สคริปท์ไม่ต้อง แท็บเล็ตไม่มี 'ขวัญ ศุภพานี' แจงผลงานฉะฉาน พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง อบจ.นครพนม
นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ อดีตนายก อบจ.นครพนม ในฐานะหัวหน้าทีมนครพนมร่วมใจ ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง จึงเชิญ กกต. และ ป.ป.ช. รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย บรรยายให้ความรู้กับสมาชิกได้รับทราบระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในการเลือกตั้งท้องถิ่น และถือปฏิบัติอย่างถูกต้อง สุจริต และ เที่ยงธรรม ที่ห้องประชุมโรงแรมบลู เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นน้องขวัญ ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 12 อำเภอ รวม 30 เขตเลือกตั้ง โดยกล่าวถึงนโยบายและแนวทางการหาเสียง ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการแก้ปัญหาและพัฒนา พร้อมแจงผลงาน 4 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม โดยไม่มีสคริปท์หรือแท็บเล็ต แสดงว่าช่วงเป็นนายก อบจ.นครพนม เป็นคนทำงานจริง ลงพื้นที่จริง จึงรู้และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนกระจ่างแจ้ง โดยนำปัญหาเรียงลำดับความสำคัญเป็นข้อๆ พร้อมแผนการแก้ปัญหาเป็นระยะสั้น กลาง ยาว อย่างเป็นระบบ
อดีตนายก อบจ.นครพนม เปิดเผยว่าปัญหาหลักๆของชาว จ.นครพนม มีทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน วัยกลางคน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ทั้งการแก้ปัญหาก็แตกต่างกัน โดยทราบปัญหาได้อย่างลึกซึ้ง เพราะตนลงทุกพื้นที่ที่มีประชาชน และทำงานทุกวัน ที่สำคัญสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนหน้านี้น้องขวัญ ได้กล่าวถึงการสร้างถนน จำนวน 94 สายทาง ลงตรวจงานด้วยตนเองทุกสายทาง โดยงบประมาณส่วนหนึ่ง เกิดจากการทำ MOU ร่วมกับทางหลวงชนบท ทั้งนี้การทำงานของทีมนครพนมร่วมใจ จะทำคู่ขนานกับท้องถิ่น ทั้งด้านการเกษตร การท่องเที่ยว ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ทั้งนี้ การทำงานตลอด 4 ปีของนางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ ในตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม มีมากมายก่ายกองหลายหน้ากระดาษเปเปอร์ จึงมีภาคต่อนำมาเปิดเผยต่อพี่น้องประชาชน โดยน้องขวัญกล่าวว่า สืบเนื่องจากการมี อบจ.สัญจรทั้ง 99 ตำบล ซึ่งทีมท่านสมาชิกที่เป็นรอบที่ผ่านมา ก็ได้ลงสัญจรด้วยกันทั้ง 99 ตำบล เพื่อรับฟังปัญหา และแนวทางการพัฒนา จ.นครพนม ซึ่งในการขับเคลื่อนเรายึดมั่นเสมอว่า พี่น้องประชาชนคือคนสำคัญที่สุด เพราะเขาเป็นเจ้าของเงิน เจ้าของภาษีของทางราชการ และเราเองเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ไม่ว่า ส.อบจ. หรือตัวนายก อบจ.นครพนม ที่จะสมัครในรอบนี้ ที่ประชาชนเขาให้ความไว้วางใจ วันที่ 1 กพ.68 ก็จะทราบกันว่าพี่น้องประชาชนเขาให้ความไว้วางใจใคร
ในส่วนของด้านสุขภาพ เราจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเมื่อรอบที่ผ่านมา ก็จะเห็นได้ว่า อบจ.นครพนม มีกายอุปกรณ์ 14 รายการ ให้พี่น้องประชาชนยืม อยู่ที่สำนักงาน อบจ.นครพนม มีทั้งศูนย์ยืมและศูนย์ซ่อม แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือแพทย์ทางไกล “วันนี้เรามี รพ.สต.ของ อบจ.นครพนม จำนวน 15 แห่ง กระจายไป 10 อำเภอ เป็นการรับถ่ายโอน รพ.สพ.บางส่วนมาที่ อบจ.นครพนม ถึงตอนนี้ก็พร้อมรับ รพ.สต.ที่เหลือ เพราะทั้ง 15 รพ.สต.เขามีความมั่นใจ ว่า สามารถเป็นพี่เลี้ยงเพื่อนๆที่จะถ่ายโอนมาสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับสองปีที่ผ่านมาเป็นการลองผิดลองถูก วันนี้ 15 รพ.สต.ของ อบจ.นครพนม พร้อมเป็นพี่เลี้ยงและพร้อมรับถ่ายโอน รพ.สต.เพิ่มเติม ทั้งนี้เรื่องของ รพ.สต. เรื่องของหมอ เรื่องของสุขภาพ เป็นเรื่องใหญ่มาก และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความเข้าใจ และศึกษาอย่างถ่องแท้ฯ”
ที่ว้าวที่สุดก็คือ เรามีนำร่องแพทย์ทางไกลของ อบจ.นครพนม ทำไปแล้วตอนนี้ 40 เปอร์เซ็นต์ จะนำร่องที่ รพ.สต.นาบัว ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร ร่วมกับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ตอนนี้งบประมาณมีแล้ว ผ่านข้อบัญญัติสภา อบจ.นครพนม ระบบพร้อมแล้ว เหลือพัสดุเขาก็ดำเนินการต่อ ในภารกิจของราชการก็คือจัดซื้อจัดจ้าง
ที่ รพ.สต.นาบัว ก็จะเป็นจอเล็กๆ ให้พี่น้องประชาชนเดินเข้าไปกดจิ้มพบกับคุณหมอหลังบ้านได้ จริงๆตั้งใจที่จะทำแพทย์ทางไกลหรือเทเลเมดีซีน (Telemedicine) มายาวนาน แต่เพียงแค่ว่าเมื่อระบบสมบูรณ์แล้ว ต้องใช้ง่ายกับคน จ.นครพนม เพิ่งจะสำเร็จไปเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เราเองก็เลยเพิ่งได้เริ่มนำร่อง และเพิ่งถ่ายโอน รพ.สต.มา แล้วลองผิดลองถูกกัน ต่อมาในแผนจะมีชุดระบบนั้น จะมีกระเป๋าแพทย์ด้วย เพื่อให้ อสม. หรือพยาบาลใน รพ.สต.เดินเยี่ยมบ้าน สำหรับผู้ป่วยติดเตียง คนชรา ที่จะเดินทางไปพบแพทย์ลำบาก ก็จะถือกระเป๋าชุดนี้ไป มีอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการใช้งาน สำหรับการตรวจเยี่ยมบ้าน และก็ให้ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยคนชรา ในการคอล(CALL)กับคุณหมอ นี่คือสิ่งที่เราต้องขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต โดยในส่วนแพทย์ทางไกลเดินทางมาได้ซัก 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานเดินมาไกลถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์
ต่อมาเป็นเรื่องของน้ำ ที่เป็นปัญหาอันดับต้นๆ 1 ใน 10 ของ จ.นครพนม ซึ่งสำนักงานสถิติ ฯ ได้สำรวจไว้ว่า 1 ใน 10 อันดับของ จ.นครพนม ปัญหาอันดับ 1 คือ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เราต้องยอมรับว่านครพนม อาชีพหลักๆคือเกษตร ทั้งนี้ จ.นครพนมมีพื้นที่ทั้งหมด 3 ล้านกว่าไร่ เป็นพื้นที่เกษตร 2 ล้านกว่าไร่ และที่สำคัญรายได้หลักของชาวนครพนม ก็คือด้านเกษตร ดังนั้นสิ่งที่เราภาคภูมิใจที่สุด ที่เราได้ทำอันดับที่ 1 คือด้านการเกษตร มีเพียงไม่กี่ อบจ. ที่อาสาเป็นศูนย์น้ำจังหวัด และคว้างบประมาณได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย น้ำคือชีวิต ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แผ่นดินของเราอุดมสมบูรณ์ นี่คือสิ่งสำคัญของศาสตร์พระราชา ที่เคยให้ความรู้กับเกษตรกรมายาวนาน แต่ที่เราภาคภูมิใจก็คือบ่อแรกของ อบจ.นครพนม เรื่องของธนาคารน้ำใต้ดิน
วันนี้ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ของท่านอดีต สจ.อวยพร แสงชา บ้านสีทน อ.ปลาปาก เพราะทำให้เขามีรายได้เพิ่มมากขึ้น จากปีหนึ่งขายข้าวได้ครั้งเดียว ทำนาได้ครั้งเดียว เพราะต้องรอน้ำ ทำนาขายข้าวได้ปีละ 3-5 หมื่นบาท แต่วันนี้เกษตรกรแถวนั้น สามารถมีน้ำและปลูกพืชผักสวนครัวได้ตลอดทั้งปี ปีแรกปลูกโดยที่ไม่มีเป้าหมาย ปลูกเพราะอยากปลูก ปลูกเพราะดีใจที่มีน้ำได้เงิน 2 แสนบาทต่อปี แต่วันนี้ตอบได้ชัดเจนเลย มีบริษัทนำเมล็ดพันธุ์มาลงให้ เนื่องจากว่าเขาเห็นว่ามีน้ำและมีความมั่นใจว่าเกษตรกรปลูกให้เขาได้ตลอดทั้งปี จึงทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมขายข้าวได้ 3 แสนบาทต่อปี นี่คือความภาคภูมิใจของทีมนครพนมร่วมใจ
“เขต อ.ท่าอุเทน ก็เห็นได้ชัดเจนว่าขวัญเองได้ไปไลฟ์สดร่วมกับอดีต สจ.วนิดา เนตรสาย ก็มีรายได้ห้าร้อยพันก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าขี้เกียจหน่อยจะได้ 500 บาท ถ้าขยันหน่อยตื่นเช้าขึ้นมาตัดกล้วยดึงตะไคร้ เอาพืชผักสวนครัวลงไปที่ รพ.ท่าอุเทน คำที่เราพูดนี้คือคำบอกกล่าวจากเกษตรกรตัวจริง ที่เขาได้รับประโยชน์จากที่เขามีน้ำ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ ตอนนี้เหลืออีกนิดเดียว พอเชื่อมโครงข่ายของน้ำแล้ว ซึ่งเราทำมาทั้งหมด 521 โครงการ ถ้าเชื่อมได้เกือบทุกหมู่บ้าน นครพนมมี 1,131 หมู่บ้าน ถ้าเรามีหมู่บ้านอย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 บ่อ จะทำให้เราเชื่อมโครงข่ายของน้ำได้ทั้ง จ.นครพนม”
ถามว่าทำไมเราถึงคิดทำเรื่องนี้ เพราะ 3 ล้านไร่เป็นพื้นที่ จ.นครพนม 2 ล้านกว่าไร่เป็นพื้นที่เกษตร แต่มีระบบชลประทานแค่ 1 แสนกว่าไร่เอง มีพื้นที่แหล่งน้ำทั้ง จ.นครพนม 120,000 แหล่งน้ำ พอเราทราบแล้วว่ามีพื้นที่แหล่งน้ำใน จ.นครพนม 120,000 แหล่งน้ำ เราก็ถามกลับไปที่ประมง ว่า ทำไมน้ำยังไม่พอใช้ ในฤดูแล้งน้ำยังแห้งแล้ง โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองนครพนม ถ้าสื่อมวลชนเห็นว่าชลประทานจะรายงานทุกวันในกลุ่มจังหวัด จะเห็นว่าเป็นจุดสีเหลืองแค่อำเภอเมืองนครพนม คือน้ำมีระดับต่ำ เพราะฉะนั้นนี่คือความใส่ใจของทีมนครพนมร่วมใจ ถ้าเมื่อไหร่เราใส่ใจพี่น้องประชาชนแล้ว ก็จะรู้ปัญหาที่แท้จริงของเขาคืออะไร แต่ถ้าเราใส่ใจตัวเราเอง หรือใส่ใจในตำแหน่งตัวเอง หรือใส่ใจทีมงานมากกว่าพี่น้องประชาชน เราก็จะไม่รู้ว่าปัญหาของเขาคืออะไรโดยแท้จริง ซึ่งอันดับที่ 1ปัญหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ อันดับที่ 5 น้ำด้านการเกษตรไม่เพียงพอ อันดับที่ 7 อุปโภคบริโภคไม่เพียงพอ
ในฐานะชาว จ.นครพนม จะไม่ยอมให้น้ำบาดาลของชาว จ.นครพนม ลึกลงไปหลายร้อยเมตร เหมือนจังหวัดอื่น เราจะเคยเห็นภาษาบ้านเฮาเอิ้นว่าน้ำส้าง โยนคุลงไปดึงขึ้นมาก็มีน้ำ แต่วันนี้ลูกหลานต้องพัฒนาแหล่งน้ำให้ดีสำหรับพี่น้องเกษตรกร วันนี้ต้องใช้รถเจาะบาดาลลึกลงไป 20-30 เมตร ถึงจะมีน้ำมาใช้ บางหมู่บ้านลึกถึง 50 เมตรแล้ว แต่ชาวนครพนมไม่ต้องตกใจเราได้เดินทางเรื่องของน้ำมาไกลแล้วกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเชื่อมโครงข่ายของน้ำได้ ก็จะทำให้เป็นประโยชน์กับชาว จ.นครพนม
ส่วนประเด็นต่อมา เรื่องปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เรามีแหล่งน้ำ 1,002 แห่ง ถามประมงว่า 1,002 แห่งนี่ มีปลาธรรมชาติแล้วสร้างเศรษฐกิจด้านการประมงให้กับพี่น้องประชาชนมากเท่าไหร่ ประมงบอกมี 2 ล้าน 4 แสนกิโลกรัม คือมีปลาธรรมชาติ 1 ล้าน 4 แสนกิโลกรัม เราลองคิดเล่นๆเอา 2 ล้าน 4 แสนกิโลกรัมคูณด้วย 50 บาท เงินจะสะพัดด้านการประมงอยู่ที่ 124 ล้านบาท จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราถึงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้พี่น้องชาวประมง ถ้าเราเติมคุณค่าทางอาหาร หรือเราเติมสัตว์น้ำให้กับแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายความว่าชาวประมงจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราจึงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 4,700,000 ตัว ใน 40 แหล่งน้ำให้กับพี่น้องชาว จ.นครพนม หลังจากนั้นเราไม่ได้นิ่งดูดายได้ MOU กับประมงแล้ว ให้ลงมาสอนท่านสมาชิกที่ผ่านมาทั้งหมด เพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้เป็น ซึ่งศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำอยู่ที่ อบจ.นครพนม และยังไลฟ์สดให้ประชาชนได้ทราบด้วย เพาะ 3 วันได้ปลา 4 แสนตัว
หลังจากได้ความรู้จากประมงแล้ว เรานำทีมลงไปให้ความรู้ลูกๆเยาวชนโรงเรียนบ้านโพนบก อ.โพนสวรรค์ พร้อมกับผู้ปกครองให้เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ 3 วันให้ได้ปลา 4 แสนตัว 2 แสนตัวเราเอาลงที่บ่อน้ำโรงเรียน อีก 2 แสนตัวเอาไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยให้พี่น้องไปปล่อยเอง ถ้าประชาชนเพาะพันธุ์สัตว์น้ำเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ ใช้เงินไม่ถึง 200 บาท ท่านลองคิดดูว่าความอุดมสมบูรณ์ในแหล่งน้ำ จ.นครพนม มีมากแค่ไหน ปล่อยทีละแสนสองแสนตัวด้วยเงินไม่กี่ร้อย นี่คือสิ่งที่เราคิดและอยากทำต่อ
“ทั้งหมดที่ขวัญพูดมาทำแล้ว และอยากจะทำต่อไปในอนาคตให้กับพี่น้องชาว จ.นครพนม สำหรับวันนี้ทีมนครพนมร่วมใจ ยืนยันว่ามีความพร้อมและมีความสุขกับการเตรียมตัวหาเสียง มีความสุขกับการอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอชาว จ.นครพนมได้เมตตาทีมนครพนมร่วมใจ ให้เรามีโอกาสได้ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนต่อ เราทำงานด้วยหัวใจ ทำงานทุกเวลาทุกนาที เป็นประโยชน์กับชาว จ.นครพนม และยืนยันว่าเราจะทำงานเต็มกำลังความสามารถให้กับพี่น้องประชาชนชาว จ.นครพนม ขอบคุณคะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี