ตม.สระแก้วสกัดจับหนุ่มเขมรกับหนุ่มไทยลอบข้ามแดนช่องธรรมชาติเสียค่าหัว 1,500 บาท
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.67 พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ชุดปฏิบัติการที่2 (ชป.2) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึกฯ และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201ชค.ทพ.12 สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณ เฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดน ด้านทิศเหนือตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมตามนโยบายสกัดเข้มการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายของ ผบช.สตม.
ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบชายไม่ทราบสัญชาติขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงินขาว ทะเบียน นครสวรรค์ ออกมาจากริมตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติ ด้านทิศเหนือตลาดโรงเกลือ พื้นที่ชายแดนบ้านดงงู ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ บริเวณกระบะพ่วงข้างบรรทุกผู้โดยสารเป็นชายมาด้วย 2 คน ขับขี่มาตามเส้นทางธรรมชาติมุ่งหน้าจะข้ามถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดน จนท.จึงนำกำลังเข้าสกัดกั้นและควบคุมตัวไว้ได้ทั้ง 3 คน พร้อมรถ จยย.พ่วงข้าง เป็นชาวกัมพูชา 2 คน คนไทย 1 คน ประกอบด้วยนายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาวกัมพูชา ผู้ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้าง, นายบอย อุ๊ด อายุ 34ปี ชาวกัมพูชา และนายอภิรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปีคนไทยเป็นชาว จ.เชียงใหม่
ตรวจสอบนายบอย อุ๊ด ชาวกัมพูชา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย รับสารภาพว่าลักลอบเข้าไทยเพื่อมาหางานทำ ส่วนนายอภิรักษ์ รับว่าทำงานเป็นพนักงานออนไลน์ในบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา กำลังจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.เชียงใหม่ โดยว่าจ้างชาวกัมพูชาพาข้ามแดนช่องธรรมชาติโดยเสียเงินให้แก๊งนำพาชาวเขมรไป 1,500 บาท ส่วนนายก้อง ผู้ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้าง ชาวกัมพูชา รับว่าได้นำรถ จยย.พ่วงข้างของเพื่อนมารับคนไทยและคนเขมรที่ลอบข้ามแดนเพื่อไปส่งที่ บขส.อรัญประเทศ ที่ตลาดอินจีน ตรงข้ามตลาดโรงเกลือฯโดยคิดค่าจ้างคนละ 200 บาท จนท.จึงควบคุมตัวทั้งหมด มาดำเนินคดีที่อาคารที่พักรอการส่งกลับที่ทำการ ตม.จว.สระแก้ว
โดยแจ้งข้อหานายบอย อุ๊ด “เป็นบุคคลต่างด้าว(กัมพูชา)เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนนายอภิรักษ์ฯซึ่งเป็นคนไทยถูกแจ้งข้อหาไม่เข้า ออกตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และนายก้อง ชาวกัมพูชา ผู้ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้าง ซึ่งยังเป็นเยาวชนอายุเพียง17ปี จนท.จึงได้ดำเนินการผลักดันกลับประเทศ ตามข้อตกลง(MOU) สระแก้ว-บันเตียเมียนเจย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี