nn คนด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง พลันทันทีที่รัฐบาลบอกจะมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนด้วยการลดค่าไฟฟ้าให้หน่วยละ 3 สตางค์ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ลดค่าไฟฟ้าให้หน่วยละ 3 สตางค์ ลดกันกี่วันกี่เดือน และอีกกี่เดือนจึงจะปรับขึ้นเป็น 2 เท่า หรือ 3 เท่าจากที่ปรับลดไป...

nn พอประชาชนได้ยินได้ฟังการปรับลดค่าไฟฟ้าจำนวนดังกล่าวต่างคนต่างพูดสอดคล้องต้องกันตรงกันว่าน้ำตาจะไหล และคงไหลกันทั้งประเทศ รัฐบาลนี้ทำเหมือนเอาใจใส่ต่อความเดือดร้อนของประชาชนสาหัสสากรรจ์ทีเดียว แต่มองกันลึกๆ แล้วอธิบายได้ว่าเป็นการดูถูกดูแคลนประชาชนเหลือหลาย เพราะทุกเดือนทุกปีการไฟฟ้าฯมีกำไรมากมาย ที่สำคัญเงินดังกล่าวก็เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากประชาชน โดยเฉพาะค่าบริการกินฟรีทุกเดือนมันสุดรันทด (ไม่นับภาษีที่บีบเก็บ)ความรู้สึก คำว่าบริการไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันทำให้ประชาชนเห็น นอกจากเจ้าหน้าที่นั่งรอรับการชำระค่าไฟฟ้าอยู่ในห้องแอร์ ซึ่งตามพจนานุกรมลักษณะแบบนี้ไม่ใช่การบริการ ถ้าบริการจริงต้องลงไปเก็บกันถึงบ้าน เพราะเงินค่าบริการชาวบ้านเขาจ่ายไว้แล้ว แต่วันนี้ชาวบ้านต้องลากถ่อสังขารเดินทางไปจ่ายกัน ณ ที่การไฟฟ้าฯ...

nn เหตุใดการลดค่าไฟฟ้าจึงไม่พูดถึงค่าบริการที่กินฟรี ทำไมการไฟฟ้าฯไม่ยกเลิกค่าบริการ กินฟรี ทำไมรัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนใครมาเป็นรัฐบาลจะต้องตกเป็นเบี้ยล่างของการไฟฟ้าฯมาตลอด...

nn ลดค่าไฟฟ้า 3 สตางค์ต่อหน่วย พูดกันตรงไปตรงมาอย่าลดให้เสียความรู้สึกจะเป็นกุศลกว่า การลดดังกล่าวนอกจากจะดูถูกประชาชนแล้ว ยังชี้ให้แลเห็นว่าประชาชนถูกมองว่า “โง่งี่เง่า” เขาให้เศษเนื้อเท่าไหร่ก็รับและชื่นชมยินดี ทั้งๆ 3 สตางค์ต่อหน่วย มันช่วยอะไรแทบไม่ได้เลย อนิจจาวลีเสียดแทงหัวใจ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาลค่าน้ำค่าไฟฟ้าลดทันที” มันยังก้องอยู่ในรูหูสองข้างไม่จางหาย เนื่องจากสิ่งที่บรรจงท่องบอกประชาชน จริงๆ แล้วมันคือ “น้ำลาย” การหาเสียงของนักการเมืองที่เล่นกันแทบทุกพรรคการเมือง นโยบายอย่างนี้แบบนี้ถ้าเกิดในเกาหลีใต้มีหวัง “ตกนรก” กันเป็นแถว เพราะแค่ประกาศภาวะฉุกเฉินก็พินาศแล้ว...nn

ไผ่ฎำ