายแรงสะเทือนขวัญ อีกทั้งยังเป็นคดีสำคัญ โดยผู้ร่วมก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะมีประชุมอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 4 ปาก คือ ลูกเขยของโกทร หลานโกทร และแม่บ้าน ที่ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง โทรไปให้ไปช่วยดู สจ.โต้ง รวมถึงแม่บ้านอีก 1 คน แต่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนตำรวจที่อยู่ในกลุ่มดูแลความปลอดภัยให้ สจ.โต้ง พบว่ามีตำรวจ 4 นาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่าจะมีใครกระทำความผิดเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งยืนยันว่าการทำคดีจะทำตามข้อเท็จจริงไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบรถอัลพาร์ดของโกทร ที่ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง หลังจากพบร่องรอยบริเวณไฟท้ายด้านขวาแตกเป็นรูขนาดใหญ่ จึงจะนำมาเปรียบเทียบกับวิถีกระสุน เพื่อหาว่ารอยแตกดังกล่าวเกิดจากวิถีกระสุนหรือเกิดจากอะไร รวมถึงเพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ร่องรอยต่าง ๆ เพิ่มเติมภายในรถด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี