DSI ไม่หวั่นไหวกระทบ"คดีดิไอคอน" หลังศาลอาญายกฟ้อง “DJแมน-ใบเตย-แดริล”ในคดีแชร์ Forex-3D ย้ำทำตามสำนวนและพยานหลักฐาน พร้อมระบุสิทธิ์อัยการจะอุทธรณ์คดีแชร์ Forex-3Dเอง หากไม่ยื่นอุทธรณ์ต้องส่งหนังสือถามความเห็นดีเอสไอก่อน
วันที่ 26 ธันวาคม 2567 จากกรณีที่ศาลอาญา นัดตัดสินพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ 989/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายแดรัล ยังฮุย ไซ หรือไซ ยังฮุย(MR. DARYL CAI YONGHUI) สัญชาติสิงคโปร์, นายพัฒนพล กุญชร หรืออดีตดีเจแมน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือทวีสิน "ใบเตย"นักร้องสาวชื่อดัง, นายฉัตรชัย คชหิน หรือเสือ, นายธีรภัสกร กิมวังตะโก หรือมาร์ค, นายสุรนาถ นาคมุสิก, นายอายุวัต ชัยเมธนรากุล, ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต โดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน กรณีที่พวกจำเลยร่วมกันฉ้อโกงแชร์ Forex-3D โดยการโฆษณาชักชวนลงทุน เสนอผลตอบแทนสูง ก่อนที่สุดท้ายหยุดจ่ายเงินปันผล ถอนเงินทุนและกำไรคืนไม่ได้ พบผู้เสียหาย 9,824 คน วงเงินเกือบ 2,500 ล้านบาท
โดย น.ส.สุธีวัน หรือใบเตย ที่ได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท ต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษา รวมถึงมีการเบิกตัวนายพัฒนพล หรือดีเจแมน อดีตสามีใบเตย และนายแดรัล ยัง จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังคำพิพากษาด้วย โดยล่าสุดศาลอาญาพิพากษาสั่งยกฟ้องดีเจแมน และใบเตย พร้อมพวก เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เบื้องต้นกรณีที่ศาลชั้นต้นได้มีการยกฟ้องจำเลยนั้น การอุทธรณ์จะเป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการที่จะยื่นอุทธรณ์ แต่อัยการก็จะต้องพิจารณาประกอบกับคำพิพากษาของศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำพิพากษาของกลุ่มดีเจแมน และใบเตยในวันนี้จะส่งผลต่อกลุ่มของนักแสดงสาว “พิงกี้" สาวิกา ไชยเดช และกลุ่มของนายอภิรักษ์ โกฎธิ หรือไม่นั้น คาดว่าศาลจะต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล ซึ่งแต่ละรายอาจจะมีความผิดและพยานหลักฐานแตกต่างกันไป เพราะแต่ละคดีไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ถ้ามีเหตุสงสัย ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นหลักการปกติ
เมื่อถามถึงกรณีของคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด หรือคดีพิเศษที่ 119/2567 ที่ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย อยู่ระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑ สถานหญิงกลาง แต่หากในอนาคตศาลชั้นต้นมีการยกฟ้องเช่นกัน จะเกิดความเสียหายอย่างไรหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ชี้แจงว่า คงไม่ มีผลเพราะเป็นหลักทั่วไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แม้หากศาลมีการพิพากษาจำคุกแล้ว ก็ต้องเอาวันที่ถูกคุมขังมาหักออก ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมาย พร้อมย้ำว่าส่วนเรื่องการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล เป็นหน้าที่ของอัยการ
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า กระบวนการเมื่อศาลชั้นต้นพิพาก ษายกฟ้องแล้วนั้น อัยการในฐานะโจทก์จะเป็นผู้พิจารณาการยื่นอุทธรณ์ได้เอง แต่หากไม่อุทธรณ์ ทางอัยการจะมีหนังสือสอบถามมายังดีเอสไอว่าเห็นด้วยกับการที่อัยการไม่อุทธรณ์หรือไม่ ย้ำว่าอำนาจเด็ดขาดเป็นของอัยการ เพราะในชั้นศาลนั้น อัยการ คือ โจทก์ ส่วนดีเอสไอจะเห็นด้วยหรือแย้งกับการที่อัยการไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลหรือไม่นั้น ดีเอสไอต้องดูเหตุผลคำพิพากษาของศาลและอัยการ ทั้งนี้ หากดีเอสไอเห็นว่าควรให้อุทธรณ์คดี ก็จะส่งหนังสือทำความเห็นยืนยันไปถึงอัยการสูงสุดเพื่อให้ทำการชี้ขาด
ส่วนคำพิพากษาศาลอาญาที่ได้ยกฟ้องกลุ่มดีเจแมน ใบเตย จากคดีแชร์ Forex-3D จะส่งผลกระทบต่อสำนวนคดีดิไอคอนฯ เนื่องจากทนายความ"บอสพอล" ระบุก่อนหน้านี้ว่าผู้ต้องหาควรได้สิทธิ์ประกันตัวชั่วคราวไม่ใช่นำตัวมาคุมขัง เพราะศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องเท่ากับว่าจะเป็นเนำผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ภายในเรือนจำนั้น พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมกำหนดเงื่อนไขเป็นแบบนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำอะไรเกินกฎหมาย เพราะดีเอสไอมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนและทำสำนวนสรุปส่งพนักงานอัยการ ส่วนเมื่ออัยการยื่นฟ้องต่อศาล ก็จะเป็นกระบวนการภายในชั้นศาล ดังนั้น การฝากขังผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดีก็เป็นไปตามขั้นตอน ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไปจนถึงชั้นพนักงานอัยการ และไปจนถึงชั้นศาล ทุกอย่างเป็นไปตามช่วงการดำเนินงานและดุลพินิจของหน่วยงาน ส่วนในกรณีการค้านปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ไม่ได้มีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่ค้าน แต่ยังมีในส่วนของผู้เสียหายที่ร่วมคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวด้วย
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า กรณีว่าจะมีการนำคำพิพากษาศาลที่ยกฟ้องไปเทียบเคียงกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสำนวนคดีแชร์ Forex-3D ด้วยหรือไม่นั้น ตนต้องขอเรียนว่าพฤติการณ์ทางคดีและพยานหลักฐานการกรทำความผิดของแต่ละรายแตกต่างกันออกไป เพราะในชั้นศาลจะมีการเบิกความพยาน พยานเอกสาร การสืบประกอบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย จึงอาจมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน เพราะการกระทำของแต่ละคนต่างกัน ศาลจึงต่องไต่สวนและชั่งน้ำหนักจากพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของคดีแชร์ลูกโซ่ที่ดีเอสไอดำเนินการ และสรุปสำนวนไปก่อนหน้านี้นั้น มีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษ
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอคือพนักงานสอบสวนชั้นต้น และเมื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ พนักงานอัยการก็จะมีการกรองอีกชั้น และเมื่ออัยการเห็นด้วยจึงมีความเห็นสั่งฟ้อง ดังนั้น การที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง แสดงว่ามีพยานหลักฐานน้ำหนักพอสมควรแล้ว แต่เมื่อไปสู่ชั้นศาลมันก็ต้องมีการสู้คดี มีการรวบรวมพยานหลักฐานของทั้งโจทก์และจำเลย
เมื่อถามว่าในกลุ่มผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ล็อตแรก คือ กลุ่มของนายอภิรักษ์ โกฎธิ CEO Forex-3D พี่ชายนักเเสดงสาวพิงกี้ รวมถึงมารดาพิงกี้ และพิงกี้ นั้น ดีเอสไอมีการส่งสำนวนไปก่อนแล้ว แต่ต่อมาพนักงานอัยการได้มีหนังสือคำแนะนำให้ดีเอสไอตรวจสอบไปยังบุคคลอีก 16 ราย ซึ่งก็คือกลุ่มดีเจแมนและใบเตย กระบวนการตอนนั้นเป็นอย่างไร พ.ต.ต.วรณัน ชี้แจงว่า เนื่องด้วยพนักงานอัยการได้มีการตรวจสอบในสำนวนคดีเดิม (ล็อตนายอภิรักษ์ โกฎธิ) และเห็นควรว่าควรดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 16 ราย (กลุ่มดีเจแมนและใบเตย) เพราะพยานหลักฐานมันมีอยู่ จึงมีการสอบสวนเพิ่มเติม แต่พอมีการพิจารณาในชั้นศาล ก็เป็นเรื่องของโจทก์และจำเลย ซึ่งดีเอสไอมิอาจไปก้าวล่วงคำพิพากษาของศาลได้
“ย้ำว่าข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในคดีระหว่างคดีแชร์ Forex-3D และคดีแชร์ดิไอคอนฯ มีความแตกต่างกัน และดีเอสไอคือกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นในการรวบรวมหลักฐาน ดังนั้น เมื่อหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็มีความเห็นสั่งฟ้องส่งต่อให้พนักงานอัยการ จึงเป็นเรื่องกระบวนการทำงาน ดีเอสไอทำหน้าที่ตามกระบวนการ ไม่ได้หวั่นไหวใด ๆ “ พ.ต.ต.วรณัน ระบุปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี