หวั่นคดีไม่คืบ! เรื่องร้อนถึงอัยการคดี ผอ.โรงเรียนดังในเชียงแสน ขับรถชนแชมป์กาแฟไทยดับ
วันที่ 18 ธ.ค.67 ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย ได้มี น.ส.โสจิลักษณ์ ใจเบ้า ชาว ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมญาติๆ เดินทางไปร้องทุกข์กรณีนายยศพล ไชยเบ้า หรือ ป๊อป อายุ 33 ปี สามีของ น.ส.โสจิลักษณ์ ได้ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อายุ 43 ปี ขับรถยนต์พุ่งชนท้ายจนเสียชีวิตขณะร่วมกับรถจักรยาน ประมาณ 9-10 คน ซึ่งได้ปั่นออกกำลังกายบนทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 หมู่บ้านหนองบัวแดง ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย โดยเหตุเกิดวันที่ 9 ต.ค.2567
ทั้งนี้ นายยศพล หรือ "ป๊อป" เป็นเจ้าของร้านก๋างโต่งคาเฟ่ใน ต.ท่าสุด และยังเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2564 แต่หลังจากเกิดเหตุรถชนได้ 2 เดือน คดีก็ยังไม่คืบ ยังไม่มีการยื่นฟ้องต่ออัยการ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและการเจรจาค่าเยียวยากับผู้ที่ก่อเหตุไม่มีความคืบหน้าอีกด้วย
ด้านนายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องและแจ้งให้ น.ส.โสจิลักษณ์ ญาติทราบว่าจนถึงวันที่เย็นวันที่ 17 ธ.ค.67 ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ยื่นคดีนี้ต่อสำนักงานอัยการ แต่ตามกฎหมายนับตั้งแต่มีคดีจะฝากขังได้ 84 วัน หรือ 7 ฝากขัง ดังนั้น ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์และพนักงานสอบสวนคงจะส่งเรื่องถึงอัยการตามกำหนด จากนั้นอัยการจะพิจารณาว่าจะส่งฟ้องศาลหรือไม่ต่อไป ในเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาได้ถูกดำเนินคดีข้อหาขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนี
ส่วนเรื่องเงินเยียวยานั้นผู้เสียหายจะได้รับจาก พ.ร.บ.ประกัน ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับค่าเสียหายที่คู่กรณีจะมอบให้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลโดยบางคนแสดงความรับผิดชอบทันทีแต่บางคนก็ไม่ทำเช่นนั้น ดังนั้น ผู้เสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้โดยคำนวนจากการสูญเสียผู้ตาย เช่น ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ภรรยา ค่าขาดงาน กิจการร้านกาแฟ รายได้ตามปกติ ฯลฯ แม้เรื่องนี้จะยังไม่ถึงอัยการแต่ก็จะให้ผู้เสียหายได้บันทึกปากคำและจะมีหนังสือไปถึงผู้ต้องหาเชิญไปสอบถาม ก่อนจะให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากัน หากตกลงกันได้ก็จะบันทึกไว้โดยฝ่ายเจ้าทุกข์ควรเสนอให้อีกฝ่ายมีการค้ำประกันด้วย เพราะจะต้องนำบันทึกนี้เสนอต่อศาลเพื่อเป็นหลักประกัน ทั้งนี้ คาดว่าผู้ต้องหาจะไปพบอัยการภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งในขั้นตอนนี้ถือว่าไม่ซ้ำซ้อนกับคดีอาญาและยืนยันว่าในชั้นอัยการจะไม่มีการช่วยเหลือวิ่งเต้นใดๆ
ทางอัยการฯได้ยกตัวอย่างคดีที่ผู้ก่อเหตุเป็นครูเหมือนกันขับรถชนคนแต่กลับไม่ได้เยียวยาต่อผู้เสียหายและผลักภาระให้กับ พ.ร.บ.ประกันฯ ปรากฎว่าเมื่อถึงชั้นศาลได้พิจารณาว่าไม่มีความรับผิดชอบตั้งแต่ต้นจึงลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ในชั้นอุทธรณ์จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ถือว่าสำนึกเมื่อสายแล้วและโอกาสที่จะถูกรอลงอาญาก็มีน้อย
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากอัยการ น.ส.โสจิลักษณ์ และญาติได้ แยกย้ายกันกลับ ทั้งนี้มีรายงานว่าคดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่ต้นและชุดสืบสวนสืบทราบว่า หลังเกิดเหตุ 1 วัน รถยนต์ที่ชนถูกขับไปจอดอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่หมู่บ้านป่ายางมน หมู่ 5 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่จึงตามไปยึดไว้เป็นของกลางก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินทางไปแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนในวันเดียวกันและถูกดำเนินคดีดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี