มูลนิธิขอบฟ้ากว้างเพื่อบุคคลพิเศษ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จัดงานครบรอบ 7 ปี การทำงานเพื่อคนพิเศษ เตรียมขยับเป็นธุรกิจเพื่อสังคม หวังต่อยอดผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้สูงอายุและเด็กพิเศษ สร้างรายได้ยืนด้วยตนเองได้ มีภาคีเครือข่ายมาร่วมงานกว่า 100 คน

นางสายชล สิงห์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิขอบฟ้ากว้าง กล่าวว่า มูลนิธิขอบฟ้ากว้างเป็นองค์กรเล็กๆ ก่อตั้งโดยผู้ปกครองนักเรียนห้องเรียนขอบฟ้ากว้างของโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง เทศบาลนครขอนแก่นซึ่งเป็นห้องเรียนที่จัดหลักสูตรให้กับเด็กพิเศษ ประกอบด้วยเด็ก ออทิสติกเด็ก LD เด็กดาวน์ซินโดรมและเด็กบกพร่องทางสมอง อันเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ โดยตระหนักถึงการดูแลบุตรหลานซึ่งเป็นเด็กพิเศษในอนาคตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีชุมชนที่พึ่งตนเองได้ วันใดที่ผู้ปกครองไม่อยู่แล้วสามารถวางใจได้ว่าจะฝากชีวิตของลูกอันเป็นที่รักไว้กับชุมชนเพื่อนๆ ของพ่อแม่พวกเขาได้

“การรวมตัวกันเบื้องต้น เป็นเพียงกลุ่มชมรมผู้ปกครองที่ไม่ได้รับการรับรองใดๆ ขาดความน่าเชื่อถือในการประสานงานกับบุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ซึ่งเมื่อ 15 ปีก่อนทางกลุ่มเสียโอกาสในการเข้าถึงสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ จึงได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิโดยหวังว่าจะเป็นองค์กรในการประสานงบประมาณภาครัฐหรือหน่วยงานอื่นในการพัฒนาศักยภาพเด็กพิเศษและผู้ดูแลเป็นกองทุนในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลพิเศษและครอบครัว คือการช่วยกันเพื่อให้ดูแลตนเองได้ลดภาระของภาครัฐให้น้อยที่สุดด้วยการบริหารงานคณะกรรมการที่เน้นประโยชน์และคุณค่าทำงานแบบจิตอาสาในแต่ละปีมูลนิธิมีการจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุนมาสนับสนุนกิจกรรมกว่า 150 ครอบครัว เน้นการพัฒนาศักยภาพพ่อแม่ศักยภาพบุคคลพิเศษในเรื่องพัฒนาการแต่ละวัยให้เท่าทันโอกาสและแสวงหาหนทางสร้างรายได้จนได้รับสิทธิ์มาตรา 35 ในการตั้งกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ผ้าและงานไม้ และต่อยอดมาเป็นผู้นำในการสอนปักผ้าในเมืองขอนแก่นเพื่อบุคคลทั่วไปที่ใช้งานปักผ้าเป็นงานอดิเรกงานอาชีพและล่าสุดลดภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงวัยโดยร่วมกับโรงพยาบาลสิรินธร”นางสายชล กล่าวและว่า

ตลอด 7 ปี มูลนิธิยอมรับว่าการมองเห็นองค์กรของตนเองในบางมุมอาจไม่ชัดเจนในการก้าวเดินต่อไปจึงเป็นโอกาสดีที่วันนี้ได้เชิญผู้ให้การสนับสนุนที่ปรึกษามาชี้แนะเส้นทางที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็งต่อไปได้เพื่อให้เราสามารถยืนได้ด้วยตัวเองและสร้างรายได้จากผลงานที่ทำอยู่ และอยากจะก้าวสู่โมเดลธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้มีรายได้และนำรายได้เสริมศักยภาพของคนในองค์กรให้เข้มแข็ง และเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคต

นางณัฐพร งามเกลี้ยง พัฒนาสังคมและความมั่นคง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเห็นผลงานของมูลนิธิขอบฟ้ากว้างเพื่อบุคคลพิเศษที่ได้เดินมาจนถึงปีที่ 7 แล้วทำให้เห็นเส้นทางการทำงานของกลุ่มครอบครัวบุคคลพิเศษซึ่งมีความพิการหลายประเภท ยอมรับว่าเป็นความยากลำบากของครอบครัวในการดูแลแต่ผู้ปกครองกลุ่มนี้
แสวงหาโอกาสและพยายามพึ่งพาตนเองทั้งการพัฒนาศักยภาพความเป็นพ่อแม่และพัฒนาความสมดุลทางสุขภาวะของลูกหลาน นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม การเรียนรู้และการก่อร่างสร้างตัวกันมายาวนานซึ่งภาครัฐเองก็อยากเห็นประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งกลุ่มที่เข้มแข็งลดการพึ่งพาภาครัฐดั่งอุดมการณ์ของมูลนิธิที่ตั้งเอาไว้

“ผลงานของมูลนิธิซึ่งเห็นได้ชัดว่า มีผลงานสร้างนวัตกรรมที่น่าสนใจควรค่าแก่การขยายผลเช่นความรู้ในเรื่องของศิลปะเพื่อการเยียวยา จัดค่ายบุคคลพิเศษและการใช้ศิลปะการปักผ้าพัฒนาศักยภาพทางสมองและเกิดรายได้ในขณะเดียวกันทำให้เห็นว่าพื้นฐานของมูลนิธิในการก้าวไปสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม มีการสะสมประสบการณ์มาก่อนและมีความพร้อมในการที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งในภาคส่วนของความเป็นมาตรการยินดีที่จะให้การสนับสนุนประคับประคองให้มูลนิธิและบุคคลที่อยู่ในมูลนิธิได้ดำเนินการต่อและสามารถพึ่งพาตัวเองได้ขอแสดงความชื่นชมยินดีและยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่”นางณัฐพร กล่าว

สนธยา ทิพย์อุตร