“มท.1” นั่งหัวโต๊ะถกรับมือ 7 วันอันตรายปีใหม่ ตั้งแต่ “27 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568”สั่งทุกหน่วยป้องกันลดอุบัติเหตุเจ็บ-ตายบนถนนช่วงปีใหม่ กำชับเข้มมาตรการ “ดื่มไม่ขับ-ฝ่าฝืนก.ม.จราจร” เน้นใช้บทกำหนดโทษสูงสุด

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 ผ่านระบบ Video Conference ที่ห้องประชุมสำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่ต่อว่า วาระประชุมครั้งนี้ นายอนุทินให้ความสำคัญปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่หน่วยงานทุกภาคส่วนต้องร่วมกันบูรณาการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยเฉพาะในเทศกาลที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนามากกว่าหลายปีที่ผ่านมา เพราะไม่มีข้อกังวลเรื่องสถานการณ์โควิดอีกต่อไป จึงให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมทุกด้าน ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้สัญจรกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยวในดังกล่าว รวมถึงช่วงเทศกาลอื่นที่มีวันหยุดยาว และทุกครั้งที่ขับขี่ยวดยานพาหนะ โดยช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ต้องกวดขันมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568

“นายอนุทินเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยทุกหน่วยงานเร่งวางแผนการดำเนินงานรองรับสถานการณ์การเดินทางของประชาชน ซึ่งจะมีปริมาณการใช้รถใช้ถนนสูงมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 และทุกเทศกาล ด้วยการรณรงค์มาตรการ “ดื่มไม่ขับ” ถ้าดื่มต้องไม่ขับขี่ ไม่ใช่เมาไม่ขับ ให้เต็มที่ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน หากในพื้นที่มีการจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ตามกฎหมาย ให้ทุกจังหวัด/อำเภอขยายผลการสอบสวนดำเนินคดีไปจนถึงผู้จำหน่ายและผู้ปกครองด้วย ทั้งนี้ หากมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรให้ใช้บทลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย รวมทั้งพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพิ่มอัตราโทษในฐานความผิดเกี่ยวกับการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ เพื่อให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวไม่กล้าฝ่าฝืนกฎหมาย” โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว

และว่า นายอนุทินยังสั่งการกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย เร่งสำรวจและแก้ปัญหาสภาพถนนทางสาธารณะ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้โดยเฉพาะถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เมื่อน้ำขังทำให้ผู้ขับขี่ไม่เห็น จะเกิดอันตรายเพิ่ม 2 เท่า เป็นห่วงโซ่อุบัติเหตุ จึงขอให้เร่งสำรวจแก้ไข ป้องกันความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุให้น้อยลง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะติดตามดำเนินการใกล้ชิด นายอนุทินยังนำข้อสั่งการของนายกฯในการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนนด้วยมาตรการเชิงรุก ด้วยการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านคน ถนน ยานพาหนะ และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมายลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 12 คนต่อแสนประชากรภายในปี 2570