อัยการฟ้องแล้ว เชน ธนา ฉ้อโกงเงิน 79 ล้าน บ.ไทยยินตัน ศาลนัดไกล่เกลี่ยปลาย ก.พ.ปีหน้า เสี่ยเชน ยันไม่ฉ้อโกงใครแน่นอน เผยภรรยาเครียดหนักจนป่วย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่สำนักงานอัยการพิเศษศาลแขวง 4 (พระนครใต้) ถ.เจริญกรุง พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 นัดฟังคำสั่งคดี บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด โดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ , นายธนาตรัยฉัตร หรือ เชน ธนา ภูโชคอนันต์ อดีตนักร้องชื่อดัง อายุ 37 ปี , น.ส.กาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ อายุ 34 ปี ภรรยา ผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง บริษัท ไทยยินตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท โดยอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายธนาตรัยฉัตร กับพวก
โดยวันนี้ เชน ธนา เดินทางมาฟังคำสั่ง ส่วน น.ส.กาลย์กัลยา ภรรยา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งด้วยเนื่องจากมีอาการป่วย
นาย ธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า วันนี้อัยการนัดฟังคำสั่งฟ้อง และตนได้ใช้สิทธิในฐานะที่เป็นประชาชนไทยมาตลอดในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ในการแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง อย่างที่ได้แจ้งไปก่อนหน้านี้ว่าตนพยายามถามคำถามเกี่ยวกับข้อหาฉ้อโกงที่ตนตกเป็นผู้ต้องหานั้นมีรายละเอียดเรื่องอะไรบ้าง จนตอนนี้ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนั้น หลังจากนั้นตนได้ถามทีมทนายของตนว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งตนได้ร้องขอความเป็นธรรมตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่อัยการแขวงพระนครใต้ ว่าจะสามารถสอบสวนตนเพิ่มได้หรือไม่ เพราะตนมั่นใจในเรื่องของข้อมูลว่า ตนไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง และเรื่องการขายสินค้าแล้วขาดทุนตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นการบริหารของทางบริษัทว่า เมื่อสินค้าใกล้หมดอายุ มีการตีค่าเผื่อสินค้าเมื่ออายุของสินค้าต่ำกว่ากึ่งหนึ่งหรือไม่
ส่วนเรื่องคดีความวันนี้ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน แต่ส่วนตัวตนได้ร้องเรียนไปถึงอัยการสูงสุด แต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าให้สอบสวนเพิ่ม ซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนั้น แต่สิทธิของตนเข้าใจว่าทางอัยการเจ้าของคดีน่าจะมีการเรียกสอบตนเพิ่มบ้าง แต่วันนี้เมื่อตนได้รับคำสั่งในรูปแบบนี้ก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีบ้างไหม นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับคู่กรณี อย่างที่แจ้งไปวันนี้ตนมาในนามตัวแทนของบริษัท มองว่าเป็นเรื่องของสินค้าไม่ตรงกับสัญญาซื้อขายมากกว่า
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทและสินค้าหรือไม่ นายธนาตรัยฉัตร กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเป็นอย่างมาก และประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ ในส่วนนี้ตนเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า ทางตนมีการไลฟ์สดขายสินค้าทางแพลตฟอร์มติ๊กตอก เป็นผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายธนาตรัยฉัตร กล่าวต่อว่า ประเด็นที่เห็นตนไลฟ์สดขายของอยู่ เป็นผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวด้วย ตนได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยลดการออกมาหน้าสื่อทางทีวีลงไป แต่ในเมื่อมีแพลตฟอร์มออนไลน์ และบริษัทของตนยังต้องไปต่อ รวมถึงยังมีพนักงานอีกร่วมร้อยชีวิต จึงเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องประคองบริษัทให้รอดจากช่วงวิกฤตนี้ไปด้วย
เมื่อถามอาการป่วยของ น.ส.กาลย์กัลยา ภรรยา เป็นอย่างไรบ้าง นายธนาตรัยฉัตร กล่าวอีกว่า ภรรยาของตนมีอาการวิตกกังวล รวมถึงมีอาการภูมิตกจากอาการเครียด แพทย์จึงให้พักรักษาตัวเสียก่อน และตนมีใบรับรองแพทย์เข้ามาแสดงยืนยันเกี่ยวกับอาการป่วยของภรรยาด้วย
เมื่อถามว่า ในวันนี้ ขั้นตอนการประกันตัว มีการเตรียมหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัวหรือไม่ นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนทำตามขั้นตอนที่ทนายแนะนำไว้ และปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลต่อไป
ต่อมาพนักงานอัยการคดีศาลแขวง 4 (พระนครใต้) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธนาตรัยฉัตร เป็นจำเลยต่อศาลแขวงพนะนครใต้ ฐานร่วมกันฉ้อโกง บริษัท ไทยยินตัน จำกัด จำนวน 79 ล้านบาท
ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ ที่ 2263/2567 พร้อมนัดไกล่เกลี่ยคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราวโดยมีผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเเขวงพระนครใต้
ส่วน น.ส.กาลย์กัลยา ผู้ต้องหาที่ 3 พนักงานอัยการได้อนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่ง แต่ตามขั้นตอนตามกฎหมายเเล้วเมื่อยังไม่ได้ตัวมาฟ้องภายในระยะเวลาผัดฟ้องครั้งที่ 5 (30 วัน) การที่จะนำตัวผู้มาฟ้องคดีได้จะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดฟ้องส่วนจะใช้ระยะดวลาเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนเเละการพิจารณาของอัยการสูงสุด
ด้านนายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ได้มีคำสั่งฟ้อง บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัดโดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ,นายธนาตรัยฉัตร เป็นจำเลยที่1-2 ที่ต่อศาลแขวงพระนครใต้แล้ว ส่วนกรณทีที่นายธนาตรัยฉัตร ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้น พนักงานอัยการได้พิจารณาประเด็นแล้ว เห็นว่าเพื่อให้การพิจารณาสั่งคดีของพนักงานอัยการเป็นไปอย่างเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนบก.ป.สอบสวนเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 ประกอบระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมในคดีอาญา พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งผลสอบเพิ่มเติมได้ส่งกลับมายังสำนักงานอัยการศาลแขวง 4 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า การที่พนักงานอัยการไม่เรียกพยานหลักฐานมาสอบสวนเพิ่ม เพราะเห็นว่าไม่จําเป็นที่จะต้องเรียกหรือสอบใครเพิ่มเติม อาจจะเป็นประเด็นเดิมที่มีในสำนวนแล้ว เพื่อเป็นการไม่ประวิงคดี และกรณีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมของนายเชน ธนา นั้น เข้าข้อ 15 ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมในคดีอาญา พ.ศ. 2567 ที่พนักงานอัยการได้มีความเห็นหรือคำสั่งทางคดีไปก่อนรับเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าการร้องขอความเป็นธรรมไม่เป็นเหตุให้ผลการพิจารณาสั่งคดีเปลี่ยนแปลงไป ให้พนักงานอัยการเสนอความเห็นยืนยันคำสั่งเดิม จึงได้มีความเห็นสั่งฟ้อง และยื่นฟ้องคดีต่อศาลแขวงพระนครใต้ในวันนี้ และศาลได้รับเป็นคดีดำหมายเลขที่ 2263/2567 และนัดไกล่เกลี่ยคู่ความวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 68 และจะมีสอบคําให้การจําเลยตัว กับผู้เสียหายกับ เนื่องจากเป็นความผิดต่อส่วนตัวจึงสามารถเจรจายอมความได้
ขณะที่นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ ผู้มีอำนาจ บริษัท ไทยยินตัน จำกัดผู้เสียหาย พร้อมนายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความ เดินทางมายังศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวนายธนาตรัยฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด
นายธนพงศ์ ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้มีการฟ้องบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด นายนายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ และน.ส.กาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ภรรยา โดยตนได้ตรวจพบว่าก่อนหน้าอัยการมีคำสั่งฟ้อง แต่วันนี้ข้อมูลเว็บไซต์ของบริษัทของจำเลยที่ 2 และ 3 ซึ่งระบุหน้าที่และตำแหน่งต่างๆว่ามีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง ถูกลบแล้วจึงมองว่าเข้าข่ายยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือทำลายพยานหลักฐาน วันนี้จึงมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางมาพร้อมกับลูกความ เพื่อคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเกรงว่า หากถูกปล่อยตัวออกมาจะไปลบหรือทำลายหลักฐานในส่วนอื่นๆ ที่เป็นการพิสูจน์เจตนาในการกระทำผิด
นายธนพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการผัดฟ้องหลายครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายซึ่งแต่ละครั้งมีการแจ้งระบุวัน ที่ชัดเจนให้ทราบมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่า วันนี้ น.ส.กาลย์กัลยา ผู้ต้องหาที่ 3 ไม่ได้เดินทางมา อ้างว่ามีอาการป่วยตนจึงไม่แน่ใจว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวจะมีการตรวจสอบมากน้อยแค่ไหน หรือจะเป็นการประวิงเวลาให้เกิดความล่าช้า หรืออาจเข้าข่ายพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่ และจากการตั้งข้อสังเกตุและข้อมูลที่เห็นมา ไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นายเชน และภรรยา ยังมีการจัดงานสังสรรค์อยู่
ด้านนายนริศ ผู้บริหาร บริษัท ไทยยินตันฯ กล่าวว่า หลังทราบวันนี้ครบกำหนดสั่งฟ้องหลังผัดฟ้องมา 5 ครั้งสรุปว่าวันนี้มีเพียงจำเลยที่ 2 ที่เดินทางมาทำให้อัยการสั่งฟ้องได้แค่จำเลยที่ 1 และ 2 คือบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด และนายนายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ แต่ผู้องหาที่ 3 ไม่ได้เดินทางมาด้วยม ซึ่งไม่ทราบว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร และก่อนหน้าจำเลยที่ 2 ได้ระบุว่า ไม่ได้มีโอกาสชี้แจงและมองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับสินค้าและสัญญาซื้อขายไม่ตรงกัน
นายนริศ บอกว่า เรื่องดังกล่าวจำเลยที่ 2 ได้ฟ้องตนในคดีแพ่งมาแล้ว ซึ่งได้พิสูจน์ในศาลชั้นต้นของแพ่งไปแล้ว และบริษัทไทยยินตันฯ ของตนก็ชนะ และศาลก็ยกฟ้องซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า เรื่องคุณภาพสินค้า สี และรายละเอียดต่างๆก็ยกฟ้องไปทั้งหมด มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว นอกจากนี้ตนมองว่า อยากให้จำเลยที่ 2 ออกมาชี้แจงพร้อมกับตน และพร้อมที่จะชี้แจงร่วมกันตนจะดีใจด้วยซ้ำ หากเขาพร้อมที่จะออกมาชี้แจงร่วมกัน
ส่วนปัจจุบันจำเลยที่ 2 มีการลด บทบาทการขายสินค้าผ่านหน้าจอโทรทัศน์แล้วไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ นายนริศ มองว่า ตนยินดีหากเขาตั้งใจขายเพื่อที่จะนำเงินมาชำระหนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และพร้อมเป็นกำลังใจให้แต่เท่าที่ทราบ เมื่อเขาขายสินค้าได้แต่ไม่ได้เอาเงินมาชำระเจ้หนี้แต่ดันเอาเงินออกจากบริษัทแทน จึงเป็นประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะเอาเงินออกไปใช้ส่วนตัวหรือเป็นการถ่ายเททรัพย์สิน เรื่องนี้อาจเป็นที่มาของการปรึกษาทนายดำเนินคดีอีก 1 คดี และจากที่ทราบการเอาเงินออกเป็นช่วงตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง ระหว่างเกิดเรื่อง และหลังเกิดเรื่อง จำนวนรวมๆกันกว่า หลักร้อยล้านบาท
ขณะที่มีรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดพบว่าครอบครัวของนายธนาตรัยฉัตร ล่าสุดได้ซื้อรถยนต์หรู ยี่ห้อ TOYOTA LEXUS LM300 Hราคาประมาณ 5-6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้ว อนุญาตปล่อยชั่วคราวนายธนาตรัยฉัตร โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท
ต่อมานายธนาตรัยฉัตรได้หลบผู้สื่อข่าวออกทางประตูหลังศาลขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาว กลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี