สตม.บุกทลายจับ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่น” เครือข่ายแก๊งยากูซ่าใหญ่จากญี่ปุ่น ตั้งฐานในประเทศไทย ที่ จ.ชลบุรี โทร.หลอกลวงเหยื่อผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น รวมมูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท คาดใช้‘นอมินี’คนไทย ฟอกเงิน ผ่านธุรกิจ‘คาเฟ่-ซาวน่า’
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.)รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) พร้อม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รองผบช.สอท.ปรก.รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2บก.สส.สตม.แถลงผลการจับกุมของตำรวจสืบสวนสอบสวนสตม.หลังจากนำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้น บ้านพัก 2 แห่งใน จ.ชลบุรีพบเป็นสำนักงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น
จุดแรก เป็นบ้านพักพูลวิลล่าหรู ภายในบ้านจับกุมชายชาวญี่ปุ่น 2 คน คือ นายทากายูกิ และนายฮาจิเมะ สัญชาติญี่ปุ่น ที่มีพฤติการณ์เป็นผู้ควบคุมและสั่งการพนักงานคอลเซ็นเตอร์ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ , แท็บเล็ต และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รวม 42 รายการ และภาพการสนทนาของสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสคริปต์ข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง
จุดที่ 2 เป็นบ้านพักอีกแห่งใน จ.ชลบุรี จับกุมชายชาวญี่ปุ่น 3 คน พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต , กระดานรายชื่อ ,ข้อมูลผู้เสียหาย และสคริปต์การสนทนาของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง รวม 37 รายการ จากการสืบสวนจุดนี้พนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นสถานที่ดำเนินการโทร.หลอกลวงผู้เสียหาย ที่มีข้อมูลของผู้เสียหายกว่า 50,000 รายชื่อ
พ.ต.อ.รัฐโชติ กล่าวว่า พฤติการณ์ของคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโทร.หาผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น อ้างว่าคืนเงินประกันสุขภาพให้ และให้ผู้เสียหายเตรียมเงินไว้ในบัญชีขั้นต่ำ 500,000 เยน จากนั้น จะหลอกให้ผู้เสียหายไปทำการโอนเงินที่หน้าตู้กดเงินโดยให้โอนเข้าบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2567มีชายชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ กลับใจขับรถจักรยานยนต์ (จยย.) หลบหนีจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไปที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าให้ข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ว่า มีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนญี่ปุ่น มาตั้งสำนักงานอยู่ที่เมืองพัทยา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซีย ก่อนจะย้ายมาที่ประเทศไทย เมื่อ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ตัวเองรู้สึกผิดกับการหลอกลวงคนญี่ปุ่นด้วยกันเองจึงเข้าให้ข้อมูล
ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ พบว่ามีหัวหน้าเป็นสมาชิกแก๊งยามากูจิ ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าชื่อดัง และเก่าแก่กว่า 100 ปี ในประเทศญี่ปุ่น หนีคดีมาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ที่ผ่านมา หลอกลวงผู้เสียหายรวมมูลค่า 24 ล้านเยน หรือประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน เพิ่งมาตั้งสำนักงานได้ 70วัน ก็สามารถได้เงินจากเหยื่อไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท และยังพบหลักฐานว่ามีการนำเงิน คาดว่าได้จากการหลอกลวงเหยื่อส่งมาทำธุรกิจในกรุงเทพฯและเมืองพัทยา มีธุรกิจประเภทคาเฟ่และซาวน่า เชื่อว่ามีคนไทยเป็นนอมินีและอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี