ตร.ไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ Gateway Laundering ทลายเว็บพนันแก๊งจีน-มาเลย์ พบเงินหมุนกว่า 500 ล้านต่อเดือน รวบชาวมาเลเซียพร้อมเครือข่าย ยึดทรัพย์กว่า 13 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ 1 ทำการสืบสวนเว็บไซต์การพนันรายใหญ่ FAFA789 พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน โดยเว็บไซต์ดังกล่าว ได้มีการปกปิดเส้นทางการเงิน โดยใช้ระบบการเงินที่ได้จากการพนัน ผ่านระบบ PAYMENT GATEWAY เถื่อน โดยใช้บัญชีที่รับเงินหน้าเว็บ บัญชีจ่ายเงิน เป็นบัญชีม้า และเป็นบัญชีบริษัทผี (Ghost company) จากนั้นจะรวมเงินไปยังบัญชีปั่นเงิน ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดโดยบริษัทผี เช่นกัน ทำให้เป็นการยากต่อการสืบสวนเชื่อมโยงไปถึงผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง

ต่อมา พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ได้สืบสวนกว่า 6 เดือน จนกระทั่งพบเส้นเงินเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนไทยจัดหาบัญชีม้าและบริษัทผี และเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มฟอกเงินชาวจีนมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการทำ GATEWAY เถื่อนนี้

โดยได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับบุคคล จำนวน 27 หมายจับ โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ ดังนี้

- กลุ่มบัญชีม้า หน้าเว็บ และจ่ายเงิน จำนวน 6 หมายจับ 6 บัญชี

- กลุ่มบัญชีบริษัทผี ทำหน้าที่ Gateway จำนวน 5 หมายจับ 7 บัญชี

- กลุ่มจัดหาบริษัทผี บัญชีม้า จำนวน 8 หมายจับ 10 บัญชี

- กลุ่มฟอกเงิน จำนวน 8 หมายจับ 16 บัญชี

รวมทั้งหมด 27 หมายจับ 39 บัญชีธนาคาร โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติ 7 ราย (จีน-มาเลเซีย 5 ราย กัมพูชา 2 ราย)

ต่อมาในวันนี้ 17 ธ.ค.67 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. ตร. รรท.ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ 1 ได้เปิด Operation Gateway Laundering จีน – มาเลย์ EP.1 โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายหลัก 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 ราย

1. หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี จับกุมบุคคลตามหมายจับ 2 รายคือ น.ส.ปัทมา และ นาย KIA LIM HAO สัญชาติมาเลเซีย

2. คอนโดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ นางเสาวลักษณ์

3. คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ นางสาวเบญพรรณ และ นายบรรลือศักดิ์

4. บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 4 อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ นายอธิป

5. บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ จับกุมบุคคลตามหมายจับคือ นางสาวหนึ่งฤทัย

นอกจากนี้ได้ทำการตรวจสอบกิจการที่เชื่อว่าได้จากการฟอกเงิน จำนวน 2 กิจการ คือ 1. บ่อตกกุ้งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ซ.รามคำแหง 122  และ 2. ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมได้ตรวจยึดทรัพย์ 34 รายการ ดังนี้ เงินสด 4 ล้านบาท, รถยนต์ 2 คัน, นาฬิกา ปาเตะ ฟิลิป รุ่น 5726 จำนวน 1 เรือน, นาฬิกาโรเล็ก รูทเบียร์ 1 เรือน, สร้อยทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ พระเลี่ยมทอง 9 รายการ, กระเป๋าแบรนด์เนม 14 รายการ, แว่นตา 2 รายการ, สุรา ราคาแพง 1 รายการ มูลค่ารวม 13,313,000 บาท

ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจสีเทา รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ จะหลบเลี่ยงการสืบสวนจับกุม โดยการใช้ระบบการเงินจาก Payment Gateway ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ตัดตอนกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงออกไป นโยบายของผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ มีนโยบายให้ทำการสืบสวนจับกุมให้ไปให้ถึงต้นตอ แบบขุดรากถอนโคน ซึ่งในการสืบสวนครั้งนี้ พบกลุ่มฟอกเงินแล้ว และยังไม่บุคคลที่ยังจะต้องทำการสืบสวนเพื่อตัดระบบ Gateway เถื่อน และสืบสวนหาตัวคนร้ายที่แท้จริงต่อไป