สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา

สกัด‘อหิวาต์’ลามเข้าประเทศ

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก 1 เดือน สกัด “อหิวาตกโรค” ระบาดหนักในเมียนมา พบดับแล้ว 2 ป่วยกว่า 300 ป้องกันไม่ให้เข้าไทย พร้อมยกระดับรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของอหิวาตกโรคในพื้นที่เมืองฉ่วยโก๊โก่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามบ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ภายหลังมีผู้ป่วยถูกส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ฉ่วยโก๊โก่ กว่า 300 คน ซึ่งมีอาการรุนแรง 56 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 2 คน และผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย รพ.ฉ่วยโก๊โก่ ได้ประสานขอสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์การแพทย์มายัง รพ.แม่ระมาด ขณะที่ทหารหน่วย เฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และสั่งปิดชายแดน งดการเดินทางผ่านท่าข้ามและช่องทางธรรมชาติ 1 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังประชุมสภากลาโหม ครั้งสุดท้ายประจำปี 2567 ว่าตามที่ปรากฏข่าวการระบาดของโรคอหิวาตกโรค ในประเทศเมียนมา ใกล้ชายแดน จ.ตาก ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชน รวมทั้งตั้งจุดกักกันโรค

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหม กองทัพ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกันทำงานในการดูแลประชาชน ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ มีการปิดกั้นบริเวณชายแดนอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น รวมทั้งมีประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบถึงความอันตรายของอหิวาตกโรค มีการแจกถุงมือและหน้ากากอนามัย เพื่อรักษาความสะอาด และเน้นย้ำเรื่องการรักษาสุขอนามัยในการดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใน 1 เดือนนี้ ได้ประกาศขอความร่วมมือว่าต้องปิดชายแดนชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการระบาดของโรคดังกล่าว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู ) โดยกองร้อยทหารราบที่ 433 (ร้อย.ร.433) ร่วมกับชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน 303 (ชป.กร.303) ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด , ตำรวจ สภ.แม่สอด และ รพ.แม่สอด ได้จัดกำลังลงพื้นที่หมู่บ้านติดแนวชายแดน ได้แก่ พื้นที่ ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก หมู่ 3 บ้านแม่กึ๊ดใหม่ หมู่ 10 บ้านใหม่ริมเมย และ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก หมู่ 4 บ้านห้วยกะโหลก เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบเกี่ยวกับโรคอหิวาตกโรค ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่ บ้านฉ่วยก๊กโก ประเทศเมียนมา รวมถึงแนะนำการป้องกันการติดต่อของโรคดังกล่าว โดยเน้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล การบริโภคน้ำและอาหารที่สะอาด รวมทั้งการสังเกตอาการเบื้องต้น ซึ่งจะสนธิกำลังกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคในชุมชน