จังหวัดระยองลุยปราบปรามยาเสพติดต่อเนื่อง ผู้ว่าฯระยองเผยพอใจผลการกวาดล้างยาเสพติด เร่งขยายผลจากนักค้ายารายย่อยจับเครือข่ายรายใหญ่ หลังพบชอบซุกอยู่ตามรอยต่อจังหวัด
วันที่ 19 ธ.ค.67 นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายกำธร เวหน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม ปลัดจังหวัดระยอง ชุดเฉพาะกิจปกครองจังหวัดระยอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายความมั่นคงจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมนายชิดณรงค์ หรือเอ๋ อายุ 29 ปี ชาวหนองคายนายอารันต์ หรือเต้ย อายุ 45 ปี ชาวชลบุรี นายนะที หรือเป้ย อายุ 43 ปี ชาวสระแก้ว พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 77 เม็ด อาวุธปืน ปากกา 1 กระบอก
สืบเนื่องจากว่ามีการมั่วสุมลักลอบค้าและเสพยาเสพติด สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่หาข่าวจนสืบทราบจากสายลับว่าที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง มักจะมีกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพมามั่วสุมเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเฝ้าซุ่มดูจนเห็นมามีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องเช่าท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว ชายคนดังกล่าวมีท่าทีตกใจพยายามจะวิ่งกลับเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมไว้ได้ทราบชื่อคือนายชิดณรงค์ หรือเอ๋ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบภายในห้องเช่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจึงพบนายอารันต์ หรือเต้ย และนายนะที หรือเป้ย กำลังนั่งล้อมวงมั่วสุมเสพยาเสพติด และพบของกลางยาเสพติดดังกล่าวพร้อมอาวุธปืนปากกาซุกซ่อนอยู่ในห้องเช่า ทั้ง 3 รับสารภาพว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเองมีไว้เพื่อเสพเท่านั้น ส่วนอาวุธปืนเป็นของนายชิดณรงค์ หรือเอ๋
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลจับกุมนายพิทักษ์ หรือมาด ได้พร้อมของกลางยาบ้า 66 เม็ดได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง นายพิทักษ์ หรือมาด รับสารภาพว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเองรับมาจากนายเบ็นซ์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายชิดณรงค์ หรือเอ๋ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษ ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดนไม่ได้รับอนุญาตและมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน (ปืนเถื่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นายอารันต์ หรือเต้ย และนายนะที หรือเป้ย ในข้อหามียาเสพติดให้โทษ ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายนายพิทักษ์ หรือมาด ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวทั้งสี่คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.มาบตาพุดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่าโดยความร่วมมือของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง สำนักงาน ปปส.ภาค 2 ได้ร่วมกันดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วง 2 ปีเศษที่ตนดำรงตำแหน่งผู้ว่ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ทาง ป.ป.ส.ภาค 2 ได้กำหนดให้ จ.ระยอง นำร่องในภาคตะวันออก ซึ่งก็ได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ กำหนดมาตรการคือ 1.สืบสวน สอบสวน จับกุมและตรวจค้นอย่างเข้มข้น 2.ปูพรมตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะในกลุ่มเสี่ยงทุกรูปแบบ และให้สาธารณสุขจังหวัดหาสถานที่รองรับผู้ป่วยจิตเวชจากการเสพสารเสพติดเพื่อให้กลับตัวเป็นคนดี และ 3.ให้แรงงานจังหวัด ไปหามาตรการรองรับบุคคลที่เสพผ่านการบำบัดแล้วพร้อมกลับคืนสู่สังคม เข้าทำงาน
นายไตรภพ เปิดเผยต่อว่า ในการปราบปรามยาเสพติด ทุกภาคส่วนของ จ.ระยอง จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการประเมินข้อมูลเบื้องต้นภายใน 3 เดือน แต่ในพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดให้ยาเสพติดเป็นศูนย์ โดยเฉพาะ ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ตั้งเป้าให้เป็นศูนย์ภายใน 6 เดือน ส่วนการปราบปรามที่ผ่านมา ถือว่าพอใจในระดับหนึ่งเนื่องจากทุกวันนี้ยิ่งจับยิ่งเจอ สถิติการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา จับได้เพียงรายย่อย และจับรายวัน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปขยายผลต่อเพื่อหาเครือข่ายรายใหญ่ โดยกดดันให้หนักขึ้น ซึ่งข้อมูลพบว่าผู้ค้ารายใหญ่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ตามเขตพื้นที่รอยต่อของจ.ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี