‘นายกสมาคมฯ’นำชาวไร่มันสำปะหลัง‘ไทรโยค-ทองผาภูมิ’ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน‘ผู้ว่าฯกาญจนบุรี’ จี้เร่งแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ ขีดเส้น 26 ธ.ค.ไร้คำตอบ เตรียมบุกสภาฯพร้อมกันทั่วประเทศ
20 ธันวาคม 2567 ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายรังษี ไผ่สะอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อ.ไทรโยค และ อ.ทองผาภูมิ กว่า 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาเจรจาพบปะพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกร ซึ่งได้นำมันสำปะหลังมาด้วย 1 รถบรรทุก 6 ล้อ โดยไม่มีการประท้วงหรือเทมันสำปะหลังเพื่อกดดันแต่อย่างใด แต่ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่าจะต้องรู้ผลภายในวันที่ 26 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ หากไม่เช่นนั้นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศจะพร้อมใจกันเดินทางไปกดดันรัฐบาลที่รัฐสภา
ว่าที่ร.ต.ศุภมงคล ได้รับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแล้ว จะได้รีบประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วต่อไป ซึ่งกลุ่มเกษตรกรรู้สึกพอใจ จึงแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน
สำหรับหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าว ระบุว่า เนื่องด้วยในขณะนี้ถึงฤดูกาลขุดมันสำปะหลังส่วนใหญ่ของประเทศเข้าโรงงาน แต่ราคาหัวมันสำปะหลังทุกจังหวัดทั่วประเทศตกต่ำอย่างมากๆ ราคาลดลงทุกวัน โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี ราคาเหลือเพียง กิโลกรัมละ 1 บาทเท่านั้น และลานรับซื้อหัวมันสำปะหลังส่วนมากปิดการับซื้อ สาเหตุมาจาก
1.ลานตากมันเส้น ไม่มีที่ขายมันเส้น เพราะโรงงานผลิตเอทานอลในประเทศไม่รับซื้อ เนื่องจากแผนนโยบายกระทรวงพลังงาน (Oil plan 2024) ไม่ส่งเสริมน้ำมัน E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานต่อไป ทำให้การใช้มันสำปะหลังลดลง
2.ตลาดมัน เส้นส่งออกต่างประเทศลดลงและถูกกดราคาต่ำมากๆเกินไป
3.ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทยได้มีการขายตัด ราคาต่ำกันเองเพื่อแย่งลูกค้ากัน แล้วมากดราคารับซื้อหัวมันสดในราคาถูกจนทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศเดือดร้อน และประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนักเพราะต้นทุนการผลิตหัวมันสำปะหลัง อยู่ที่ กิโลกรัมละ 2.50 บาท จะส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือนของเกษตรกรลดลง หนี้ครัวเรือนมากขึ้น และ จะทำให้เกษตรกรต้องเลิกปลูกมันสำปะหลัง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งระบบ อย่างแน่นอน กระทบต่อการส่งออกแป้งมัน และมันเส้น ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ผม นายรังษี ไผ่สะอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ฐานะตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูก มันสำปะหลังจังหวัดกาญจนบุรี ขอเสนอข้อเรียกร้อง 4 ข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ มายังฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล ดังต่อไปนี้
1.ขอให้รัฐบาลประกันราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังหน้าโรงงานที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท (เชื้อแป้ง 25%) ให้ทุกโรงงานทุกจังหวัดรับซื้อในราคาเดียวกัน และหากโรงงานรับซื้อไม่ถึงกิโลกรัมละ 2.50 บาท ให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกร เพื่อไม่ให้เกษตรกรขาดทุน
2.ขอให้รัฐบาลช่วยผลักดัน E20 เป็นนำมันพื้นฐาน และ E85 กลับมาใช้ใหม่ และให้ยกเลิกเบนซิน ออกเทน 91 ทันที เพื่อช่วยให้โรงกลั่นเอทานอลได้ช่วยซื้อมันสำปะหลังมากขึ้น ลดการพึ่งพาตลาด ต่างประเทศ เพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาหัวมันสำปะหลังไม่ให้ตกต่ำ
3.ขอให้รัฐบาลสั่งกระทรวงการคลัง ออกประกาศกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเอทานอลในประเทศ ให้สามารถจำหน่ายสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างเสรี เช่น 1. ใช้ผสมอาหาร 2. ใช้ในการผลิตสารเคมี 3.ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง 4.ใช้ในเภสัชกรรมและสาธารณสุข 5.ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกย่อยสลายได้ 6.ใช้ในอุตสาหกรรมสีและสารเคลือบ 7.ใช้ทำความสะอาด 8.ใช้สกัดสมุนไพรต่างๆ โดยไม่ต้องกำหนดให้ใช้ผสมน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ตามพ.ร.บ.สุรา จะช่วยทำให้การใช้หัวมันสำปะหลังภายในประเทศมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาตลาดมันเส้นส่งออกมาก เกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังในประเทศตกต่ำ
4.ขอให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อควบคุมผู้ค้าขาย แป้งมัน และมันเส้นส่งออก ไปยังต่างประเทศ ไม่ให้ขายตัดราคากันเองในราคาถูกๆ แล้วมากดราคารับซื้อหัวมันสด ในราคาถูกมากเกินไป จึงส่งผลกระทบต่อราคามันสำปะหลังตกต่ำมากๆ
ชาวไร่มันสำปะหลังจังหวัดกาญจนบุรี จึงขอยื่นข้อเสนอเรียกร้องการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ราคา หัวมันสำปะหลังตกต่ำ มายังฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาล ขอได้โปรดกรุณาแก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนตามที่ได้เสนอมาทั้งหมดอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อไม่ให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบ ราคาหัวมันสำปะหลังตกต่ำมากเกินกว่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี