ปิดเกมแก๊ง 4 โฟร์รับงานเจ๊น้อยสาวลาวขนยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ดพ่วงไอซ์เกือบ 50 กิโลกรัม ตำรวจสืบแกะรอยบุกรวบ "ไอ้งอ" หัวโจก ขยายผลจับสมุนเพิ่มอีก 3
วันนี้ (24 ธ.ค.67) ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.ภ.จว.นครพนม) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.อ.ศรณณัฐ นวลมณี รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม แถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,018,000 เม็ด และยาไอซ์ 46 ห่อ/กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวบ้านหลักศิลา ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด 1 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ชปส.1 ศอ.ปส. ภ.จว.นครพนม) นำโดย พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ รอง ผกก.ป.สภ.หลักศิลา ช่วยราชการ กก.สส.ภ.จว.นครพนม ได้สืบทราบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คาดน่าจะมีการลักสอบลำเลียงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานไปยังหน่วยงานความมั่นคง เพื่อบูรณาการปฏิบัติการร่วมกัน ร่วมประชุมวางแผนเพื่อติดตามสถานการณ์ข่าวดังกล่าว
กระทั่งเวลาพลบค่ำ กลุ่มผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ เริ่มมีความเคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ต่อมาเวลาดึกสงัดมีรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้ามาในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านหลักศิลา หมู่ 4 ต.พระกลางทุ่ง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตามจุดต่างๆ พบรถยนต์คันดังกล่าวแล่นออกจากริมฝั่งลำน้ำโขง มุ่งหน้าขึ้นสู่ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ติดตาม
จนมาถึงพื้นที่บ้านเหล่าน้อย หมู่ 9 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบรถจอดอยู่บริเวณริมถนนหมายเลขดังกล่าว จึงได้แสดงตัวและขอตรวจสอบ ปรากฏว่าคนขับได้เร่งเครื่องหลบหนี โดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่ ขับซิกแซกไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน
ต่อมาได้ไล่ตามจนพบรถยนต์จอดอยู่บนถนนลูกรัง ริมคลองส่งน้ำชลประทานในพื้นที่ ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แต่ไม่พบตัวคนขับจึงได้ใช้ไฟฉายส่องภายในรถ เบื้องต้นพบกระสอบสีดำหลายกระสอบ คาดว่าของภายในรถคือสิ่งผิดกฎหมาย จึงนำไปตรวจสอบที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนม ได้ทำการตรวจยึดแล้วนำมาเก็บรักษาไว้ที่ กก.สส.ภ.จว.นครพนม มีกระสอบสีดำ 6 กระสอบ ภายในเป็นยาบ้า จำนวน 2,018,000 เม็ด และไอซ์บรรจุในถุงชาจีน จำนวน 46 ถุง น้ำหนักรวม 46 กิโลกรัม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม ได้ขยายผลจากการตรวจยึดครั้งนี้ จนทราบแน่ชัดว่า นายสมพงษ์ หรืองอ (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านหลักศิลา ต.พระกลางทุ่งอ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีประวัติถูกจับในข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่ถึงปี และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง แต่กลับมีเงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จึงไปนำตัวมาสอบสวนพร้อมตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลออกมาเป็นสีม่วง เบื้องต้นตั้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และเค้นสอบอย่างหนัก จนนายสมพงษ์หรืองอ เปิดปากรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในผู้กระทำผิดคดีตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,018,000 เม็ด และไอซ์ 46 กก. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นายสมพงษ์ ให้การว่ามีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 3 คน โดยตัวเองเป็นหัวโจก ในการรับงานจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน คือ นายนพดล หรือโจ้ (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์ อีกสองคนทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นจากริมแม่น้ำโขง โดยใช้รถซาเล้งเป็นพาหนะ คือนายปรีชา หรือเข (สงวนนามสกุล) และนายศรัณยู หรือเดี่ยว (สงวนนามสกุล) ซึ่งทั้งหมดเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงบุกจู่โจมเข้าจับกุม 3 คนในเวลาพร้อมกัน
นายนพดล หรือโจ้ ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์ ยอมรับว่าในคืนวันที่ 11 ธ.ค.เป็นคนขับรถยนต์อีซูซุ รุ่นมิวเอ็กซ์ เพื่อจะลำเลียงไปส่งยังพื้นที่ชั้นใน โดยมีลูกพี่ใหญ่คือนายสมพงษ์หรืองอ เป็นผู้สั่งการทางโทรศัพท์ ส่วนนายปรีชาหรือเข และนายศรัณยูหรือเดี่ยว ทำหน้าที่ขนยาบ้าจากริมแม่น้ำโขงใส่รถซาเล้ง ไปส่งรถยนต์ที่จอดรอรับ ในครั้งนี้นายสมพงษ์หรืองอ รับงานสั่งจากเจ้น้อย ราษฎร สปป.ลาว เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งจะได้รับเงินค่าจ้างหลังทำงานสำเร็จ ซึ่งทีมของตนทำงานสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง
จากการตรวจสอบยาบ้า บรรจุหีบห่อ 2 ยี่ห้อคือตรา TG 999 ถือเป็นยาบ้าเกรดสูงเพราะมีส่วนผสมที่เข้มข้น ส่วนมากขายในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง หรือสาม และตรา Y1 เป็นชนิดเกรดต่ำเพราะใช้ยาฆ่าแมลงเป็นส่วนผสมหลัก ยาบ้าตัวนี้จะขายในกลุ่มวัยรุ่น กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน เพราะมีราคาถูก ส่วนยาไอซ์ราคาอยู่ที่ถุงละ 3-4 แสนบาท คาดจะลักลอบส่งไปยังประเทศที่สาม ราคาก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ทั้งนี้จากการตรวจยึดจับกุมยาเสพติดล็อตนี้ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี