เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน รวมถึงชาวไทย 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เหตุเกิดวันที่ 29 ธ.ค.67 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในนั้นเป็นคนไทย 2 คน และหนึ่งในผู้ที่เสียชีวิต คือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวบ้าน บ้านหนองแสงหมู่ 6 ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 38/1 บ้านหนองแสง หมู่ 6 ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบกับญาติๆ และคุณพ่อของ น.ส.จงลักษ์ กำลังจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และปรึกษาหารือกันในการที่จะดำเนินการกับศพของลูกสาวกลับคืนมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอหนองวัวซอ เดินทางมาสอบถามรายละเอียดข้อมูลด้วย
นายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปี พ่อของ น.ส.จงลักษ์ เปิดเผยว่า รู้ข่าวตกใจแทบช็อคเมื่อรู้ว่าลูกสาวเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่เครื่องบินลื่นไถลตกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าว รู้ข่าวเมื่อสายวันนี้เมื่อลูกๆ เอาคลิปและโทรมาบอกว่า น.ส.จงลักษ์ ลูกสาวคนสุดท้องเสียชีวิตแล้ว รู้ข่าวตอนแรกไม่เชื่อ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาว แต่เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว น้ำตาพ่อร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว ตนเองมีลูก 3 คน ผู้ชาย 2 คน และผุ้หญิง 1 คน ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด รวมทั้ง น.ส.จงลักษ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้อง ไปทำงานที่เกาหลีใต้ประมาณ 7 ปีแล้ว และไปแบบถูกต้องตามกฎหมาย จนได้สามีชาวเกาหลีใต้ ชื่อ เจโฮ จัง ทำงานโรงงานที่เมืองนาจู
ปกติลูกสาวจะมาเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.อุดรธานี ปีละครั้ง และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ลูกสาวพาสามีชาวเกาหลีใต้ที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาเที่ยวเมืองไทย มาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.แล้วพากันไปเที่ยวหลายที่ จากนั้นลูกสาวก็ส่งสามีกลับก่อน จนมาวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้บินกลับไปเกาหลี มารู้ข่าวอีกทีตอนเช้านี้ว่าลูกสาวเสียชีวิต พ่อไม่รู้จะพูดอะไร มีแต่ร้องไห้ ถามเรื่องลางสังหรณ์ ก็มีบ้าง ลูกสาวบอกว่า ถ้าครอบครัววุ่นวายกันนักก็จะไม่กลับมาอีก ช่วงนั้นลูกสาวมาพักที่ จ.อุดรธานี วันที่ 9 - 13 ธ.ค.คงน้อยใจไม่ได้เอารถไปส่งลูกสาว เพราะว่าติดส่งญาติป่วย และอีกเรื่องลางสังหรณ์คือ ลูกสาวยื่นเงินให้ 10,000 บาท บอกว่าให้เอาไปจ่ายค่าฌาปนกิจของลูกสาวเองที่ทำไว้กับกองทุนหมู่บ้าน ไม่คิดว่าเงิน 10,000 บาท จะเป็นเงินสุดท้าย ต้องมาจัดงานศพกับลูกสาว พ่ออยากได้ศพลูกสาวมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ขอดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย และฝากอยากบอกลูกสาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี คนเป็นพ่อก็คิดถึงลูกอยู่ เพราะมีลูกสาวคนเดียว หัวอกพ่อพูดไปน้ำตาก็คลอไป
ทั้งนี้ น.ส.จงลักษ์ มาเมืองไทยกับสามีชาวเกาหลี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.67 ช่วงระหว่างวันที่ 1 - 8 ธ.ค.ไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ กับสามี จากนั้น 9 - 13 ธ.ค.67 เดินทางมาเที่ยวที่ จ.อุดรธานี วันที่ 14 ธ.ค.เดินทางไปส่งสามีที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อกลับเกาหลีไปก่อน จากนั้น น.ส.จงลักษ์ ได้กลับไปที่ จ.พิจิตร อยู่กับลูกๆ 2 คน แล้วเดินทางลงกรุงเทพฯ ขึ้นเครื่องเมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา จนเช้าวันนี้มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ด้าน นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยก เปิดเผยว่า ทางด้านความช่วยเหลือที่หลานสาวคุณจงลักษ์ได้ประสานเฮียเปี๊ยกมา ทางเฮียเปี๊ยกและทนายโนบิ จะช่วยประสานเรื่องการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล ส่วนเรื่องการชดใช้เยียวยา เชื่อว่าทางสายการบินต้องมีการเยียวยาแน่นอน แต่ถ้าการเยียวยานั้นทางญาติยังติดใจ ก็สามารถที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับสายการบินได้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี