4 จว.ใต้ท่วมหนัก

ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์-เมืองคอน

เกาะสมุยดินสไลด์ทับร่าง 2 คนงาน

ปภ.เผยอุทกภัยภาคใต้เหลือ 4 จว.ยังจม เดือดร้อน 6.7 แสนครัวเรือน สังเวยแล้ว 32 ศพ กำชับจนท.ระดมอุปกรณ์ปักหลักช่วยเหลือปชช.ในพื้นที่ น้ำท่วมชุมพรขยายวงกว้าง อ.หลังสวน น้ำท่วมสูงฝนตกต่อเนื่อง ชาวประมงเดือดร้อนหนักออกเรือหาปลาไม่ได้ ขณะที่หาดอรุโณทัยคลื่นซัดขยะเต็มหาด ส่วนเมืองคอนยังปักธงแดงเตือน เร่งกำจัดขยะ-ตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ เกาะสมุยฝนตกต่อเนื่องดินสไลด์ทับที่พักคนงานสูญหาย 2 ราย ขณะที่นายกฯสั่งเร่งช่วยบรรเทาอุทกภัย ศปช.เตือน 6 จว.ยังต้องเฝ้าระวังฝนถล่มน้ำท่วมซ้ำถึง 20 ธันวาคม ด้านทีมกรุ๊ป วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังน่าห่วง ฝนตกหนักซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิมใน 3 จังหวัดภาคใต้ ช่วง16-18 ธ.ค. จับตามวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอก23-24ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยหลายจังหวัดของไทยว่า จากความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 98 อำเภอ 625 ตำบล 4,264 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 675,160 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 32 ราย

4จว.ยังท่วมดับอีก3-4.3หมื่นครัวเดือดร้อน

นายภาสกรกล่าวต่อว่า ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 137 ตำบล 814 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,595 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ จ.ชุมพร เกิดน้ำท่วม 6 อำเภอได้แก่ อ.ปะทิว อ.เมืองฯ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และอ.ละแม รวม 6 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,701 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองหลังสวนระดับน้ำลดลง จ.ระนอง เกิดน้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และอ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,070 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองญวนระดับน้ำลดลง

จ.สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.เกาะพงัน และอ.เกาะสมุย รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,216 ครัวเรือน ปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น จ.นครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วม 11 อำเภอได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองฯ อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ขนอม และอ.ช้างกลาง รวม 51 ตำบล 289 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,608 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำลดลง

ปภ.สั่งจนท.-เครื่องจักรปักหลักช่วยปชช.

อธิบดี ปภ.กล่าวอีกว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ปภ.กระจายกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงทีม ปภ.ส่วนหน้ายังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ชุมพรยังหนักอ.หลังสวนน้ำท่วมสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ชุมพรว่า ขณะนี้น้ำที่ท่วมสูง ทำให้เจ้าของรถบางคันที่พยายามขับฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมสูงในหมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวนเกิดดับกลางคัน เพราะน้ำท่วมสูงจนเกือบถึงฝากระโปรง เจ้าของรถต้องปืนหน้าต่างประตูรถออกมาก่อนรถจมน้ำ ซึ่งระดับน้ำในพื้นที่อ.หลังสวนระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆยังเพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำก่อนระบายลงทะเล ทำให้ที่ลุ่มต่ำหรือที่น้ำท่วมซ้ำซากมีน้ำท่วมสูง ขณะที่ฝนยังตกต่อเนื่อง ส่วนที่หาดอรุโณทัย บริเวณปากน้ำทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก น้ำทะเลซัดเข้าฝั่งทำให้มีเศษขยะมากองเต็มหน้าหาด ชาวประมงหลายคนต้องเร่งมือเก็บแห อวนขึ้นฝั่ง หนีคลื่นที่รุนแรงและเคลื่อนย้ายเรือประมงขึ้นฝั่ง

รถไฟสายใต้หยุดวิ่ง-เพชรเกษมรถติดหนัก

ชาวบ้านหลายคนบอกว่า ไม่ได้ออกเรือหาปลามาเกือบสัปดาห์แล้วทำให้ไม่มีรายได้ บางคนจึงออกมาเก็บขยะ อย่างขวดพลาสติกที่ลอยมาติดริมฝั่ง เพื่อนำไปขาย โดยสถานการณ์น้ำท่วมในอ.ทุ่งตะโก อ.สวีและอีกหลายอำเภอของจ.ชุมพร ยังทำให้รถไฟสายใต้ยังปิดให้บริการ อย่างที่สถานีรถไฟปากตะโก วันนี้ รถบรรทุกหินจากจ.สุราษฎร์ธานีต้องมาจอดที่สถานีรถไฟปากตะโก และทางสถานีต้องติดป้ายประกาศแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่า จำเป็นต้องหยุดเดินรถไฟ เนื่องจาก น้ำท่วมทางที่สถานีรถไฟสวี และสถานีรถไฟแสงแดด โดยเฉพาะรถไฟขบวน 254 445 446 และ 255 ที่ผ่านสถานีรถไฟปากตะโก ส่วนถนนสายหลักอย่างถนนเพชรเกษม 41 ถึงแม้บางจุดน้ำจะลดลงบ้างแล้ว แต่การจราจรติดขัดหนัก เนื่องจากบางจุดยังมีน้ำท่วมสูง รถเล็กสัญจรไปมาลำบาก โดยเฉพาะช่วงอ.สวี และอ.ทุ่งตะโก รถติดยาวหลายสิบกิโลเมตร

นครฯระดมเครื่องสูบน้ำระบายน้ำขัง

ส่วนที่จ.นครศรีธรรมราช ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชหลังประกาศเตือนภัยน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ โดยสำนักช่างเทศบาลติดป้ายและธงแดงแจ้งเตือนภัยที่สะพานข้ามคลองทุกสาย ให้ประชาชนสังเกตและเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง โดยดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช นำเจ้าหน้าที่เทศบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญบริเวณสี่แยกคูขวาง พบขยะอุดตันที่ปากท่อ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งกำจัดขยะและระดมเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมตามซอยและคลองต่างๆ ดร.กณพระบุว่า หากไม่มีน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำในเขตเทศบาลจะระบายได้เร็วขึ้น แต่ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ผ่านระบบเรดาร์และกล้อง CCTV แบบเรียลไทม์ได้ทางไลน์ @nakhoncity ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตือนประชาชนริมคลองและพื้นที่ลุ่มต่ำให้ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง

เกาะสมุยฝนถล่มดินสไลด์2คนงานสูญหาย

เวลา 04.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุดินสไลด์ทับเพิงที่พักคนงานก่อสร้างมีผู้สูญหาย 2 ราย เป็นผู้ชาย สัญชาติเมียนมา ในพื้นที่ก่อสร้างบริเวณเนินเขา ซอยหิมะทอง หมู่ 1 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งกำลังก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ ภายหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและฝ่ายปกครองเร่งเข้าช่วยเหลือค้นหา ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะจุดเกิดเหตุยังมีฝนตกตลอดเวลา เสี่ยงดินสไลด์เพิ่มเติม ประกอบกับก่อนนี้มีฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน สภาพดินอุ้มน้ำไม่อยู่แล้ว

ผบ.ทบ.ส่งทหารช่างช่วยสุราษฎร์ฯ-ชุมพร

ด้านพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก สั่งการกรมการทหารช่างจัดชุดทหารช่าง 2 ชุด พร้อมยุทโธปกรณ์ เคลื่อนย้ายเร่งด่วนจาก จ.ปัตตานี เข้าพื้นที่ประสบภัยในจ.ชุมพร และจ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์โดยรวมอยู่ในระดับวิกฤติ โดยเฉพาะในอ.หลังสวน, อ.ปะทิว, อ.เมือง จ.ชุมพร และ อ.พระแสง,อ.บ้านนาสาร, อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร มีน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ในบางพื้นที่ เส้นทางคมนาคมหลายสายถูกตัดขาด บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยชุดทหารช่างเข้าสมทบหน่วยทหารในพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชน

พร้อมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือ ประกอบด้วย รถบรรทุก 5 ตันประกอบเครนยก, เรือกู้ภัย, รถสายพานสะเทินน้ำสะเทินบก, รถบรรทุกแบบ FTS, รถพยาบาล พร้อมด้วยชุดทหารช่างผลิตน้ำประปาสนามและผลิตน้ำดื่มปลอดภัย RO (ระบบ Reverse Osmosis) แจกให้ประชาชนใช้บริโภค

ปชป.จี้รบ.เร่งช่วยเหยื่อน้ำท่วมใต้

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ โดยเฉพาะในจ.นครศรีธรรมราชว่า ขณะนี้มีปริมาณน้ำหลากไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ประมาณ 10 อำเภอ อาทิ อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอเมือง และเขตลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก หากยังมีฝนตกต่อเนื่องอีก จะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่อื่น ๆทั่วภาคใต้รุนแรงขึ้น จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

เปิดครัวส่งข้าวกล่องน้ำถุงยังชีพให้ปชช.

ส่วนเรื่องเยียวยาประชาชนครอบครัวละ 9,000 บาทนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า รัฐบาลต้องมีกรอบนโยบาย แนวทางให้ชัดเจน และต้องช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเร่งด่วน โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบนโยบายให้ตน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ซึ่งอยู่เกาะติดในพื้นที่ ว่าหากพื้นที่ไหน มีเหตุภัยพิบัติ หรือ ต้องการถุงยังชีพ มูลนิธิ ควง อภัยวงค์ ยินดีช่วยเหลือประชาชนทันที

ในส่วนของตนได้เปิดครัว เพื่อน สส.แทน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเปิดที่อำเภอสิชล นำข้าวกล่อง และน้ำดื่มไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย หลายครัวเรือน

ทีมกรุ๊ปชี้น้ำท่วมใต้รอบนี้หนักเกินคาด

นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ทีมกรุ๊ป เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้หลายจังหวัดว่า น้ำท่วมครั้งนี้ไม่คาดคิดว่าจะหนักเช่นนี้ เนื่องจากความกดอากาศสูง มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนมาแรงมากและไปดันความชื้น มวลเมฆในทะเลจีนใต้พัดเข้ามายังแหลมญวน ของเวียดนามซึ่งฝนตกหนัก และลมตีย้อนกลับมาที่จ.ชุมพร ซึ่งจากเดิมคาดว่าจะเป็นจ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ขณะนี้จ.ชุมพร ฝนตกลดน้อยลง วันนี้พื้นที่ที่ฝนตกหนักเป็นจ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ก่อนลงไปยังจ.สงขลา และ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นลำดับต่อไป ช่วงวันที่ 16-18 ธันวาคม

3จว.ใต้ระวังฝนหนักท่วมซ้ำถึง18ธค.

นายชวลิตกล่าวต่อว่า สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 43 เซนติเมตร ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำตาปีต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง คลองเสาธง ท่าดี จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำท่วมยังสูง ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ เขตเทศบาล และอ.เมือง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่คลองอู่ตะเภายังน่าห่วง โดยช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4 เซนติเมตร และมีแนวโน้มฝนตกเพิ่มขึ้้นวันที่ 16-17 ธันวาคม ส่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่แม่น้ำปัตตานี จ.ปัตตานี ยังมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ วันที่ 15-18 ธันวาคมจะมีฝนตกลงมาอีก ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ปัจจัยหลักที่ต้องเฝ้าระวังคือ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำปัจจุบันในแต่ละพื้นที่

จับตาอากาศเย็นจากจีนช่วง23-24ธค.

ทั้งนี้ หลังจากนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีทิศทางลักษณะเดียวกัน และมวลอากาศเย็นจากจีนอาจมีอีกระลอกระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม ซึ่งถ้าอ่อนกำลังลง ก็อาจมีโอกาสมาถึงไทยบริเวณภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพ นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี

นายกฯสั่งศปช.เร่งบรรเทาน้ำท่วมใต้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษก ศปช. เปิดเผยว่า ก่อนเดินทางไปประชุม ผู้นำไทย-มาเลเซีย ที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้กับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลถล่ม (ศปช.) โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ซึ่งนายกฯรับทราบรายงานการปฎิบัติการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนหน้าได้เสริมกำลังในหน่วยปฏิบัติงาน และอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ทันตามแผนที่ศปช.วางไว้ โดยเฉพาะจ.ระนองที่มีน้ำป่าไหลหลาก ศปช.รายงานว่าได้เร่งอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แล้วและจัดชุดอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค รวมถึงอุปกรณ์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และคนต้องการความดูแลเป็นพิเศษ

ศปช.เตือน6จว.ใต้เฝ้าระวังท่วมถึง20ธค.

“ศปช.ส่วนหน้าขอให้ประชาชนในพื้นที่ ติดตามการแจ้งเตือนภัย คำสั่งอพยพ และปฏิบัติตามประกาศของทางการรวมทั้งติดตามข่าวสาร และคำเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับ ฝ่ายบริหาร ที่อำนวยการในการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัย โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกพื้นที่ ขอให้สวมอุปกรณ์ป้องกัน และเตรียมอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟรั่ว เพื่อช่วยตรวจสอบให้ประชาชนและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ปลอดภัย”โฆษกรัฐบาลกล่าว

และว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศปช.ยังรายงานต่อนายกฯด้วยว่า ยังมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม ได้แก่ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.สุราษฎร์ธานี จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือในภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยติดต่อได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 โทร. 075-383-405 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

เหนืออุณหภูมิลด1-3องศา-ใต้ฝนหนัก

เวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน

ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 13 (340/2567) มีผลกระทบถึงวันที่ 16 ธันวาคมโดยระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่าง และมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ทั้งนี้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล

บรรยายภาพ น้ำท่วมใต้ : สภาพถนนสายเอเชีย 41 ถนนสายหลักสู่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ช่วงกม.ที่ 33-34 อ.สวี จ.ชุมพร ถูกน้ำท่วมขังสูงหลายจุด ทำการสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนทางฝั่งทะเลอันดามัน ด้าน จ.ระนอง ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ทั้ง8 อำเภอของ จ.ชุมพร ถนนหลายจุดถูกน้ำท่วมตัดขาด