18 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุว่า มีคนโดนหลอกมาไกลจากจ.เชียงราย ทั้งยังถูกยึดบัตรประชาชน และกำลังจะถูกพาข้ามชายแดนฝั่งประเทศกัมพูชา ถูกคนร้ายพามาพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งในต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นหญิงสาว 2 คน และขอให้ตำรวจมารับตัว หลังรับแจ้งศูนย์วิทยุสั่งการให้ตำรวจลงพื้นที่รีบไปรับตัวออกจากรีสอร์ท และพาตัวไปสถานี (ย่อย) สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจจึงทำการสอบสวนและลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ทราบชื่อทั้ง 2 คน ต่อมาว่า น.ส.แพร อายุ 28 ปี และ น.ส.บี อายุ 39 ปี ทั้ง 2 คน เป็นชาว ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย
จากการสอบปากคำของตำรวจเบื้องต้น ทราบว่าทั้งสองคนเป็นชาวจังหวัดเชียงราย เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางมาตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.67 ลงที่กรุงเทพฯ จากนั้นนั่งรถต่อไปยังที่พระราม 2 และมีคนที่ชื่อนงลักษณ์ฯ หรือบุ้ม อายุ 49 ปีพาไปเปิดบัญชีคนละ 3 บัญชีต่างธนาคารต่างสาขาที่ห้างสรรพสินค้า และพักอยู่ที่กรุงเทพฯกระทั่งวันที่ 17 ธ.ค.67 มีชาย 3 คน ได้ขับรถกำลังจะพาไปส่งที่ปอยเปต โดยออกมาจากกรุงเทพบ่ายโมง ไปถึงฉะเชิงเทราบังเอิญมีด่านตรวจ คนขับรถได้พาได้ขับรถหลบด่านขึ้นมาทางภาคอีสานและขับรถมาเรื่อยๆ
กระทั่งมาถึงจังหวัดอุดรธานีและพาไปพักที่รีสอร์ทใน ต.หมูม่น เขาบอกว่าเช้าวันที่ 18 ธ.ค.67 จะมารับเพื่อไปส่งข้ามลาว จากนั้นคนชาย3 คนในรถก็ขับออกไปจากรีสอร์ท ส่วนหญิงสาวชาวเชียงรายเอะใจคิดว่าได้คงจะถูกหลอกไปทำงานจึงแจ้งตร.มารับตัวดังกล่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทใน ต.หมูม่น พบว่าคนร้ายขับรถ CRV มาด้วยกัน 3 คนพา น.ส.บี และน.ส.แพร เข้าพักรีสอร์ท จากนั้นก็ขับรถออกไป โดยวงจรปิดจับภาพสองคนร้ายที่มาเช็คอินห้องพัก ส่วนอีกคนนั่งในรถ โดยได้จอดรถไว้ด้านหน้าฯ
น.ส.บี เล่าให้นักข่าวฟังว่า เริ่มแรกก่อนที่จะมาอุดรธานี มีคนที่ชื่อนงลักษณ์หรือบุ้ม เคยอยู่บ้านใหญ่ด้วยกันแต่ออกมาก่อน ตนเองเพิ่งออกมาได้ 3 เดือน จู่ๆ เขาก็ทักมาในเฟสบุ๊คมาชักชวนไปทำงานที่บ่อนการพนันปอยเปต โดยให้ข้อเสนอว่าไปทำงานที่นั่นเพียง 3 วัน ก็จะได้เงิน 20,000 บาท ตนเองมีความจำเป็นที่ต้องการที่จะมาทำงานหาเงิน จึงได้ชวนหลานสาวคือน.ส.แพรมาด้วย โดยน.ส.แพรก็ต้องการหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวเนื่องจากมีภาระต้องเลี้ยงดูลูก จึงพากันมาโดยนั่งรถประจำทางมาจากจังหวัดเชียงรายมาลงที่สถานีหมอชิตและนั่งรถต่อไปลงที่พระราม 2 และมีชายสามคนไม่บอกชื่อเสียงเรียงนามก็พาไปเปิดบัญชีธนาคารที่ห้างสรรสินค้า คนละ 3 บัญชี 3 ธนาคาร
จากนั้นเขาก็พามาพักอยู่ที่พระราม 2 ได้ประมาณ 4 วัน จนวันที่ 16 ธันวาคม ก็มีคนมารับพาขึ้นรถไปทำปอยเปต นั่งรถมาด้วยกัน 5 คน มาถึงขับมาถึงจังหวัดฉะเชิงเทราก็เจอด่านตรวจตำรวจ ปรากฏว่าเขาก็เปลี่ยนแผนขับรถหลบด่านบอกว่าเจ๊เปลี่ยนใจให้ข้ามฝั่งลาวไปเลย จากนั้นก็ขึ้นอีสานขับรถมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงอุดรธานีตอนค่ำวันที่ 17 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งเขาอ้างว่าวันนี้หวยออกยังข้ามไปไม่ได้ โดยบอกว่าให้รอรับคำสั่ง แล้วคนที่พามาก็เปิดห้องให้เข้าพักรีสอร์ท ซึ่งก่อนเดินทางมา บอกเขาว่า ไปก็ได้แต่ขอเบิกเงินก่อนเพื่อให้ครอบครัว เขาจึงให้ตนและน.ส.บีเบิกล่วงหน้ากับเขาไว้ก่อน 19,000 บาท ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ตนจะมายังจังหวัดอุดรธานี เขาได้พาไปเปิดบัญชีที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยเปิดคนละหลายๆบัญชี อ้างว่าบัญชีจะใช้เป็นบัญชีเข้าออกเงิน ซึ่งตนก็ยินยอมเนื่องจากถูกบังคับ พอเปิดบัญชีแล้วเขาก็ยึดสมุดและเปลี่ยนรหัสผ่านแอปบัญชี และยึดบัตรประชาชนไว้ด้วย
นางสาวบี บอกอีกว่า สาเหตุที่ตนต้องตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่ปอยเปตนั้นเนื่องจากตนก็เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดและออกมาได้ไม่นานอีกทั้งตนก็ต้องเลี้ยงดูลูกส่วนหนึ่งคนส่วนหลานคือน้องสาวแพรก็ต้องเลี้ยงดูลูกดีเช่นกันที่บ้านก็ไม่มีอะไรลูกก็ต้องเรียนมีภาระเขาชวนตนก็เลยตอบตกลงเพราะต้องการเงิน เขาก็บอกว่าจะพาไปทำงานในบ่อยปอยเปต ใจหนึ่งก็คิดว่าเขายึดบัตรประชาชนและให้ไปเปิดบัญชี ใจหนึ่งก็เชื่อว่าคนร้ายอาจจะหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เป็นได้ แต่โชคดีที่เอะใจแจ้งตำรวจมาช่วยไว้ทันก่อนไม่งั้นไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราสองคน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตร.สภ.นาข่า ได้ ทำการสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วเสร็จ ตร.ได้ซื้อข้าวกล่องให้ทั้ง 2 คนกินก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาหญิงสาวทั้งสองคนไปทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ และพาเดินเรื่องปิดบัญชีธนาคารที่ทำการเปิดไว้ทุกบัญชี ก่อนจะส่งตัวขึ้นรถประจำทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดเชียงรายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี