ในบทความที่ตีพิมพ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้นำเสนอเกี่ยวกับ ตัวอย่างคำพิพากษาเกี่ยวกับการร่วมกระทำความผิดกรณีที่ศาลรับฟังว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดกับจำเลยอื่นไปแล้ว ในสัปดาห์นี้จะขอยกตัวอย่างเกี่ยวกับกรณีที่ศาลได้พิพากษาว่าไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดกับจำเลยอื่นเพื่อเป็นกรณีศึกษาเพิ่มเติม
สำหรับตัวอย่างกรณีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการร่วมกันกระทำความผิด ตัวการ จ้าง วาน ใช้ นั้น มีตัวอย่างคำพิพากษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลักสำคัญที่ศาลใช้ในการวิเคราะห์และวินิจฉัยว่าจำเลยนั้นๆมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่ เช่น จำเลยมีพฤติการณ์ยืนคุมเชิงในลักษณะพร้อมช่วยเหลือจำเลยอื่นในขณะนั้นหรือไม่จำเลยมีลักษณะคำพูดที่ข่มขู่หรือขัดขวางผู้ที่กำลังจะมาช่วยผู้เสียหายหรือผู้ตายหรือไม่ จำเลยมีลักษณะคำพูดที่ยุยงจำเลยอื่นในการลงมือหรือไม่ รวมถึงจำเลยมีการแบ่งหน้าที่พิเศษเพื่อให้การกระทำของจำเลยอื่นสำเร็จหรือไม่เป็นต้น ซึ่งถ้าจำเลยมีลักษณะการกระทำดังตัวอย่างดังกล่าวศาลมักจะมีคำพิพากษาลงโทษจำเลย นั้นแม้ไม่ใช่ผู้ลงมือกระทำว่าเป็นการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยอื่นเสมอ
แต่ในบางกรณีแม้จะมีการกระทำที่ดูเสมือนแล้วอาจจะเหมือนกันวางแผนหรือร่วมการกระทำความผิดแต่การมีส่วนร่วมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้กระทำความผิดสำเร็จลงนั้นต้องอยู่ในตำแหน่งหรือความสามารถอำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดของบุคคลอื่นได้หากไม่ใช่กรณีเช่นนั้นแล้วอาจจะยังไม่ถือว่าเป็นการร่วมกระทำความผิดอย่างเช่นตัวอย่างในคำพิพากษาฎีกาที่ 13560/2556 การร่วมกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ต้องเป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดมีส่วนร่วมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ความผิดสำเร็จลงหรืออยู่ในลักษณะที่สามารถให้ความช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดของบุคคลอื่นหรือป้องกันการขัดขวางการกระทำจากบุคคลภายนอก เพื่อให้การกระทำความผิดสำเร็จลง จำเลยที่ 1 ได้โทรศัพท์เรียกผู้ตายออกจากบ้านเพื่อให้จำเลยที่ 3 ใช้อาวุธปืนยิง โดยจำเลยที่ 1 มิได้อยู่ในบริเวณเดียวกับผู้ร่วมกระทำความผิดขณะลงมือกระทำความผิด ที่จะช่วยเหลือหรือดูต้นทางหรืออำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับบุคคลที่ประสงค์จะให้เกิดผลนั้น อีกทั้งจำเลยที่ 1 โทรเรียกผู้ตายออกมาให้จำเลยอื่นลงมือนั้น แต่ผู้ตายไม่ออกมาจำเลยที่ 3 จึงเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในบ้านผลจากการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 3 กับพวกฆ่าผู้ตาย
ซึ่งในคดีข้อหาอุกฉกรรจ์โดยเฉพาะชีวิตและร่างกายนั้น หากไม่ได้มีพยานหลักฐานเป็นภาพวงจรปิด หรือพยานบุคคลแล้ว ต้องอาศัยทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งลำพังระหว่างคำให้การของผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นถือว่าเป็นพยานที่รับฟังได้น้อย แต่ก็จำเป็นต้องรับฟังประกอบหากไม่มีพยานหลักฐานอื่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี