ระเบิดกลางงานกาชาดอ.อุ้มผาง
ตาย3เจ็บระนาว
จับทันควัน2กะเหรี่ยงปาบึ้ม
อ้างล้างแค้นอริเก่าหน้าเวที
‘นายกฯ-บิ๊กอ้วน’นั่งไม่ติด
ปัดสร้างสถานการณ์เลวร้าย
สยองกลางดึก! คนร้ายก่อเหตุ “ปาระเบิด” หน้าเวทีรำวงย้อนยุคกลางงานกาชาด อ.อุ้มผาง มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ คนบาดเจ็บกว่า 50 รายตำรวจเร่งติดตามจนจับตัวมือบึ้มได้สำเร็จพบเป็นทหารชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ยอมรับสารภาพ เหตุเจออริเก่าที่เคยมีเรื่องกันที่ฝั่งประเทศบ้านเกิด ส่วนอีกรายที่ถูกรวบ อ้างแค่มาเที่ยวงานกาชาด
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2567 พ.ต.อ.ศุภกร พิพัฒน์พิมพา ผกก.สภ.อุ้มผาง จ.ตาก รับแจ้งมีเหตุขว้างระเบิดกลางงานกาชาดแผ่นดินดอยลอยฟ้า อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ประจำปี 2567 มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนพร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลอำเภออุ้มผางและทีมอาสาสมัครอำเภออุ้มผางจากทุกหน่วยงานถูกระดมกำลังเข้าไปตรวจสอบเหตุอย่างเร่งด่วน ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณภายในงานกาชาด ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากกำลังเดินท่องเที่ยวเต็มบริเวณงานซึ่งเป็นพื้นที่โล่งแจ้งกลางดอยสูงชันใกล้กับสนามบินเก่าอุ้มผางและที่บริเวณหน้าเวทีรำวงย้อนยุค ซึ่งขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังเต้นรำท่ามกลางเสียงดนตรีอย่างสนุกสนาน พบหลุมระเบิดบนพื้นดิน 1 หลุมและพบชาวบ้านทั้งเด็กวัยรุ่น ผู้ใหญ่ และคนสูงวัยจำนวนมาก ต่างนอนล้มลงไปกองกับพื้นดินหน้าเวทีรำวงย้อนยุค
ดับ2ศพ/บาดเจ็บหลายสิบราย
ทั้งนี้ ได้มีชาวบ้านจำนวนมากต่างก็ตกใจเสียงระเบิด จึงรีบวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุแบบไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่ประจำเวทีย้อนยุคต้องใช้เครื่องกระจายเสียงประกาศขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องรีบออกนอกจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมเปิดทางให้ทีมหน่วยกู้ชีพทุกหน่วยเร่งเข้าไปช่วยเหลือและพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 4 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดจมกองเลือดเสียชีวิต ขณะช่วยเหลือจำนวน 2 ราย
นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนเบื้องต้น 38 คน ซึ่งบางรายต้องทำการช่วยชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจในจุดเกิดเหตุและบางรายมีบาดแผลฉกรรจ์จากสะเก็ดระเบิดจนเลือดท่วมตัว จนเวลาผ่านนานกว่า 20 นาทีเจ้าหน้าที่จึงสามารถลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอุ้มผางและต้องระดมทีมแพทย์และพยาบาลมาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจนคนล้นโรงพยาบาลอุ้มผาง
นายกฯเสียใจ-สั่งเร่งจับคนร้าย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ถึงกรณีเหตุการณ์ระเบิดในงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้าที่ อ.อุ้งผาง จ.ตาก เมื่อคืนวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บจำนวน 39 คน ว่า ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นดิฉันได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และหน่วยงานความมั่นคง ให้เร่งเข้าดูแลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอให้ตรวจสอบสาเหตุการระเบิดทุกมิติ เร่งหาตัวคนร้าย และนำเข้าสู่กระบวนการโดยเร็วที่สุด และกำชับให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลการจัดงานเทศกาลที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ทุกจุด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจของพี่น้องประชาชน
“บิ๊กอ้วน”เชื่อไม่ใช่สร้างสถานการณ์
นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.โหม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงายว่ามีวัยรุ่น 2 กลุ่มชกต่อยกัน หลังจากนั้นก็มีระเบิดดังขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในชั้นต้นรับรายงานว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องไม่ใช่อาวุธสงคราม เหมือนระเบิดที่ประกอบขึ้นเอง แต่เกิดระเบิดขึ้นในบริเวณที่มีคนอยู่หนาแน่นนับร้อยคน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนที่น่าสงสัยในบริเวณที่เกิดเหตุได้จำนวนหนึ่ง ก็รอให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆให้ชัดเจนก่อน
“น่าจะไม่ใช่ก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ เพราะพื้นที่บริเวณนั้นไม่เคยเกิดเหตุความรุนแรงอะไร เป็นเส้นทางของการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปที่เมียวดี ประเทศพม่า และทั้งฝ่ายพม่าและฝ่ายต่อต้าน ทุกคนก็ต้องการให้สินค้าและอาหารจากของไทยเข้าไป จึงไม่มีปัญหา ตรงนี้ ไม่ใช้เขตสงครามหรือเขตที่มีความน่ากังวลใจ จึงคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นตีกัน และเกิดเหตุชุลมุนขึ้น แล้วมีการขว้างระเบิดเข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการสอบสวนอย่างละเอียดก่อน”
สั่งเพิ่มมาตรการเข้มขึ้นยิ่งขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ปกติการงานกาชาด ของแต่ละจังหวัดก็มีแผนการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดมีเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ต้องมีมาตรการพิเศษ เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เข้มงวดเต็มที่ เราสามารถพัฒนาเครื่องมือให้แต่ละหน่วยได้ใช้คงจะดีขึ้นกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันถึงงบประมาณที่จะใช้ ซึ่งความจริงอยู่ในแผนอยู่แล้วในหลายประเทศที่ตนไปดูงานมาได้ใช้เครื่องมือที่เชื่อมกับดาวเทียมสามารถที่จะดูเรื่องอาชญากร เรื่องการจราจร เรื่องภัยพิบัติต่างๆได้ เช่น ในประเทศจีน หรืออีกหลายๆประเทศ มีกล้องวงจรปิดและสามารถส่งไปที่ศูนย์บัญชาการ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นในจุดใดก็จะเห็นปฏิกิริยาต่างๆสามารถที่จะติดตามอาชญากรได้ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราประสงค์จะเพิ่มศักยภาพให้เกิดขึ้นในหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
สธ.ระดมทีมแพทย์ช่วย ปชช.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ นายสุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช รักษาการผู้ตรวจเขตสุขภาพที่ 2 ติดตามดูแลและรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมกันเป็นจำนวน 56 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยในวาวะวิกฤต (สีแดง) จำนวน 6 ราย, ผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง (สีเหลือง) จำนวน 22 ราย, ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง (สีเขียว) จำนวน 25 ราย, ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย เสียชีวิตในพื้นที่ 2 ราย และ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากการโดนสะเก็ดระเบิด ในจำนวนนี้ให้กลับบ้านแล้ว 33ราย
ส่งทีม MCATT ดูแลเยียวยาจิตใจ
ส่วนการดูแลรักษาขณะนี้ ได้แก่ ส่งต่อผู้ป่วย เข้ารับการผ่าตัดด่วนที่ รพ.แม่สอด จำนวน 10 ราย, ให้แอดมิดที่ รพ. อุ้มผาง จำนวน 10 ราย มี รพ.อุ้มผางเป็นหน่วยปฏิบัติกำลังหลัก รพ.พบพระ รพ.แม่สอด เป็นหน่วยส่งต่อและสนับสนุนการปฏิบัติการ นอกจากนี้ในเบื้องต้น ทีม MCATT ได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปจัดการดูแลสุขภาพจิต ประเมินสุขภาพจิตของผู้เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบ และจะประเมิน คัดกรอง ช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มญาติผู้เสียชีวิต ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม ดูแลได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
ตากตั้งศูนย์ช่วยผู้ได้รับผลกระทบ
นายบุญช่วย หอมยามเย็น รองผู้ว่าราชการรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมแล้วมีทั้งหมด 50 กว่ารายที่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาตรการสำหรับการจัดงานในปีต่อไป คงต้องมีการประชุมกับคณะกรรมการผู้จัดงาน ถ้าเป็นเหตุการณ์ในลักษณะนี้แล้ว ปีต่อไปคงต้องงดจัดเวทีรำวงย้อนยุค เพราะเป็นจุดล่อแหลมของการรวมตัวกันของวัยรุ่น แต่เวทีใหญ่และเวทีกาชาดยังคงมีอยู่
จับได้แล้ว!ทหารชนกลุ่มน้อยมือบึ้ม
ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ตำรวจติดตามจับกุมตัว นาย ดิดิ ไม่มีนามสกุล อายุ 16 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นทหารชนกลุ่มน้อยในเมียนมาและเป็นผู้ก่อเหตุปาระเบิด ได้ในระหว่างการหลบหนี ส่วนอีกคนชื่อนาย จอลิทู อายุ 17 ปี ยอมรับว่าเป็นเพื่อนมือปาระเบิด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองไปสอบอย่างละเอียด โดยนายดิดิ ให้การรับสารภาพ ส่วนอีกคนรับเพียงไปเที่ยวงานกาชาดด้วยกัน
สำหรับสาเหตุแรงจูงใจ มาจากผู้ก่อเหตุคือนาย ดิดิ ซึ่งเป็นทหารกองกำลังในประเทศเพื่อนบ้านในฝั่งเมียนมา พบเจอคู่อริเก่าซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกันที่ฝั่งเมียนมาและมาเจอกันที่งานกาชาด จนเกิดเป็นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ส่วนระเบิดใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดสังหารรุ่นเอ็มเคทู ซึ่งมีใช้ในทหารประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ตำรวจได้ควบตัวผู้ก่อเหตุให้พนักงานสอบสวน สภ.อุ้มผาง ดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี