‘ศาลยุติธรรม’เตือนประชาชนเดินทางช่วง‘ปีใหม่’ ไม่เคารพกฎจราจร โทษหนัก
28 ธันวาคม 2567 นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ ศาลยุติธรรมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามพื้นที่ต่างๆ ขอให้ทุกท่านเดินทางด้วยความปลอดภัย ใช้รถใช้ถนนด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยและเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ศาลยุติธรรมยังคงเปิดทำการในวันหยุดตามประกาศของศาลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อการอำนวยความยุติธรรมแก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว การพิจารณาคำร้องขอออกหมายจับ-หมายค้น หรือการพิจารณาพิพากษาคดีในบางกรณีที่จำเป็นจะต้องตัดสินภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมาย โดยข้อหาที่มีการนำมาฟ้องมากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่คือ ความผิดฐานเมาแล้วขับ ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(2) ซึ่งศาลสามารถใช้ดุลยพินิจลงโทษ ตามมาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่60,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ทั้งนี้ ในความผิดฐานเมาแล้วขับ แม้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเกิดความเสียหาย แต่หากศาลเห็นว่าเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนที่ร่วมใช้ถนนสัญจรไปมา และเห็นว่ารถที่ขับขณะเมาสุราเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ศาลอาจใช้ดุลพินิจสั่งริบรถดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) เช่นเดียวกับการรอการลงโทษและการคุมประพฤติ ที่เป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณาพิพากษาคดีตามเงื่อนไขของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำว่า บทบัญญัติของกฎหมายมีไว้เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้ทุกคนในสังคมปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องและอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข มั่นคง ปลอดภัย ขณะที่ศาลใช้ดุลยพินิจตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอย่างเหมาะสมตามพฤติการณ์เพื่อคุ้มครองทุกคน ดังนั้น ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวก็ให้ทุกคนตระหนักเป็นอย่างยิ่งเคารพกฎจราจรและผู้ที่ใช้ถนนร่วมกัน เพื่อไม่ต้องเสียทรัพย์สิน หรือเสียเวลาในการถูกดำเนินคดี โดยเดินทางกลับบ้านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลกับครอบครัวได้อย่างมีความสุข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี