‘ตำรวจสอบสวนกลาง’เปิดปฏิบัติการ‘ฉลามไล่ล่า’ขบวนการขนต่างด้าว พบ 32 ราย ลำเลียงเป็นขบวน 3 คันรถ

19 ธันวาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. , พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. (นครสวรรค์) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. , เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. (สิงห์บุรี) นำโดย พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. , เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 , เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.(สระบุรี) นำโดย พ.ต.ท.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.ส.ทล.2 กก.1 , เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. (ลพบุรี) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.พิฆเนศ เตรียมเกิดทรัพย์ สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ทำการจับกุม 1. Mr.SAI อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 1 (ผู้ขับขี่)  2. นายสมพร อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 (ผู้ขับขี่) และผู้ต้องหาที่ 3-32 บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา

ทั้งนี้ กล่าวหาว่า ผู้ถูกจับที่ 1 และ 2 “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ผู้ถูกจับที่ 3 - 32 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่บริเวณแยกพยุหะคีรี กม.314 ถนนพหลโยธิน ทล.1 (ขาเข้า) ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่กองกำกับการ 1 อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์), ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี), ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(พระนครศรีอยุธยา), ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.(สระบุรี), ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ

จนกระทั่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ถนนพหลโยธิน ทล.1 ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พบรถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง และมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ติดตามอย่างกระชั้นชิด พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ,  รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO สีเทา และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIGO สีเทา ติดฟิล์มสีดำมืดทึบต้องสงสัยมีพิรุธ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์ จำนวน 3 คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึงบริเวณแยกพยุหะคีรี กม.314 ถนนพหลโยธิน ทล.1 (ขาเข้า) ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว พบ Mr.SAI แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา โดยพบมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์ นายสมพร แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO สีเทา โดยพบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 10 คน โดยสารมากับรถยนต์ และพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น VIGO สีเทา ซึ่งผู้ขับขี่ได้ขับขี่หลบหนีเข้ามาข้างทางบริเวณ กม.312-333 ถนนพหลโยธิน ทล.1 (ขาเข้า) ต.พยุหะ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ถูกจับกุมพร้อมรถยนต์ทั้ง 3 คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ พบว่า ผู้ถูกจับที่ 3-32 เป็นคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา   ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1-2 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 20 คน ที่บริเวณ พื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.สิงห์บุรี โดยได้ค่าจ้าง 7,000-10,000 บาท ต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ ในส่วนของเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ

ทั้งนี้จากการสอบถามบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับ ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยโดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 - 25,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป