สืบเนื่องจากเหตุสังหาร นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง คาบ้าน นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จนนำมาสู่การดำเนินคดีนายสุนทร พร้อมพวกรวม 7 คน ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดย เจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" แล้วนั้น

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 ธันวาคม 2567) พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี , พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนน์ รอง ผกก.สส.ภ.2 ได้มีการเรียกระดมกำลังจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 , กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี , หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราจีนบุรี และตำรวจกองบังคับการปราบปราม จำนวน 100 นาย ร่วมกันเปิดภารกิจทลายรังนักเลง EP.1 โดยได้นำหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพัก จำนวน 5 จุด ที่มีความเกี่ยวข้องเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของโกทร มานานหลายปี ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ 3 จุด จำนวน 2 คน , อ.ประจันตคาม 1 จุด 1 คน และ อ.บ้านสร้าง 1 จุด 1 คน

จุดแรก ในพื้นที่หมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ เป็นที่ทำการของผู้นำท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากมีรายงานว่า ในวันเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง ผู้นำท้องถิ่นคนดังกล่าว ได้เข้าไปพบโกทรที่บ้านหลังเกิดเหตุ

จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบ อาวุธปืน 2 กระบอก เป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1  กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด และปืนแม็กกาซีน ขนาด .380 อีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด ทั้ง 2 กระบอก มีทะเบียนผู้ครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย เป็นปืนของผู้ดูแลบ้าน

จากการสอบถามได้ข้อมูลว่า ตนเป็นพี่เขยของผู้นำท้องถิ่นคนดังกล่าว เข้ามาดูแลพื้นที่นี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาผู้นำท้องถิ่นคนดังกล่าวจะเข้ามาที่นี่ ก็เมื่อมีลูกบ้านเข้ามาขอคำปรึกษา หรือลูกบ้านเข้ามาร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ แต่ผู้นำท้องถิ่นคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาที่นี่นาน 3 วันแล้ว เนื่องจากมีธุระที่กรุงเทพฯ ส่วนโกทรส่วนตัวไม่รู้จัก แต่ได้ยินชื่อเพราะถือเป็นผู้บุคคลกว้างขวางในพื้นที่ปราจีนบุรีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ตำรวจยังเข้าตรวจค้นร้านทองของผู้นำท้องถิ่นคนดังกล่าวอีก 1 จุด

จุดสาม ใน อ.ศรีมหาโพธิ เป็นโรงงานขยะรีไซเคิล แต่ไม่พบเจ้าของบ้านแต่อย่างใด จุดที่ 4 เป็นบ้านพักของนายพงศกร อยู่ในพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จากการตรวจค้นพบปืนลูกโม่ ขนาด .22 กระสุน 6 นัด พร้อมกับลูกกระสุนปืนลูกซอก 5 นัด (ไม่มีใบอนุญาตแสดงตอนตรวจค้น) และใบอนุญาตครอบครองปืนซึ่งไม่ตรงกับปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ตรวจยึดได้นำไปตรวจสอบ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวนายพงศกร มายังกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี

โดย นายพงศกร กล่าวว่า ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของพ่อ ส่วนเครื่องกระสุนนั้นมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตนก็จำไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร ซึ่งเครื่องกระสุนดังกล่าวนั้นพบเจอในตู้เซฟ และไม่เคยนำมาใช้งานแต่อย่างใด ไม่กังวลในเรื่องนี้ กรณีที่ตำรวจเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเจ้าตัวยังตกเป็น 1 ในกลุ่มเป้าหมายว่ารู้สึกอย่างไร นายพงศกร  ยืนยันว่า ไม่เคยมีอิทธิพลใดๆ เพราะไม่เคยทำผิดกฎหมาย ไม่รู้สึกอะไรเพราะผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล และไม่กังวลอะไร

ส่วนจุดสุดท้าย จุดที่ 5 ใน อ.ประจันตคาม ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและตัวบุคคลเป้าหมายเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางชุดสืบสวนได้ดำเนินขอหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอหมายเข้าทำการตรวจค้นบ้านคนใกล้ชิตและอยู่ในเหตุการณ์ยิงกัน เพื่อเข้าตรวจค้น ทางศาลได้ตรวจคำร้องแล้วยังไม่อนุมัติหมายค้นแต่อย่างใด

- 006