เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ที่จุดตรวจ 10 วันระวังอันตราย บนถนนสายตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง พล.ต.ต ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองตรังและตำรวจจราจร สภ.เมืองตรัง มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หวังลดอัตราการเสียชีวิตในห้วงดังกล่าวให้เป็นศูนย์ ทำให้ชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านถนนสายดังกล่าว และไม่ได้สวมหมวกกันน็อค พากันตกใจกลัว หน้าซีด ยิ้มไม่ออก หลังถูกตำรวจจราจรโบกให้จอด โดยทุกคนคิดว่าจะต้องเสียค่าปรับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรัยภัยในขณะขับขี่รถคนละ 500 บาทอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายตำรวจเรียกไปอบรมสั่งสอน ก่อนจะแจกหมวกกันน็อคให้ฟรีคนละใบ และให้สวมใส่ทันทีเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ชาวบ้านมีรอยยิ้มและขอบคุณตำรวจที่ได้ให้ความช่วยเหลือ
โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง สวมหมวกกันน็อคให้กับครอบครัว พ่อแม่ลูกที่กำลังเดินทางเข้าตัวเมืองตรัง เพื่อไปหาซื้อสินค้ามาเลี้ยงฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเมื่อได้รับหมวกกันน็อคครบทุกคนแล้ว ต่างคนต่างก็ขับรถออกจากด่านตรวจด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า
สำหรับที่ จ.ตรัง ได้รับการจัดสรรหมวกกันน็อคจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาจำนวน 612 ใบ โดยระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2567-5 มกราคม 2568 จะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปตามจุดตรวจต่างๆ ทั้ง 10 อำเภอใน จ.ตรัง เพื่อแจกหมวกกันน็อคให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ในช่วง 10 วันระวังอันตรายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพื่อช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย
ขณะที่ พล.ต.ต ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับ จ.ตรัง ได้รับการจัดสรรหมวกกันน็อคมาจำนวน 612 ใบ เพื่อแจกจ่ายไปตามสถานีตำรวจต่างๆ ทุกอำเภอ เพื่อให้ช่วยกันรณรงค์เรื่องการสวมหมวกนิรภัย โดยใครที่ไม่มีหมวกก็จะแจกหมวกเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ซึ่งที่ จ.ตรัง วันนี้ (28 ธ.ค.) ยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วมากพอสมควร โดยในช่วงนี้ประชาชนใช้รถใช้ถนนค่อนข้างจะเยอะเพราะได้เดินทางกลับภูมิลำเนาบ้าง ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ บ้าง จึงขอให้ตระหนักถึงวินัยจราจรและความปลอดภัยของตัวเองด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเราเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวจึงเป็นสถานที่สำคัญ นอกจากนั้นก็เป็นตามชุมชนต่างๆ ที่ประชาชนมีการสัญจรไป-มา หรือการจับจ่ายใช้สอย ก็เป็นอีกจุดหนึ่ง โดยภาพรวมจึงต้องครอบคลุม และเฝ้าระวังในทุกพื้นที่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี