“ขวัญ ศุภพานี” อดีตนายก อบจ.นครพนม หัวหน้าทีมนครพนมร่วมใจ เชิญ กกต.และ ป.ป.ช.บรรยายพิเศษให้ความรู้การเลือกตั้ง อบจ.นครพนม
ที่ห้องประชุมโรงแรมบลูโฮเท็ล นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อดีตนายก อบจ.นครพนม) หัวหน้าทีมนครพนมร่วมใจ มีหนังสือเชิญนางสาวพิมล โพนทราย ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดนครพนม (ผอ.กกต.นครพนม) นายธันยพัฒน์ ประมวลวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครพนม (ผอ.ป.ป.ช.นครพนม) และนายสมเกียรติ ศิริตัน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านบริหารบุคคลประจำ อบจ.นครพนม ร่วมบรรยายพิเศษให้ความรู้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และ นายก อบจ.นครพนม ที่หมดวาระไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ที่จะสมัครเป็น ส.อบจ. และผู้บริหารท้องถิ่น รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทีมนครพนมร่วมใจ ได้รับทราบและถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สุจริต เที่ยงธรรม เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติต่างๆของ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง รวมถึงวิธีปฏิบัติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ ถือว่าทีมนครพนมร่วมใจ เป็นทีมเดียวที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งเป็นอย่างมาก
โดยนายสมเกียรติ ศิริตัน ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการกรอกใบสมัคร ซึ่งหากลงรายละเอียดในช่องต่างๆผิดพลาด อาจกลายเป็นโมฆะ ส่วน ผอ.ป.ป.ช.นครพนม ได้มอบหมายให้นางสาวกนกดวงดาว บุญเนตร เจ้าพนักงานตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินชำนาญการพิเศษ แจ้งให้ ส.อบจ.ฯ รวมถึงนายก อบจ.นครพนม ที่เพิ่งหมดวาระหมาดๆ แจงบัญชีทรัพย์สินให้ครบถ้วนภายใน 60 วัน ทางด้าน นางสาวพิมล โพนทราย ผอ.กกต.นครพนม เน้นย้ำเรื่องการหาเสียง และ ลักษณะต้องห้าม รวมเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง
หลังจากนั้น น้องขวัญ-นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนม ได้เปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนมทั้ง 12 อำเภอ 30 เขตเลือกตั้ง และผู้ช่วยหาเสียง ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าพร้อมรับสมัครลงแข่งขันนายก อบจ.นครพนม และไม่รู้สึกหนักใจอะไร วันนี้ตนและสมาชิกพร้อมอย่างเต็มที่
ส่วนนโยบายในการหาเสียง น้องขวัญได้แจงในแต่ละโครงการออกมาเป็นฉากๆ โดยไม่ต้องใช้สคริปท์ หรือแท็บเล็ตแต่อย่างใด บ่งบอกว่าเป็นคนทำงานจริงๆ เรียกว่าด้นสดไม่ต้องมีใครคอยกระซิบบอกบท โดยนโยบายการพัฒนา จ.นครพนม น้องขวัญพูดอย่างฉะฉานอันดับแรกคือพี่น้องประชาชน ส่วนใหญ่ทีมนครพนมร่วมใจ รับทราบปัญหาและแนวทางการพัฒนา รวมถึงการแก้ไขอยู่แล้ว จะเป็นการทำงานแบบต่อเนื่อง ปัญหาหลักๆของชาว จ.นครพนม มีทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน วัยกลางคน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง จึงมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งการแก้ปัญหาบางอย่างได้ 100 เปอร์เซ็นต์ บางอย่าง 80 เปอร์เซ็นต์ บางอย่างนำร่องได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ในครั้งนี้เราอยากสานงานต่อ และเพิ่มงานในส่วนที่เป็นปัญหา เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนมีทุกๆวัน เราต้องมาลำดับความสำคัญ ว่าจะแก้ปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวกันอย่างไร เพราะทีมนครพนมร่วมใจใส่ใจในทุกช่วงวัย
ที่สำคัญเรื่องการใส่ใจพี่น้องประชาชน ทำให้เราได้รับทราบปัญหาโดยแท้จริง พูดง่ายๆว่าเกาถูกที่คัน แก้ได้ตรงจุด วันนี้ทีมนครพนมร่วมใจไม่มีความกังวลอะไรเลย มุ่งมั่นตั้งใจที่อยากจะมาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ซึ่งในหลักการยึดมั่นในการเป็นตัวแทนประชาชนของเรา คือ 1.การลงพื้นที่ทุกหย่อมหญ้า จะเห็นได้ว่าถ้าติดตามโซเชียลของทีมนครพนมร่วมใจ จะเห็นว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ทำงานกันทุกวัน ไปทุกที่ที่มีประชาชน มีปัญหาเราแก้ไขตั้งแต่ระดับอำเภอจนถึงระดับจังหวัด ถ้าเกินศักยภาพก็จะประสานไประดับประเทศ
“ยกตัวอย่างในปัญหาของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนหนทาง ส่วนไหนที่เกินศักยภาพระดับจังหวัด เราก็ MOU กับทางหลวงชนบท ซึ่งที่ผ่านมาเราก็เพิ่งได้งบประมาณในถนน อบจ.นครพนม 25 ล้านกว่าบาท อยู่ที่ถนนส้างพระอินทร์ ซึ่งเราเกินศักยภาพไปตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ ไม่เพียงแค่ถนนชนบทที่มาทำถนน อบจ.ฯเท่านั้น เรายังมีการประสานงาน โดยข้าราชการ อบจ.ฯ และผ่านไปยังจังหวัด และก็ BCO เขต เพื่อคว้างบประมาณในงบเศรษฐกิจฐานรากให้กับ จ.นครพนมหลายร้อยล้าน ส่วนนี้ที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้งบประมาณเพิ่มเติม ในส่วนที่เราได้ทำงานของ อบจ.นครพนม ฯ”
เช่นเดียวกับภาคการเกษตร เราเองก็มีการเริ่มต้นจากท้องถิ่นก่อน ซึ่งท้องถิ่นทำได้ดีแล้ว เราก็ปล่อยให้ท้องถิ่นทำ เกินศักยภาพท้องถิ่นมาระดับอำเภอ อำเภอเองก็เกินศักยภาพก็มาที่จังหวัด เราเองก็มีงบประมาณ ในส่วนของด้านภาคการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำที่เราได้จัดทำกับพี่น้องประชาชนที่ผ่านมา ใช้งบประมาณ อบจ.ฯเพียงน้อยนิด ที่เหลือเราก็พาร์ทต่อไปที่การเกินศักยภาพไประดับประเทศ ซึ่งเราได้รับงบประมาณจาก สทนช.มาให้พี่น้องประชาชน หลายร้อยล้านเช่นเดียวกัน
“ยืนยัน 94 สายทาง ดิฉันตรวจเองทุกสายทาง และลงแผนงานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ว่าเรามีงบประมาณมากน้อยแค่ไหน ก็จัดตามความจำเป็น ดังนั้นแนวการทำงานเราเริ่มต้นจากความใส่ใจ และก็การรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน แก้ปัญหาในตามขั้นตอนที่ได้กล่าวเมื่อสักครู่ หลังจากนั้นเราก็มาผลึกกำลังในทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาให้เป็นภาพกว้างต่อไปในอนาคต”
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว เราใช้วิธีการร่วมมือกับเทศบาล จังหวัด และก็ ททท.ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว โดยงบประมาณในส่วน อบจ.นครพนม ที่ผ่านมาไปร่วมกัน ไม่ใช่การตั้งเวทีแข่งกัน จะเห็นว่าการจัดงานแต่ละครั้ง ในภาพรวมทุกภาคีเครือข่าย เราทำได้อย่างยิ่งใหญ่มาก หลายๆงานที่เราจัดทำ ไม่ว่าจะเป็นงานพระธาตุพนม โดยเฉพาะพญาศรีสัตตนาคราช ที่ร่วมมือกัน และก็งานปีใหม่ ซึ่งทุกปีที่ผ่านมา อบจ.นครพนม ก็ร่วมกับเทศบาล เราจะไม่ตั้งเวทีแข่งกัน แต่เราร่วมมือกัน ในอนาคตแผนงานในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เราก็ต้องขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งเราทำไปแล้ว 500 กว่าล้าน
การท่องเที่ยว เราจะสัญจรคล้ายๆ อบจ.สัญจร แต่เราจะมีหมอพบประชาชนในเวลา 06-07.00 น. ในแต่ละอำเภอ สายๆ เราจะนำเยาวชน ประชาชน อสม. ในการขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยว หมายความว่าถ้าเป็นสัปดาห์ที่หนึ่งของเดือน เราไป อ.ท่าอุเทน ทุกๆอำเภอก็จะมารวมกันที่ อ.ท่าอุเทน ในกิจกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นตะกร้อลีก มวยลีก วอลเล่ย์บอลลีก และ ฟุตบอลลีก ฟุตบอลอาวุโสลีก ก็อยู่ในช่วงภาคเช้า และจะแข่งขันไปตลอดทั้งวัน บ่ายมาเราไป อบจ.สัญจรให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาในอำเภอนั้นๆ ช่วงเย็นก็จะเป็นมวยรอบ อบจ.นครพนม รวมถึงกิจกรรมของแต่ละอำเภอ นั่นหมายความว่าเราจะเอาคนนครพนมทุกอำเภอ นำการท่องเที่ยวในอำเภอนั้นๆเดือนละ 1 ครั้ง ฯลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี