หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท ไม่เห็นด้วยกรณี เกาะกูด หรือ MOU44 ชี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองกันได้ ในฐานะที่เป็นคนเกาะกูด จะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ยอมให้ใครมาเอาพื้นที่ส่วนนี้ไปจากประเทศไทยได้ พร้อมขีดเส้นตาย1เดือน หากรัฐบาลไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ก็จะยกระดับการเรียกร้องและคัดค้านต่อไป
นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท แถลงข่าวประเด็นเกี่ยวกับเกาะกูด MOU44 ในหัวข้อ เอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองกันได้ ที่โรงแรมดิเอมเมอร์รัล ถนนรัชดาถิเษก กทม.
หลังเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ออกมา เคลื่อนไหวเปิดประเด็นว่าไทยจะเสียดินแดนเกาะกูด จ.ตราด โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีปหรือ "MOU 44" ที่ไทยลงนามร่วมกับกัมพูชาไว้เมื่อปี 2544
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำพรรคร่วมรัฐบาล ก็ออกมาแถลงโต้ยืนยันเกาะกูดเป็นของไทย และเอ็มโอยูที่ลงนามเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ไม่ได้มีผลทำให้ไทยเสียดินแดนเกาะกูด
โดยเรื่องนี้ นายเกียรติภูมิ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตัวเองเกิดและเติบโต พร้อมทั้งเป็นเจ้าของที่ดินบนเกาะกูด ยืนยันตั้งเเต่เกิดมาก็รับรู้มาตลอดว่าเกาะกูดเป็นของคนไทย ไม่ใช่ของกัมพูชา และไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลดำเนินการไปตามสัญญา MOU44 เพราะนั้นอาจทำให้ไทยเสียดินแดนในส่วนนี้ไปได้ ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ซึ่งตัวเองและชาวเกาะกูด ก็จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมมองว่า MOU44 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้ผ่านรัฐสภา ถือว่าสัญญาเป็นโมฆะได้
นายเกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ปัญหาเกิดขึ้น หลังจากกัมพูชาประกาศเส้นเขตแดนทางทะเลในปี 2515 แต่ไม่เป็นไปตามหลักสากล เพราะหากจะยึดจริงๆต้องลากระหว่างกลางของเกาะกูด และเกาะกง เพราะฉนั้นเขตแดนนี้ก็ไม่เป็นไปตามสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศษ ตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง
ทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีพระบรมราชโองการ ประกาศเส้นเขตแดนของไทยเองเช่นกัน ซึ่งปรากฏในพระบรมราชโองการประกาศเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทยปี 2516 และตามด้วยการประกาศเขตไหล่ทวีปของเวียดนามในปี 2517
การประกาศเขตแดนของไทยและกัมพูชาดังกล่าวทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนกันซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน” Overlapping Claims Area (OCA) ขนาด 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นอ้างสิทธิ์ที่แต่ละประเทศต่างประกาศออกมา ซึ่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระบุว่า "พื้นที่ดังกล่าวกว้างใหญ่กว่าพื้นที่ OCA ระหว่างไทยและกัมพูชา 4 เท่า"
ในฐานะที่เป็นชาวเกาะกูด จึงอยากให้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไทยไว้ และศึกษารายละเอียดเชิงลึกในเรื่องนี้อย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าไทยจะไม่ยอมเสียดินแดนในส่วนนี้ไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
และได้อ่านแถลงการณ์ไปยังประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า พื้นที่เกาะกูดเป็นของไทยตั้งแต่แรก
พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมกัมพูชาถึงอยากได้พื้นที่เกาะกูด อาจเป็นเพราะพื้นที่ของไทยนั้นมีทรัพย่กรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และมีน้ำมันอยู่ภายในบริเวณนี้ด้วย
โดยนายเกียรติภูมิได้ขีดเส้นตายให้รัฐบาลเป็นระยะเวลา1เดือน หากรัฐบาลยังเงียบไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ก็จะทำการยกระดับกสรเรียกร้องในเรื่องดังกล่าวต่อไป เพราะจะไม่ยอมให้ใครมารุกราน หรือ มาเอาอธิปไตยของชาติไทยไปเป็นอันขาด และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองกันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี