เริ่มแล้ว 10 วันอันตราย ปีใหม่ 2568 ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ”สั่ง 4 ปลอดภัย ดูแลคนกรุง กทม.เข้มมาตรการ ตั้ง 11 จุดบริการประชาชน

กรุงเทพมหานครปฏิบัติการแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศกาลปีใหม่ 2568 ทุกหน่วยพร้อมมาตรการ 10 วันอันตราย ดูแลประชาชนเดินทางท่องเที่ยว งานฉลองปีใหม่ทั่วกรุงเทพฯ รณรงค์ 4 ปลอดภัยปีใหม่นี้ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุบัติเหตุ และอาชญากรรมโดยใช้กล้อง CCTV, ขอความร่วมมือสถานบันเทิงตรวจสอบอุปกรณ์และเตรียมความพร้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน, ตรวจสอบปลั๊กไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก่อนออกเดินทาง, ห้ามจุดพลุ บั้งไฟ ตะไล โคมลอย ก่อนได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขต 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการเฝ้าระวังจากเดิม 7 วันอันตราย เป็น 10 วันอันตราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2567-5 ม.ค. 2568 กทม.ได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2568 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยแบ่งการทำงานแต่ละสำนักที่เกี่ยวข้อง กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ทั้งช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ ช่วงเทศกาลปีใหม่และหลังเทศกาลปีใหม่ โดยบูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ออกประกาศมาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์กรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2568เฝ้าระวังความปลอดภัยชุมชนที่มีความเสี่ยงหรือพื้นที่ล่อแหลมสูง โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ จุดเสี่ยงอาชญากรรม ตรวจสอบตรวจตราสถานประกอบการ สถานบันเทิงที่มีการจัดงานหรือกิจกรรม กำหนดรูปแบบและลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่เส้นทางหรือจุดเข้า-ออกพื้นที่จัดงานอย่างเข้มงวด อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และประสานงานหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมเฝ้าระวังดูแลพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นโดยใช้กล้อง CCTV 2.ขอความร่วมมือสถานประกอบการ สถานบันเทิงผู้จัดงาน และเจ้าของพื้นที่จัดงาน วางแผนบริหารจัดการพื้นที่ แผนงานรองรับความปลอดภัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และการตรวจอาวุธ วัตถุอันตรายก่อนเข้างานและการจำกัดจำนวนคนให้เหมาะสมสภาพพื้นที่จัดงาน ตลอดจนกำหนดเส้นทางเข้า-ออกที่ชัดเจน กรณีเหตุเพลิงไหม้หรือเหตุสาธารณภัยอื่นๆ ให้แจ้งสายด่วน โทร. 199 ได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ประสานงานกับสำนักงานเขตอย่างใกล้ชิด

3.แจ้งเตือนประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัดขอให้ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากพบชำรุดให้แก้ไขทันที ปิดสวิตช์ ดึงปลั๊กเมื่อไม่ใช้งานหรือก่อนออกจากเคหะสถาน กำชับบุตรหลานไม่ให้เล่นไม้ขีดไฟ-ไฟแช็ก และควรเก็บวัสดุที่ติดไฟได้ง่ายให้อยู่ในที่ปลอดภัย อีกทั้งรณรงค์ประชาชน ลด เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้แนวคิด “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งผู้ขับขี่และผู้สัญจรร่วมทาง หากพบผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน แจ้งศูนย์เอราวัณ 1669 4.ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเป็นความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ กทม.ได้เปิดจุดบริการประชาชนจำนวน 11 จุด 1.หน้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก (บางนา-ตราด ขาออก) เขตบางนา 2.สถานีบริการน้ำมัน ปตท. กม.12 ถนนพระราม 2 มุ่งหน้ามหาชัย (ฝั่งขาออก) เขตบางขุนเทียน 3.ถนนบรมราชชนนี (ฝั่งขาออก) ใต้สะพานต่างระดับถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา 4.ถนนสุวินทวงศ์ ใต้สะพานข้ามแยกมหานคร เขตหนองจอก 5.สถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดี (ขาออก) เขตดอนเมือง 6.ถนนเพชรเกษม (ขาออก) หน้าสำนักงานเขตหนองแขม 7.ถนนลาดกระบัง บริเวณหน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง 8.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (ปิ่นเกล้า) เขตบางกอกน้อย 9.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) เขตคลองเตย 10.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) เขตตลิ่งชัน เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งนี้ ทุกหน่วยปฏิบัติการเข้มข้นเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน