เข้ม‘เมาไม่ขับ’
รบ.มุ่งลดอุบัติเหตุ
ช่วงเทศกาลปีใหม่
ทำผิดซ้ำเพิ่มโทษ
ผบ.ตร.สั่งการกวาดล้างอาชญากรรมก่อนคริสต์มาส-ปีใหม่ พร้อมลุยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ 21 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568 รวมถึงเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่รบ.ตีปี๊บ“ดื่มไม่ขับ-กลับบ้านปลอดภัย” บังคับใช้กฎหมายเข้มใน 10 ข้อหา เน้นหนักเมาแล้วขับ ชี้คนทำผิดซ้ำเจอโทษหนักขึ้น-ยึดใบขับขี่ ส่วนเด็ก-เยาวชน ถ้าทำผิดขยายผลฟันร้านขายเหล้าด้วย
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวว่า เนื่องจากมีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและพักผ่อนในแต่ละภูมิภาค ดังนั้น เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2568 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงออกมาตรการเข้มงวดและกำชับหน่วยต่างๆ ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยสั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันคริสต์มาสและวันหยุดยาวปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 17-23 ธันวาคม ทั้งความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป เช่น การพนัน ยาเสพติด อาวุธปืน และความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งตรวจสอบติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับค้างเก่า กวดขันเพิ่มวงรอบตรวจตราแหล่งมั่วสุม สวนสาธารณะ สถานบริการ สถานบันเทิง สถานีขนส่ง โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ป้องกันการทำผิดกฎหมายทุกประเภท รวมทั้งการโจรกรรมลักทรัพย์ในเคหสถานของประชาชน
ผบ.ตร.สั่งเข้ม10ข้อหาหลักลดอุบัติเหตุ
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ให้ดำเนินการ“โครงการร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” รับฝากบ้านประชาชนระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 สำหรับมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ตั้ง“ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568” ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และระดับกองบัญชาการ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมถึงวันที่ 9 มกราคม 2568 และให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ กรณีเกิดอุบัติเหตุให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทุกราย ตรวจสอบประวัติการทำผิดซ้ำ หากผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุราและให้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ถ้าประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือพบเบาะแสอาชญากรรม ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย แจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 และหากพบอุบัติเหตุ ขอความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางในกรุงเทพมหานคร โทรสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร1197 เส้นทางหลวงทั่วประเทศ โทรสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง
บช.น.ลุยตรวจสถานบันเทิงรับปีใหม่
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.ดูแลงานยาเสพติด ประสานนายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร นำกำลังเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.1 สน.ชนะสงคราม บก.สส.บช.น. กก.ดส บก.สปพ. กก.สส.บก.น.6 ป.ป.ส.กทม. ศอ.ปส.กทม. ปิดล้อมตรวจค้นสถานบันเทิงถนนข้าวสาร ร้านท่าช้าง ณ บางกอก ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ผู้มาใช้บริการร้านท่าช้าง ณ บางกอก 282 คน ได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลปรากฏพบ สารเสพติดเคตามีนในปัสสาวะ 1 คน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
วันเดียวกัน พล.ต.ท.สยามสั่งการสน.ในสังกัด ออกตรวจสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการนำยาเสพติดเข้าไปเสพ หรือจำหน่าย ในสถานบริการ ดังนี้ สน.ทองหล่อ นำกำลังเข้าตรวจค้นร้าน RIO ซ.คาวบอย สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ตรวจพนักงาน และแขกที่มาเที่ยวในร้าน รวม 16 ราย เข้าตรวจค้นร้าน มิดไนท์ ซ.คาวบอย สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ตรวจพนักงาน และแขกที่มาเที่ยวในร้าน รวม 16 ราย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด สน.พญาไท เข้าตรวจค้นร้าน spicy ซ.เพชรบุรี 15 ถ.เพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม. ตรวจพนักงาน นักท่องเที่ยวรวม 23 ราย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจล็อกเกอร์ 20 ตู้ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สน.สมเด็จเจ้าพระยา เข้าตรวจค้นร้านเนย์มาร์ , ร้านฟ้าใส, ร้านโซดา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สน.บุปผาราม เข้าตรวจค้นร้านครัว เรือนมะลิ ไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย และสน.โคกคราม เข้าตรวจค้นร้าน the trap เลขที่ 27 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการและนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแก้ปัญหาอาชญากรรม ผบ.ตร. สั่งการตำรวจทั่วประเทศ กำชับป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม เทศกาลคริสต์มาส – ปีใหม่ 2568 ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุมนักค้ายาเสพติด และตรวจสารเสพติดในสถานบริการทุกพื้นที่ รวมถึงกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ให้ความปลอดภัย ให้บริการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป
รบ.ตีปี๊บ“ดื่มไม่ขับ-กลับบ้านปลอดภัย”
ด้านน.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ซึ่งจากสถิติตัวเลขความสูญเสียในเทศกาลปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง พบว่า ปี 2565 เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง บาดเจ็บ 2,672 คน เสียชีวิต 333 ราย ปี 2566 เกิดอุบัติเหตุ 2,440 คน บาดเจ็บ 2,437 คน เสียชีวิต 317ราย ปี 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง บาดเจ็บ รวม 2,307 คน เสียชีวิต รวม 284 ราย สาเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว 40.6% ตัดหน้ากระชั้นชิด 23.31% ดื่มแล้วขับ 14.29% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 87.01% ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี 19.67%
ฮึ่มเมาขับทำผิดซ้ำเจอโทษหนักขึ้น
น.ส.ศศิกานต์กล่าวต่อว่า รัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแผนปฏิบัติงานเทศกาลปีใหม่ 2568 คุมเข้มระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568 บังคับใช้กฎหมาย เน้น 10 ข้อหา เน้นหนักเรื่องการดื่มแล้วขับ ซึ่งในปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา จับกุมข้อหาเมาแล้วขับสูงถึง 20,917 ราย และทำการตรวจสอบประวัติผู้ทำความผิดเกี่ยวกับเมาแล้วขับ ที่ทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งฟ้องต่อศาลให้ได้รับโทษสูงขึ้น สำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กและเยาวชน ได้ใช้มาตรการสืบสวนขยายผลไปยังร้านค้าที่จำหน่ายสุรา โดยมีบัญชีร้านค้าเสี่ยงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลย หรือสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนดื่มสุรา ทั้งนี้ บทลงโทษดื่มแล้วขับหากทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 ถึง 20,000 บาท ทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 ถึง 100,000 บาท ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เตรียมรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้น14%จากปี67
ขณะที่นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเทศกาลปีใหม่ 2568 คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก จากรายงานของ วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567-2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน ระบุว่าจะมีเที่ยวบินรวม 18,280 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,611 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 2568 อุตสาหกรรมการบินในประเทศจะฟื้นตัวชัดเจน คาดจะมีเที่ยวบินทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน รองรับการเดินทางของประชาชน ภายใต้แนวคิด I-SMART ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีมาบริหารจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างรวดเร็วปลอดภัย รองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลาดังกล่าว ไม่ให้เที่ยวบินล่าช้า ลดความแออัดของเที่ยวบิน รวมถึงดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง ซึ่งจะจัดระยะห่างของอากาศยานขาเข้าและขาออกให้กระชับตามเกณฑ์มาตรฐาน สัมพันธ์กับค่าการใช้เวลาบนทางวิ่งของอากาศยาน เพื่อสามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้มากที่สุด ใช้ทางวิ่งร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดทางขับที่เหมาะสม เพื่อใช้เวลาบนทางวิ่งน้อยที่สุด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศ ทั้งนี้ การดำเนินดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และท่าอากาศยานดอนเมือง จะเพิ่มเป็น 57-60 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิม 52 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี