ตำรวจ สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รวบทันควัน 2 เยาวชน 16 และ 14 ปี ยิงตัดขั้วหัวใจลูกชาย อบต.ดับกลางถนน ขณะขี่จยย.กลับจากเที่ยวรถแห่กับกลุ่มเพื่อน จะไปเคาท์ดาวน์กับครอบครัวเหลือแค่ 3 นาทีจะถึงวันปีใหม่ ขณะที่ยายร้องไห้แทบขาดใจ ด้านมือปืนอ้างอีกฝ่ายจะใช้มีดฟันจึงยิงสวน ขอโทษครอบครัวพร้อมรับผิด
1 ม.ค.68 พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมพ.ต.ท.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สารวัตรสืบสวน สภ.คูเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูเมือง ได้ติดตามจับกุมนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ และ ด.ช.เอ็ม อายุ 14 ปี ชาว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ได้ที่บ้านหนองเครือ ต.แคนดง อ.แคนดง พร้อมอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ และรถจักรยานยนต์ของกลาง หลังได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นประดิษฐ์ที่ตรวจยึดได้ ยิงนายธนพัฒน์ แสนกล้า หรือ นัท อายุ 22 ปี ลูกชายสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ม.3 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง เสียชีวิตเมื่อเวลา 23.57 น. (31 ธ.ค.67) ที่ผ่านมา ก่อนถึงวันปีใหม่เพียง 3 นาที ที่บริเวณถนนสาธารณะบ้านดงย่อ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง ห่างจากบ้านของผู้ตายเพียงประมาณ 2 กิโลเมตร
จากการสอบถามนายเอ อายุ 16 ปี มือยิงให้การว่า คืนเกิดเหตุ ด.ช.บี และ ด.ช.ซี อายุ 14 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องในกลุ่มเดียวกัน ได้ไปเที่ยวรถแห่ที่บ้านหนองขุนพรม ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งตนไม่ได้ไปด้วย แต่จู่ๆ น้องโทรศัพท์มาหาประมาณ 3 สาย บอกว่าเจอกลุ่มวัยรุ่นคู่อริในงานรถแห่ประมาณ 30 คน แต่พวกรุ่นน้องมีกันแค่ 2 คน จึงไม่กล้ากลับบ้าน จากนั้นตนจึงไปชวนเพื่อนไปด้วยรวมประมาณ 6 คนเพื่อไปพาน้องกลับบ้าน แต่ระหว่างทางที่ขับรถจะไปหาน้อง 2 คน เพื่อพากลับบ้านก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 30 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามน้องมา ก็มีการปาระเบิดปิงปองใส่กัน และอีกฝ่ายพยายามจะใช้มีดฟัน ตนจึงชักปืนที่พกติดตัวมาด้วยยิงสวนไปในกลุ่ม ก่อนจะพากันขับรถไปนอนที่บ้านเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าปืนที่ยิงไปโดนใครหรือไม่ กระทั่งรุ่งเช้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามจับกุมตัวตนเอง และเพื่อนที่ขับรถจักรยานยนต์พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนที่ตนเก็บไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ถึงรู้ว่ากระสุนที่ตนยิงออกไปโดนอีกฝ่ายเสียชีวิต
นายเอ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้จักหรือมีเรื่องกับผู้ตาย และเพื่อนของคนตายมาก่อน แต่รุ่นน้องในกลุ่มอาจจะเคยมีเรื่องกับรุ่นน้องในกลุ่มของคนตาย และวันเกิดเหตุน้องโทรศัพท์มาตามให้ไปพากลับบ้านก็ไม่คิดว่าจะเกิดบานปลาย ส่วนปืนก็พกไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ก็ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมรับผิดทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาเล็งยิงให้เจ็บหรือเสียชีวิต แค่ชักปืนออกมายิงข่มขู่เท่านั้น
จากนั้นทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ยังพบกองเลือดและรอยเลือดหยดเป็นทางยาว ส่วนบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 98 ม. 3 ต.ดงย่อ อ.คูเมือง ทางครอบครัวและญาติก็ได้มีการจัดเตรียมสถานที่รอรับร่างนายธนพัฒน์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ที่ รพ.คูเมือง บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางหนู อุทัยวี อายุ 84 ปี ยายของนายธนพัฒน์ ก็ร้องไห้แทบขาดใจเพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียหลานชายอันเป็นที่รัก
โดยยาย พูดทั้งน้ำตาว่า คืนเกิดเหตุที่บ้านกำลังจะจัดงานวันเกิดให้กับหลานสาวซึ่งเป็นพี่สาวของคนตาย พร้อมกับจัดงานฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปด้วย ก็ไม่รู้ว่าหลานออกไปข้างนอก มารู้อีกทีมีคนโทรมาบอกพ่อกับแม่เขาว่าหลานโดนยิงเสียชีวิตแล้ว เสียใจมากไม่คิดว่าหลานจะจากไปเร็วแบบนี้ ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่ยิงหลานตาย
ขณะที่ นายฐานันดร หรือโอ๊ต อายุ 19 ปี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย และเพื่อนในกลุ่ม 7 – 8 คัน ได้พากันไปเที่ยวงานรถแห่ที่บ้านหนองขุนพรม ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง ในงานก็ไม่ได้มีปัญหากับใคร กระทั่งช่วงประมาณ 5 ทุ่มกว่า ก็พากันขับขี่ จยย.จะกลับบ้าน ซึ่งนายธนพัฒน์ หรือพี่นัท ก็นั่งกับแฟนสาวเพื่อจะกลับไปงานวันเกิดพี่สาว และฉลองปีใหม่กับครอบครัวที่บ้าน แต่ก่อนจะถึงบ้านราว 2 กิโลเมตร ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4 คัน ขับสวนมาแล้วยิงปืนใส่พวกตน จนกระสุนโดนหน้าอกข้างซ้ายของพี่นัท พอตนเดินไปดูก็เห็นแฟนสาวกอดร่างพี่นัทร้องไห้ จึงรีบพาขึ้นรถไปส่งที่บ้าน จากนั้นที่บ้านก็พาไปส่ง รพ.คูเมือง แต่พี่เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตระหว่างทาง
"ส่วนตัวและพี่นัท ไม่ได้รู้จักหรือมีปัญหาอะไรกับคนก่อเหตุ ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยิง แต่คนในกลุ่มที่ไปด้วยกันจะเคยมีเรื่องกับคนในกลุ่มนั้นหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่จังหวะขับสวนกันเขาก็ยิงใส่เลย ก็อยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่นัทที่เสียชีวิตด้วย อยากให้ดำเนินคดีกับคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด"นายฐานันดร กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง ได้แจ้งข้อหา 2 เยาวชนที่ถูกจับกุม 2 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พ.ร.บ.อาวุธปืน” แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังเป็นเยาวชนก็ต้องประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี