‘อนุทิน’ลุยสุราษฎร์
เร่งเยียวยาน้ำท่วม
ย้ำจ่ายหลังละ9พัน
เมืองคอนน้ำเริ่มลด
“อนุทิน” ควง “ซาบีดา” ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมมอบถุงยังชีพให้กำลังใจชาวอ.กาญจนดิษฐ์ รับปากเร่งสำรวจจ่ายเยียวยาครัวเรือนละ 9 พัน สั่งทุกจว.ถอดบทเรียนวางแผนป้องกันดินสไลด์-โคลนถล่มย้ำปฎิบัติตามคำแนะนำภาครัฐ กำชับจนท.เร่งช่วยผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ หลายจังหวัดเริ่มคลี่คลาย หลังจากฝนหยุดตก ระดับน้ำท่วมลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติเมืองคอนฯเริ่มบิ๊กคลีนนิ่งหลังน้ำแห้งบรรยากาศบริเวณถนนพัฒนาการคูขวาง ย่านเศรษฐกิจของตัวเมืองนครศรีธรรมราช เช้าวันเดียวกันนี้ ประชาชนกลับมาเปิดร้านค้า บ้านเรือน ทำความสะอาด หลังน้ำจากเขาหลวงไหลทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าย่านนี้ต้องปิดบริการ 2 วัน บางจุดบนถนนรถเล็กสัญจรไปมาไม่ได้ เพราะระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร และ 1 เมตรในบางจุด ตลอดถนนความยาวกว่า 6 กิโลเมตร น้ำลดแล้วทั้งหมด วันนี้ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราชระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รวมถึงจิตอาสา และผู้ประกอบการในย่านดังกล่าว ฉีดล้างทำความสะอาดถนน เก็บกวาดขยะที่ถูกน้ำพัดมาติดอยู่ตามฝาท่อระบายน้ำจุดต่างๆ เพื่อเร่งเคลียร์พื้นที่ ขณะที่ตามตรอกซอยบนถนนพัฒนาการคูขวาง ที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติเหลือท่วมขังประมาณ 10-20 เซนติเมตรบางจุด คาดว่าน้ำส่วนนี้จะระบายออกได้หมดไม่เกินช่วงค่ำวันนี้ (18 ธันวาคม) เช่นเดียวกับ น้ำตามคูคลองรวมถึงน้ำจากโซนอ.ลานสกา น้ำตกคีรีวง จุดต้นน้ำที่ก่อนหน้านี้มีมวลน้ำปริมาณมหาศาล ขณะนี้ลดระดับลงและกลับเข้าสู่ระดับปกติแล้ว หลังฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 48 ชั่วโมง
มท.1มอบถุงยังชีพ-17อ.สุราษฎร์ฯเฝ้าระวัง
วันเดียวกัน ที่ศาลาประชาคม อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อมน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยประมาณ 300 คน และเดินทางต่อไปบ้านคลองกะแดะแจะ หมู่ 6 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่มประปาดื่มได้ให้ประชาชนผู้ประสบภัย รวมถึงต.ท่าทอง พื้นที่ติดแม่น้ำท่าทอง ก่อนไหลลงอ่าวบ้านดอน และลงทะเล โดย อ.กาญจนดิษฐ์เกือบทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุด เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำมาจากเขตรอยต่อกับจ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันจ.สุราษฎร์ธานีฝนหยุดตกแล้ว ทำให้สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย แต่ระดับน้ำในโซนปลายน้ำยังสูงอยู่ทั้ง 17 อำเภอ โดยอำเภอที่เป็นเส้นทางน้ำแม่น้ำตาปี ได้แก่ อ.พระแสง เวียงสระ บ้านนาสาร บ้านนาเดิม เคียนชา และ อ.พุนพิน ที่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งระยะนี้ คาดว่าหากฝนหยุดตก สถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 2-3 วันนี้
รับปากเร่งจ่ายเยียวยาหลังละ9พัน
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทุกคนมาด้วยความห่วงใย เวลาประชาชนมีทุกข์ เราก็มาให้กำลังใจ ที่ผ่านมามอบให้อธิบดีกรม ปภ. มาประจำพื้นที่บริหารสถานการณ์ร่วมกับรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยืนยันว่าทุกข์ของประชาชนหนักเท่าไหร่ คนมหาดไทยทุกข์ยิ่งกว่าประชาชนหลายเท่า เพราะหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย คือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน ไม่ว่าเกิดเหตุอุทกภัยหรือภัยใดๆ ก็ตามในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เราจะเร่งลงไปให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และไปร่วมแก้ปัญหาให้กับพื้นที่
นายอนุทินกล่าวต่อว่า อ.กาญจนดิษฐ์ เป็นอำเภอที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยเป็นปริมาณมาก จากปริมาณฝนตกหนักมากถึง 300 มิลลิเมตร และแม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะดีขึ้น แต่ในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมามีฝนตกทั้งวันทั้งคืน จึงส่งผลกระทบอย่างมาก ซึ่งหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่จะได้ตั้งคณะกรรมการฯ เร่งสำรวจความเสียหาย ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ และรายงานไปยัง ปภ. เพื่อเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามเกณฑ์สูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท สิ่งที่ต้องเร่งทำคือสำรวจความเสียหายให้เงินถึงมือประชาชนให้ได้เร็วที่สุด
สั่งทุกจว.ถอดบทเรียนรับมือดินสไลด์
นายอนุทินกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และสั่งให้ปภ.กับจ.สุราษฎร์ธานี และทุกจังหวัดถอดบทเรียน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้เนินเขา อยู่ริมเขา พร้อมทั้งย้ำเตือนขอให้ประชาชนเชื่อมั่น และปฏิบัติตามคำเตือนของราชการ หากเกิดสถานการณ์ต้องเร่งอพยพมาที่ศูนย์พักพิง จะได้รับการจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกส่วน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เราต้องรักษาชีวิตของเราเสียก่อน ข้าวของเสียหายเราสามารถซ่อมแซมจัดซื้อจัดหาใหม่ได้ แต่ชีวิตและอวัยวะถ้าสูญเสียไปหาใหม่ได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12-16 ธ.ค. ได้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ใน อ.กาญจนดิษฐ์ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 12,900 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 7,840 ครัวเรือน มีผู้พลัดตกน้ำเสียชีวิต 1 ราย โดยอยู่ระหว่างการค้นหาผู้สูญหายจากน้ำพัด และสำรวจความเสียหาย
ส่งทีมเยียวยาจิตใจเหยื่อน้ำท่วมที่นบพิตำ
ขณะที่ทีมเยียวยาจิตใจโรงพยาบาลนบพิตำ ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำ หลังเกิดเครียดจากการหนีเอาชีวิตรอดและทรัพย์สินเสียหายจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงกลางดึกวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังเกิดฝนตกสะสมต่อเนื่อง 12 ชม. มากถึง 450 มิลลิเมตร ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่พักอยู่ในศูนย์อพยพในอบต. คาดอาจต้องพักอยู่ไปอีกระยะหนึ่ง เพราะยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ และรอลูกหลานทำงานความสะอาดบ้านที่เต็มไปด้วยโคลนให้เสร็จก่อน โดยหลายครอบครัวกลับไปดูทรัพย์สินช่วงกลางวัน และจะกลับมาพักภายในศูนย์อพยพ เป็นช่วงค่ำ
ไฟดูดเสี่ยร้อยล้านดับระหว่างสูบน้ำ
กรณีนายสุจินต์ บุษบรรณ หรือเสี่ยหมึก อายุ 61 ปี ชาวต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมัน ปตท.หลายแห่งใน จ.ชุมพร เช่น ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทองมีการปิโตรเลียม สาขา อ.เมืองชุมพร สาขาวังไผ่ สาขาขุนกระทิง ฯลฯ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ถูกไฟดูดเสียชีวิตขณะใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากบริเวณบ้าน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม แหล่งข่าวจากบุคคลใกล้ชิดนายสุจินต์ หรือ “เสี่ยหมึก” เปิดเผยว่า ทราบว่า หลังเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตของเสี่ยหมึกคือเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรแล้วช็อตเสี่ยหมึกจนเสียชีวิต โดยญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายแล้ว จะนำศพเสี่ยหมึกไปยังวัดชุมพรรังสรรค์ (วัดเหรือ) พระอาราหลวง ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.30 น.วันที่ 18 ธันวาคม 2567 จากนั้นจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลถึงวันที่ 25 ธันวาคม ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ที่เมรุวัดชุมพรรังสรรค์ วันที่ 26 ธันวาคม เวลา 13.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี