เตือน7จังหวัดใต้รับมือฝนหนัก

เมืองคอนอ่วม

ท่วมทั้งจังหวัด-ย่านศก.จมมิด

ถนนขาด-เสาไฟฟ้าหักโค่น

สุราษฎร์ดินถล่มทับบ้านดับ1

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ยังน่าห่วงฝนตกหนักข้ามคืน อย่างที่สุราษฎร์ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ขยายวงกว้าง และเกิดเหตุดินถล่มทับบ้าน2 พ่อ-ลูก กู้ภัยช่วยพ่อรอดแต่ลูกชายวัย 16 ปี ดับ เช่นเดียวกับเมืองคอน ฝนถล่มหนักอีกระลอกทำให้น้ำป่าทะลักท่วมหนักหลายอำเภอ เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ อ.เมือง ถนนหลายสาย ถูกตัดขาด มีคนจมน้ำเสียชีวิตเพิ่มอีก1ราย อ.ท่าศาลาน้ำท่วมสะพาน ซัดเสาไฟหักโค่น ศูนย์อุตุฯภาคใต้ฝั่งตะวันออก เตือน 7 จว. รับมือฝนหนักถึงหนักมาก เสี่ยงเกิดน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลากฉับพลัน ดินโคลนถล่ม

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานีรายงานสภาพน้ำในแม่น้ำคลองยันบริเวณสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 6 กับหมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานีวันนี้ (16 ธันวาคม) ระดับน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง และไหลเชี่ยว บางจุดเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่สวนของราษฎร หลายคนขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินไปไว้ในที่ปลอดภัย ขณะที่ฝนยังตกลงมาต่อเนื่อง ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของจ.สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ฯน่าห่วงน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง

โดยนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังรอระบาย ตั้งแต่ถนนกาญจนวิถี ไปถึงหน้าโรงพยาบาลทักษิณ หลังมีฝนที่ตกหนักนานกว่า 3 ชั่วโมง ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ถนนหลายเส้น ความสูง 30 – 50 เซนติเมตร โดยเฉพาะจุดดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่ม รับน้ำจากถนนอื่นๆ ไหลบ่ามารวมกัน ส่งผลให้น้ำท่วมสูง รถที่สัญจรได้ยาก บ้านเรือน และสถานประกอบการริมถนนถูกคลื่นน้ำซัดเสียหาย จึงสั่งปิดการจราจร ถนนเส้นดังกล่าวชั่วคราว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และเร่งนำรถสูบน้ำท่วมขังประสิทธิภาพสูง ของ ปภ.สุราษฎร์ธานี เข้ามาระบายน้ำบริเวณดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับถนนอื่นๆอีกหลายเส้น สำหรับโรงเรียนในเขตเทศบาล ได้สั่งปิดการเรียนการสอน หรือ ปรับมาเรียนออนไลน์หลายแห่ง เพื่อความปลอดภัยของนัก

นอกจากนี้ ยังอมสั่งให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม/ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านให้ระวังอุทกภัยจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำสะสมที่อาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้ นอกจากนี้ ให้อุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตก ถ้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังใกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติให้ปิดให้บริการห้ามเข้าเด็ดขาด รวมทั้งให้ตรวจสภาพความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันสถานการณ์

ดินถล่มทับบ้าน2พ่อลูกดับ1ราย

เวลา 04.39 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุดินถล่มในหมู่บ้าน หมู่ 2 ซอยตลาดกล้วย ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ 2 พ่อลูก ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังที่ 2 จากแนวดินติดอยู่ใต้กองดิน ต่อมากู้ภัยกุศลศรัทธาสมหวังเข้าให้การช่วยเหลือพ่อออกมาได้ 1 ราย ส่วนอีกคน เป็นลูกชายวัย 16 ปี ยังติดอยู่ใต้กองดิน กู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่พบร่างเสียชีวิตใต้กองดิน นำส่งชันสูตรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ขณะที่สถานการณ์ฝนยังตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีขยายวงกว้าง

ฝนถล่มเมืองคอนข้ามคืนจมทั้งจว.

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนที่ตกต่อเนื่องใน จ.นครศรีธรรมราช ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมหนักอีกครั้ง โดยฝนที่กลับมาตกข้ามคืนถึงช่วงเช้าวันนี้ ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ทำให้เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในอ.เมือง โดยเฉพาะบริเวณถนนพัฒนาการคูขวาง ย่านเศรษฐกิจของ จ.นครศรีธรรมราช ถูกน้ำท่วมสูง ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านเคหะ 1 ไปถึงสี่แยกคูขวาง ระยะทางประมาณ 6 กม. ระดับน้ำตั้งแต่ 50-70 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้สถานประกอบการต้องปิดกิจการชั่วคราว ส่วนชุมชนลุ่มต่ำในเขตเทศบาล น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

ที่ ต.นาทราย อ.เมือง และพื้นที่อำเภอรอบนอกของจ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเกือบทั้งจังหวัด บางจุดระดับน้ำสูงประมาณ 100-120 ซม.บริเวณถนนสาย 401 เส้นทางนครฯ-สุราษฎร์ฯ เป็นถนนสายหลัก หน้าภัตตาคารโกโตน ต.สิชล อ.สิชลรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ จะผ่านได้เพียงรถบรรทุก 10 ล้อเท่านั้น

ถนนถูกตัดขาด-อ.เมืองจมน้ำดับอีก1

สำหรับเส้นทางถนนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมประกอบด้วย อ.พระพรหม ถนนสาย 403 หน้า อบต.ท้ายสำเภา รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ทางเข้าศูนย์ราชการนาสาร รถเล็กผ่านไม่ได้ เส้นทางนาพรุ-เบญจมะ รถผ่านไม่ได้ ที่อ.สิชล ถนนสายนครฯ-สุราษฎร์ฯ น้ำท่วมช่วงบ้านต้นเหรียง-แยกทางเข้าวัดเจดีย์ รถผ่านไม่ได้ ถนนราชดำเนินน้ำท่วมหน้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ประมาณ 30-50 ซม.,ถนนพัฒนาการคูขวางรถเล็กผ่านไม่ได้ ที่ถนนสายสนามบิน น้ำเริ่มท่วมผิวจราจรเลนซ้ายและทางเข้าสนามบินน้ำท่วมสูง 30 ซม.

รายงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่ ต.กำแพงเซา อ.เมือง มีคนจมน้ำเสียชีวิตอีก 1 ราย ถนนราชดำเนินหน้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายมาปิดกั้นน้ำประตูทางเข้า รถรับ-ส่งผู้ป่วยต้องเข้าประตูอีกด้าน แต่มีมวลน้ำจำนวนมากหลากเข้าท่วมสูง 50-70 เซนติเมตร

ท่าศาลาน้ำล้นท่วมชุมชน-เสาไฟโค่น

ที่ อ.ท่าศาลา น้ำล้นสะพานคลองกลายไหลเข้าท่วมชุมชนรอบสะพานใน ต.สระแก้ว กระแสน้ำซัดเสาไฟฟ้าโค่นล้ม ไฟฟ้าดับในพื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 6กระแสน้ำยังหลากท่วมถนนท่าศาลา มุ่งหน้า อ.สิชล สองข้างทางและบนผิวจราจรเจิ่งนองไปด้วยน้ำ บางช่วงถนนขาด รถผ่านไม่ได้แล้ว

เช่นเดียวกับถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าจาก อ.สิชล เข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช ขณะนี้ถูกตัดขาดเป็นช่วงๆ รถเล็กผ่านไม่ได้ ต้องปิดการจราจรแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

จนท.การไฟฟ้าถูกไฟช็อตดับที่ชะอวด

มีรายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต ต.ชะอวด อ.ชะอวด ทราบชื่อคือ นายพีรวิชญ์ อายุ 27 ปี พนักงานช่างระดับ 4 การไฟฟ้าฯ อ.ชะอวด ซึ่งได้รับแจ้งให้ช่วยเหลือชาวบ้านเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ขณะซ่อมแซมถูกไฟฟ้าช็อต ก่อนเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลชะอวด ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

7จว.ใต้ตอ.ฝนหนักมากเสี่ยงท่วม-น้ำป่า

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 9 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ระบุว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกในวันนี้ (16 ธ.ค.)มีฝนหนักถึงหนักมาก ดังนี้ มีฝนหนักบางแห่ง บริเวณจ.ชุมพร และมีฝนตกหนักมากที่สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม คลื่นลมอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งช่วงดังกล่าว และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างขอให้งดออกจากฝั่งต่อไปจนถึงวันที่ 17 ธ.ค.

มท.1ลุยเมืองคอน-สุราษฎร์17ธค.

วันเดียวกัน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ที่ทวีความรุนแรงว่า รัฐบาลมีความห่วงใยการเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปดูแลประชาชน ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และให้รายงานสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อให้หน่วยงานส่วนกลางส่งความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ส่วนในวันที่ 17 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และตนจะลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยความห่วงใยประชาชน สำรวจความเสียหายพร้อมเยียวยาประชาชน ที่สำคัญไปให้ขวัญกำลังใจ ต้องดูแลให้ครบทุกด้านในพื้นที่ประสบปัญหาอะไรบ้าง เพื่อช่วยเหลือได้ทัน ต้องดูแลให้ครอลคลุม ไม่จำเป็นต้องดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ แต่ต้องดูให้ครบทุกเรื่อง

รบ.ยันมีงบพร้อมรับมือช่วยน้ำท่วมใต้

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศปช.ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักภาคใต้ว่า ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมแล้วตั้งแต่หลังประกาศเตือนสถานการณ์วันที่ 16- 22 ธันวาคมที่เป็นช่วงฝนตกหนัก ก่อนหน้านี้รอบแรกน้ำลดลงและเตรียมถอนกำลัง แต่เมื่อทราบถึงฝนระลอกสอง จึงสั่งตรึงกำลังในพื้นที่ไว้ โดยสั่งทหารช่างให้ไปอยู่ในพื้นที่จ.ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ไปตรวจสอบพื้นที่บ้างว่าต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ดูตัวอย่างจากภาคเหนือมาปรับใช้ ส่วนทหารพัฒนายังดำเนินการอยู่ในพื้นที่ เครื่องมือหนัก และทหาร จากภาคเหนือได้มาอยู่ในพื้นที่ภาคใต้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดูแลระมัดระวังตั้งแต่ต้น รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบนโยบายจากนายกฯเตรียมการไว้ก่อนแล้ว

น้ำท่วมถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่

“น้ำมาแรงเพราะธรรมชาติเปลี่ยนแปลง ถือเป็นภัยคุกคามใหม่ที่ต้องนำมาพิจารณาเวลาพูดถึงภัยคุกคามไม่ใช่แค่ภายนอกประเทศ หรือยาเสพติดแต่ต้องมองทุกมิติ ซึ่งน้ำท่วมภาคใต้เป็นปัญหา ที่เตรียมการไว้แล้วเชื่อว่าความเสียหายอาจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ยอมรับว่าภัยธรรมชาติแก้ปัญหายาก เพราะโลกเปลี่ยน จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหา สำหรับงบประมาณที่จะนำไปใช้เยียวยานั้นเตรียมไว้แล้ว และยังมีงบกลางสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน”นายภูมิธรรมกล่าว